Leadership research has evolved int

Leadership research has evolved into two broad streams;
trait research and behavior research [19]. Trait theories
assess the impact of personal characteristics such as age,
gender, personality, and experience on leader effectiveness.
Research in the behavior tradition has documented and
categorized different leadership styles. These theories suggest
that different behavior styles will be more, or less,
effective in different contexts and for different decisions
[19]. The two main behavior categories that have been
consistently supported in the leadership literature are task-
oriented behaviors and relational-oriented behaviors. Taskoriented
or ‘‘initiating structure’’ leaders are more concerned
with coordinating team activities, defining task
roles, determining standards of performance and assessing
performance. Relational or ‘‘consideration’’ behaviors
include showing concern, treating members as equal, being
open to input, and being friendly and approachable [20].
Consideration and initiating structures have ‘‘proven to be
among the most robust of leadership concepts’’, and have
been validated in a number of studies [21]. There have been
few efforts to integrate the two streams of research [19], and
since this study is concerned with improving RTW success,
we focus on potentially modifiable leadership styles rather
than more static heritable traits.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้วิจัยได้พัฒนาเป็นลำธารกว้างสองวิจัยลักษณะและลักษณะการทำงานวิจัย [19] ทฤษฎีลักษณะประเมินผลกระทบของลักษณะส่วนบุคคลเช่นอายุเพศ บุคลิกภาพ และประสบการณ์ประสิทธิภาพผู้นำวิจัยในลักษณะการทำงานได้จัดทำเอกสาร และแบ่งลักษณะผู้นำที่แตกต่างกัน แนะนำทฤษฎีเหล่านี้ว่า ลักษณะพฤติกรรมที่แตกต่างจะเติม หรือในบริบทที่แตกต่าง และตัดสินใจแตกต่างกันอย่างมีประสิทธิภาพ[19] สองประเภททำงานหลักที่ได้รับอย่างสม่ำเสมอได้รับการสนับสนุนในวรรณคดีเป็นผู้นำเป็นงาน-เชิงพฤติกรรมและพฤติกรรมที่เน้นเชิง Taskorientedหรือผู้นำ ''เริ่มต้นโครงสร้าง '' เป็นห่วงมีการประสานงานกิจกรรมต่าง ๆ งาน definingบทบาท กำหนดมาตรฐานประสิทธิภาพการทำงาน และการประเมินประสิทธิภาพการทำงาน พฤติกรรมเชิงหรือด้วย ''''รวมถึงแสดงความกังวล รักษาสมาชิกเป็นเท่า ถูกการป้อนข้อมูล และความเป็นอยู่ และเป็นมิตร [20]พิจารณาและกำลังเริ่มโครงสร้างมี '' การพิสูจน์ระหว่างที่แข็งแกร่งที่สุดของแนวคิดภาวะผู้นำ '', และมีรับการตรวจสอบในจำนวนของการศึกษา [21] มีการน้อยพยายามรวมกระแสสองงานวิจัย [19], และตั้งแต่การศึกษานี้เกี่ยวข้องกับการพัฒนาความสำเร็จ RTWเราเน้นรูปแบบภาวะผู้นำ modifiable อาจจะกว่ามากคง heritable ลักษณะงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป็นผู้นำการวิจัยมีการพัฒนาเป็นสองสายกว้าง;
วิจัยและพฤติกรรมลักษณะการวิจัย [19] ทฤษฎีลักษณะ
ประเมินผลกระทบของลักษณะส่วนบุคคลเช่นอายุ
เพศบุคลิกภาพและประสบการณ์เกี่ยวกับประสิทธิภาพผู้นำ.
การวิจัยในประเพณีพฤติกรรมมีเอกสารและ
แบ่งรูปแบบการเป็นผู้นำที่แตกต่างกัน ทฤษฎีเหล่านี้ชี้ให้เห็น
ว่ารูปแบบพฤติกรรมที่แตกต่างจะมีมากขึ้นหรือน้อยกว่า
ที่มีประสิทธิภาพในบริบทที่แตกต่างกันและการตัดสินใจที่แตกต่างกัน
[19] สองประเภทพฤติกรรมหลักที่ได้รับการ
สนับสนุนอย่างต่อเนื่องในวรรณคดีเป็นผู้นำที่มี task-
พฤติกรรมที่มุ่งเน้นและพฤติกรรมเชิงสัมพันธ์ที่มุ่งเน้น Taskoriented
หรือ '' เริ่มต้นโครงสร้าง '' ผู้นำมีความกังวลเกี่ยว
กับการประสานงานกิจกรรมของทีมเด Fi หนิงงาน
บทบาทการกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานและการประเมิน
ผลการปฏิบัติงาน สัมพันธ์หรือ '' พิจารณา '' พฤติกรรม
รวมถึงการแสดงความกังวลการรักษาสมาชิกที่เท่าเทียมกันเป็น
เปิดให้การป้อนข้อมูลและเป็นมิตรและเข้าถึง [20].
พิจารณาและเริ่มต้นโครงสร้างมี '' การพิสูจน์แล้วว่า
ในหมู่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของแนวคิดผู้นำ '' และได้
รับการตรวจสอบในจำนวนของการศึกษา [21] มีการ
พยายามไม่กี่ที่จะบูรณาการทั้งสองกระแสของการวิจัย [19] และ
ตั้งแต่การศึกษาครั้งนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงความสำเร็จ RTW,
เรามุ่งเน้นที่อาจเกิดขึ้น Modi Fi แบบภาวะผู้นำสามารถที่ค่อนข้าง
กว่าลักษณะทางพันธุกรรมแบบคงที่มากขึ้น