Raoul Dufy, La Fôret, ca. 1911 prin

Raoul Dufy, La Fôret, ca. 1911 printed cotton
(Courtesy FDIM Museum, Los Angeles).

Then at the peak of his influence, Poiret was known simply as Le Magnifique, a reference to Sultan Süleyman the Magnificent, who had led Ottoman Empire to its most expansive and powerful. Working with fabric directly on the body, Poiret pioneered a radical approach to dressmaking that relied on the skills of draping rather than tailoring and pattern making. Looking to antique and regional dress, in particular “oriental” styles, Poiret advocated clothing cut along straight lines and constructed of rectangles. More practically, Poiret’s trailblazing notions about fashion liberated women from the Edwardian corset.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Raoul Dufy, La Fôret, ca. 1911 พิมพ์ผ้าฝ้าย(พิพิธภัณฑ์ FDIM มารยาท ลอสแอนเจลิ)แล้ว ที่สูงสุดของอิทธิพลของเขา Poiret ถูกเรียกเพียงว่าเลอหรูสะท้อนถึง อ้างอิงในการรวมตัวใหม่ของสุลต่านงดงาม ที่ได้นำจักรวรรดิออตโตมันกว้างขวางมากที่สุด และมีประสิทธิภาพ ทำงานกับผ้าบนร่างกาย Poiret บุกเบิกวิธีการรุนแรงเพื่อ dressmaking ที่อาศัยทักษะของการแต่งตัวมากกว่าการทำลวดลายและการตัดเย็บ ต้องการเครื่องแต่งกายโบราณ และภูมิภาค ลักษณะเฉพาะ "ตะวันออก" Poiret สนับสนุนเสื้อผ้าตัดตามเส้นตรง และสร้างสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทางปฏิบัติ ความคิดความของ Poiret เกี่ยวกับแฟชั่นปลดปล่อยผู้หญิงรัดเอ็ดเวิร์ด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ราอูล Dufy, La Foret แคลิฟอร์เนีย 1911 ผ้าฝ้ายพิมพ์
(พิพิธภัณฑ์ FDIM มารยาท, Los Angeles). แล้วที่จุดสูงสุดของอิทธิพลของเขา Poiret เป็นที่รู้จักกันแค่ในฐานะเลอ Magnifique อ้างอิงถึงสุลต่านSüleymanอันงดงามที่ได้นำจักรวรรดิออตโตมันที่จะขยายตัวมากที่สุดและมีประสิทธิภาพ การทำงานกับผ้าโดยตรงบนร่างกาย Poiret เป็นผู้บุกเบิกวิธีการรุนแรงในการตัดเย็บเสื้อผ้าที่อาศัยในทักษะของการแต่งตัวมากกว่าการตัดเย็บและรูปแบบการทำ มองไปในชุดโบราณและในระดับภูมิภาคโดยเฉพาะในรูปแบบ "โอเรียนเต็ล" Poiret สนับสนุนตัดเสื้อผ้าตามเส้นตรงและสร้างรูปสี่เหลี่ยม มากขึ้นในทางปฏิบัติ Poiret ของความคิดเกี่ยวกับแฟชั่น trailblazing ปลดปล่อยผู้หญิงจากรัดตัวเอ็ดเวิร์ด