For heavy-duty trucks, driving styl

For heavy-duty trucks, driving style is generally acknowledged to be the single greatest influence on vehicle fuel performance. Various studies have estimated that regular training in fuel-efficient driving techniques can yield fuel savings up to 15%- 20% per vkm. A British study found trained drivers were 6% more fuel-efficient than untrained drivers.
Relatively few drivers receive proper training on a regular basis. Constant reminders to drivers and regular feedback on performance are valuable tools for improving driver performance. Several emerging information technologies also may help drivers boost efficiency:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สำหรับรถบรรทุกหนัก การขับขี่ที่เป็นโดยทั่วไปยอมรับเป็น อิทธิพลมากเดียวประสิทธิภาพเชื้อเพลิงยานพาหนะ ศึกษาต่าง ๆ มีประมาณว่า ฝึกเทคนิคการขับขี่อย่างปกติสามารถให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 15% - 20% ต่อ vkm การศึกษาในอังกฤษพบไดรเวอร์ที่ผ่านการฝึกอบรม 6% วิ่งกว่าโปรแกรมควบคุมที่ได้รับการฝึกฝน โปรแกรมควบคุมที่ค่อนข้างน้อยได้รับการฝึกอบรมที่เหมาะสมเป็นประจำ เตือนความจำคงที่โปรแกรมควบคุมและคำติชมทั่วไปประสิทธิภาพการทำงานสำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของโปรแกรมควบคุมได้ เทคโนโลยีข้อมูลใหม่ ๆ หลายอาจช่วยควบคุมเพิ่มประสิทธิภาพ:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สำหรับรถบรรทุกหนักสไตล์การขับรถได้รับการยอมรับโดยทั่วไปจะอิทธิพลมากที่สุดเดียวเกี่ยวกับประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงของยานพาหนะ การศึกษาต่างๆได้มีการประมาณการว่าการฝึกอบรมประจำในเทคนิคการขับขี่ที่ประหยัดน้ำมันสามารถให้ผลผลิตประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 15% - 20% ต่อ VKM การศึกษาของอังกฤษพบว่าคนขับรถได้รับการฝึกฝนเป็น 6% ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นกว่าคนขับรถได้รับการฝึกฝน.
คนขับรถค่อนข้างไม่กี่ได้รับการฝึกอบรมที่เหมาะสมเป็นประจำ การแจ้งเตือนอย่างต่อเนื่องกับคนขับรถและข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงานประจำเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าสำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพการขับขี่ หลายที่เกิดขึ้นใหม่เทคโนโลยีสารสนเทศนอกจากนี้ยังอาจช่วยให้ผู้ขับขี่เพิ่มประสิทธิภาพ:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สำหรับรถบรรทุกหนักลักษณะการขับขี่โดยทั่วไปว่า เป็นเดี่ยวมากที่สุดที่มีประสิทธิภาพน้ำมันเชื้อเพลิงของยานพาหนะ การศึกษาต่างๆได้ประมาณว่า ปกติการฝึกเทคนิคการขับขี่แบบประหยัดเชื้อเพลิง สามารถให้ผลผลิตได้ถึง 15% - 20% ต่อ vkm . การศึกษาของอังกฤษพบการฝึกอบรมไดรเวอร์เป็น 6 % ประหยัดพลังงานมากกว่ามือใหม่ไดรเวอร์ค่อนข้างไม่กี่ไดรเวอร์ได้รับการฝึกอบรมที่เหมาะสมเป็นประจำ การแจ้งเตือนไดรเวอร์ที่คงที่และความคิดเห็นทั่วไปในการปฏิบัติงานเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าสำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพของคนขับ หลายที่เกิดขึ้นใหม่เทคโนโลยีสารสนเทศยังอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพไดรเวอร์