The differential of this paper is t

The differential of this paper is to consider that compulsive buying and ill-being perception constructs act in opposite dimensions on credit card use and debt. While compulsive buying leads the individual to a higher credit card usage and therefore more debt, the perception that future financial problems would cause ill-being acts as a controlling force of the credit card use and consequently of the debt. Besides the model development, this study aims to evaluate if the model is suitable for men and women. A survey was conducted with 1831 individuals of three regions of Brazil. Results support the idea that in the purchase decision-making process with credit card, two forces act in opposite directions, while the compulsive buying stimulates usage and debt, the ill-being perception discourages it. However, this trade-off is unbalanced, because the impact of compulsive buying’s coefficients is superior to the ill-being perception ones.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แตกต่างของเอกสารนี้คือการ พิจารณาการซื้อที่บังคับครอบงำ และรับรู้ ill-being constructs กระทำตรงข้ามมิติและใช้บัตรเครดิตและหนี้ ในขณะที่ซื้อบังคับครอบงำไปสู่แต่ละบุคคลในการใช้บัตรเครดิตสูงและดังมากกว่าหนี้ การรับรู้ว่า จะทำให้เกิดปัญหาทางการเงินในอนาคต ill-being ทำหน้าที่เป็นกองควบคุมการใช้บัตรเครดิต และจากนั้นภาระหนี้ นอกจากการพัฒนารูปแบบ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินว่ารูปแบบเหมาะสมสำหรับผู้ชายและผู้หญิง การสำรวจดำเนินการกับบุคคลที่ 1831 สามภูมิภาคของบราซิล ผลสนับสนุนความคิดที่ว่า กระบวนการตัดสินใจซื้อด้วยบัตรเครดิต พระราชบัญญัติกองกำลังสองในทิศทางตรงข้าม ขณะซื้อบังคับครอบงำกระตุ้นการใช้งานและหนี้ การรับรู้ ill-being ไม่แนะนำให้มัน อย่างไรก็ตาม นี้ปิดไม่สมดุล เนื่องจากผลกระทบของการบังคับครอบงำซื้อของสัมประสิทธิ์จะดีกว่าการรับรู้ ill-being คน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ค่าของการวิจัยนี้คือการพิจารณาว่าการซื้อบีบบังคับและป่วยเป็นอยู่สร้างการรับรู้ในมิติที่ทำหน้าที่ตรงข้ามกับการใช้บัตรเครดิตและหนี้ ในขณะที่ซื้อบีบบังคับนำไปสู่บุคคลที่จะใช้งานบัตรเครดิตที่สูงขึ้นและหนี้ดังนั้นจึงรับรู้ว่าปัญหาทางการเงินในอนาคตจะทำให้เกิดการป่วยเป็นอยู่ทำหน้าที่เป็นแรงควบคุมการใช้บัตรเครดิตและทำให้หนี้ นอกจากนี้การพัฒนารูปแบบการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินว่ารูปแบบที่เหมาะสมสำหรับผู้ชายและผู้หญิง การสำรวจได้ดำเนินการกับบุคคลที่ 1831 ในสามของภูมิภาคของประเทศบราซิล ผลการสนับสนุนความคิดที่ว่าในการซื้อกระบวนการตัดสินใจด้วยบัตรเครดิตทั้งสองกำลังทำหน้าที่ในทิศทางตรงข้ามในขณะที่การซื้อบีบบังคับช่วยกระตุ้นการใช้งานและหนี้การรับรู้ที่ป่วยเป็นอุปสรรคมัน แต่นี้การปิดไม่สมดุลเพราะผลกระทบของค่าสัมประสิทธิ์การบังคับซื้อของจะดีกว่าที่จะป่วยเป็นคนที่รับรู้