B: say whether each statement is tr

B: say whether each statement is true, false or not given. If not enough information is given in the reading text, write not given. If the statement is false, explain why it is false.
1. A mask not only covers the face, but also hides our character
2. Some masks are 20,000 years old.
3. In some countries, people believe that masks have magical powers.
4. In Africa and Asia, witch-doctor wear masks to frighten their patients.
5. Halloween is celebrated by children in western countries.

C: write a short answer for each question
1. What are masks?
2. How long have people been wearing masks?
3. What do people in some countries believe about masks?
4. How are masks important in Indonesian dance drama?
5. How, according to some people, does a mask affect its wearer?
D: Read the passage again and answer the following questions.
1. What do we call someone who uses magic to help sick people?
2. Which word in the second paragraph means ‘make well again’ or ‘make an illness disappear completely’?
3. What is the art form called in which actors play the character in a story?
4. What do we call a play in which the words are to set music and sung?
5. Find the phrasal verb in the fourth paragraph which means ‘begins be like' or 'becomes'.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

B:บอกว่า แต่ละประโยคเป็นจริง false หรือไม่ให้ ถ้าข้อมูลไม่เพียงพอจะให้ข้อความอ่าน เขียนไม่ได้กำหนด ถ้าประโยคที่เป็นเท็จ อธิบายทำไมมันเป็นเท็จ1.หน้ากากไม่เพียงครอบคลุมหน้า แต่ยัง ซ่อนอักขระของเรา2. บางรูปแบบมีอายุ 20000 ปี3. ในบางประเทศ คนเชื่อว่า รูปแบบมีพลังวิเศษ4. ในแอฟริกาและเอเชีย หมออาคมสวมใส่หน้ากากหลอกผู้ป่วยของพวกเขา5. ฮาโลวีนมีการเฉลิมฉลองสำหรับเด็กในประเทศตะวันตกC:เขียนคำตอบสั้น ๆ สำหรับแต่ละคำถาม1. รูปแบบคืออะไร2. ระยะมีคนถูกสวมหน้ากาก 3.คนในบางประเทศเชื่อว่าเกี่ยวกับรูปแบบ4. อย่างไรรูปแบบสำคัญในดนตรีอินโดนีเซีย 5. ตามบางคน ไม่มีหน้ากากกระทบของผู้สวมใส่ D:อ่านเนื้อเรื่องอีกครั้ง และตอบคำถามต่อไปนี้1.ทำเราเรียกคนที่ใช้เวทมนตร์เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยหรือไม่ 2. ที่คำในย่อหน้าสองหมายถึง 'ให้ดีอีกครั้ง' หรือ 'ทำให้การเจ็บป่วยหายอย่างสมบูรณ์'3.เป็นแบบศิลปะที่เรียกว่าในเล่นนักแสดงที่ตัวละครในเรื่อง4.ทำเราเรียกการเล่นซึ่ง คำจะตั้งค่าเพลง และสูง 5. ค้นหา phrasal verb ที่ในย่อหน้าสี่ซึ่งหมายถึง ' เริ่มเป็นเช่น ' หรือ 'กลายเป็น'

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

B: บอกได้ว่าแต่ละคำสั่งเป็นความจริงเท็จหรือไม่ได้รับ ถ้าไม่ได้ข้อมูลเพียงพอที่จะได้รับในการอ่านข้อความที่เขียนไม่ได้รับ ถ้าคำสั่งเป็นเท็จอธิบายว่าทำไมมันเป็นเท็จ.
1 หน้ากากไม่เพียง แต่ครอบคลุมใบหน้า แต่ยังซ่อนตัวละครของเรา
2 หน้ากากบางคนเป็น 20,000 ปี.
3 ในบางประเทศคนเชื่อว่ามาสก์มีพลังวิเศษ.
4 ในแอฟริกาและเอเชียที่แม่มดแพทย์สวมหน้ากากเพื่อขู่ผู้ป่วยของพวกเขา.
5 ฮาโลวีนมีการเฉลิมฉลองโดยเด็กในประเทศตะวันตก. C: เขียนคำตอบสั้น ๆ สำหรับแต่ละคำถาม1 อะไรคือหน้ากาก? 2 นานแค่ไหนที่มีคนถูกสวมหน้ากาก? 3 สิ่งใดที่คนในบางประเทศเชื่อเกี่ยวกับหน้ากาก? 4 มีวิธีมาสก์สำคัญในละครรำอินโดนีเซีย? 5 วิธีตามที่บางคนไม่ส่งผลกระทบต่อผู้สวมใส่หน้ากากหรือไม่? D: อ่านผ่านอีกครั้งและตอบคำถามต่อไป. 1 ที่เราเรียกว่าอะไรคือสิ่งที่คนที่ใช้เวทมนตร์เพื่อช่วยให้ผู้ป่วย? 2 ซึ่งคำในวรรคสองหมายถึง 'ทำให้ดีขึ้นอีกครั้ง' หรือ 'ทำให้เจ็บป่วยหายไปอย่างสมบูรณ์'? 3 รูปแบบศิลปะคืออะไรที่เรียกว่านักแสดงที่เล่นเป็นตัวละครในเรื่อง? 4 เราเรียกว่าอะไรเล่นในซึ่งคำพูดที่จะตั้งเพลงและร้อง? 5 ค้นหาคำกริยาวลีในวรรคสี่ซึ่งหมายความว่าเริ่มต้นจะเป็นเหมือน 'หรือ' กลายเป็น '

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

B : กล่าวว่าคำสั่งแต่ละ จริง เท็จ หรือ ไม่รับ ถ้าข้อมูลไม่เพียงพอจะได้รับในข้อความที่อ่าน ไม่ได้เขียนให้ ถ้าข้อความเป็นเท็จ อธิบายว่าทำไมมันเป็นเท็จ .
1 หน้ากากไม่เพียง แต่ครอบคลุมถึงใบหน้า แต่ยังซ่อนตัวละครของเรา
2 บางรูปมี 20 , 000 ปี
3 ในบางประเทศคนเชื่อว่าหน้ากากมีพลังวิเศษ .
4 ในแอฟริกาและเอเชียหมอแม่มดหน้ากากสวมเพื่อขู่คนไข้
5 ฮาโลวีนมีการเฉลิมฉลองโดยเด็กในประเทศตะวันตก .

C : เขียนตอบสั้น ๆสำหรับแต่ละคำถาม
1 แล้วหน้ากาก ?
2 . นานแค่ไหนมีคนใส่หน้ากาก ?
3 อะไรที่ผู้คนในบางประเทศเชื่อว่าเกี่ยวกับหน้ากาก ?
4 แล้วหน้ากากที่สำคัญในละครนาฏศิลป์อินโดนีเซีย ?
5 อย่างไรตาม บางคน ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้สวมใส่หน้ากาก ?