Sushi originates from the practice

Sushi originates from the practice of preserving fish by fermenting it in rice for months, a tradition which can be traced back to ancient China. It was originated during Tang Dynasty in China, though modern Japanese adopted sushi evolved to have little resemblance to this original Chinese food. The Japanese name "sushi" is written with kanji (Chinese characters) for ancient Chinese dishes which bear little resemblance to today's sushi.
The history of sushi in japan began around the 8th century. The original type of sushi was first developed in southeast asia as a means of preseruing fish in fermented rice.
In the muromachi period(14-16 century), people began to eat the rice as well as the fish.When Tokyo was still known as edo in the early 19th century, Mobile food stalls run by street vendors became popular.During this period nigiri shusi was introduced. Invented by HANAYA YOHEI in Tokyo, Today’s sushi is not fermented and can be eaten with fingers or chopsticks.
Healthy eaters love it because of its low fat and fresh ingredients. Raw fish and seafood varieties have no added oil, because they’ve skipped the cooking process, and all vegetables are left raw. Also, seaweed is dark green vegetable loaded with nutrients and iron.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ซูชิมีต้นกำเนิดมาจากการปฏิบัติของปลาสำรอง โดย fermenting ข้าวเดือน ประเพณีที่สามารถสืบกลับไปยังประเทศจีนโบราณ มันได้มาในระหว่างราชวงศ์ในจีน ว่าญี่ปุ่นทันสมัยนำซูชิที่พัฒนาให้มีอาหารจีนดั้งเดิมนี้รูปน้อย ชื่อภาษาญี่ปุ่น "ซูชิ" เขียน ด้วยอักษรคันจิ (ตัวอักษรจีน) สำหรับอาหารจีนโบราณที่หมีน้อยรูปซูชิวันนี้ประวัติของซูชิในญี่ปุ่นเริ่มรอบศตวรรษ 8 ซูชิชนิดเดิมก่อนถูกพัฒนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ preseruing ปลาร้าข้าวในช่วงมุโระมะชิ (ศตวรรษที่ 14-16), คนเริ่มกินข้าวเป็นปลาเมื่อโตเกียวถูกยังคงเรียกว่าเอโดะในศตวรรษที่ 19 ต้น ร้านอาหารเคลื่อนที่วิ่งตามถนนเป็นที่นิยมในระหว่างนี้ระยะเวลา nigiri shusi ถูกนำมาใช้ คิดค้น โดย YOHEI HANAYA ในโตเกียว ซูชิวันนี้ไม่หมัก และสามารถกินได้ ด้วยนิ้วมือหรือตะเกียบEaters สุขภาพรักมันเนื่องจากวัตถุดิบสด และไขมันต่ำ พันธุ์ปลาและอาหารทะเลดิบมีน้ำมันไม่เพิ่ม เพราะพวกเขาได้ข้ามขั้นตอนการทำอาหาร และผักทั้งหมดถูกปล่อยวัตถุดิบ ยัง สาหร่ายเป็นพืชสีเขียวเข้มมีสารอาหารและเหล็ก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ซูชิมาจากการปฏิบัติในการรักษาปลาโดยการหมักข้าวในเดือนประเพณีซึ่งสามารถสืบย้อนกลับไปจีนโบราณ มันก็เกิดขึ้นในระหว่างราชวงศ์ถังในประเทศจีนแม้ว่าซูชิญี่ปุ่นนำมาใช้ที่ทันสมัยการพัฒนาให้มีความคล้ายคลึงกับอาหารจีนนี้เดิม ชื่อภาษาญี่ปุ่น "ซูชิ" เขียนด้วยตัวอักษรคันจิ (ตัวอักษรจีน) สำหรับอาหารจีนโบราณซึ่งคล้ายคลึงเล็กน้อยเพื่อซูชิของวันนี้.
ประวัติศาสตร์ของซูชิในประเทศญี่ปุ่นเริ่มรอบศตวรรษที่ 8 ชนิดเดิมของซูชิได้รับการพัฒนาครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นวิธีการ preseruing ปลาในข้าวหมัก.
ในแมชประจำเดือน (14-16 ศตวรรษ) ผู้คนเริ่มที่จะกินข้าวเช่นเดียวกับ fish.When โตเกียวยังเป็น เอโดะในช่วงต้นศตวรรษที่ 19, ร้านอาหารมือถือดำเนินการโดยผู้ขายที่ถนนกลายเป็นช่วงเวลา popular.During Nigiri Shusi นี้ได้รับการแนะนำ การประดิษฐ์คิดค้นโดยฮานาย่า Yohei ในโตเกียวซูชิวันนี้ไม่ได้หมักและสามารถรับประทานได้ด้วยนิ้วมือหรือตะเกียบ.
กินเพื่อสุขภาพรักมันเพราะไขมันต่ำและส่วนผสมที่สดใหม่ ปลาดิบและอาหารทะเลพันธุ์ได้เพิ่มไม่มีน้ำมันเพราะพวกเขาได้ข้ามขั้นตอนการปรุงอาหารและผักทั้งหมดที่เหลือดิบ นอกจากนี้สาหร่ายทะเลเป็นผักสีเขียวเข้มเต็มไปด้วยสารอาหารและธาตุเหล็ก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ซูชิมาจากการปฏิบัติของการรักษาปลาโดยการหมักในข้าวเดือน ประเพณีซึ่งสามารถ traced กลับไปที่ประเทศจีนโบราณ มันเกิดขึ้นในช่วงราชวงศ์ถังในประเทศจีน แม้ว่าญี่ปุ่นสมัยใหม่เลี้ยงซูชิมีวิวัฒนาการมีความคล้ายคลึงเล็กน้อยกับอาหารจีนนี้ต้นฉบับชื่อ " ญี่ปุ่น ซูชิ " เขียนด้วยคันจิ ( ตัวอักษรจีน ) สำหรับชาวจีนโบราณจานซึ่งคล้ายคลึงกับซูชิวันนี้ .
ประวัติของซูชิในญี่ปุ่นเริ่มราวศตวรรษที่ 8 ประเภทเดิมของซูชิ ถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นวิธีการ preseruing ปลาหมักข้าว
ในยุคมุโรมาจิ ( ศตวรรษที่ 14-16 )คนเริ่มกินข้าว รวมทั้งปลา เมื่อโตเกียวยังเรียกว่าเอโดะในศตวรรษที่ 19 ก่อน มือถืออาหารแผงลอยวิ่งโดยผู้ขายที่ถนนกลายเป็นที่นิยม ในระหว่างรอบระยะเวลานี้ shusi nigiri คือแนะนำ คิดค้นโดยฮานะยะโยซูชิในโตเกียว วันนี้ไม่หมัก และสามารถกินได้ด้วยนิ้วมือ หรือตะเกียบ
สุขภาพ eaters รักมันเพราะมีไขมันต่ำและส่วนผสมที่สดใหม่ปลาและอาหารทะเลดิบพันธุ์ไม่เพิ่มน้ำมัน เพราะพวกเขาได้ข้ามขั้นตอนการปรุงอาหาร และผักทั้งหมดเป็นซ้ายดิบ นอกจากนี้ สาหร่าย ผักสีเขียวเข้ม เต็มไปด้วยสารอาหารและเหล็ก