A hand-held mobile radio telephone

A hand-held mobile radio telephone is an old dream of radio engineering. In 1917, Finnish inventor Eric Tigerstedt filed a patent for what he described as a "pocket-size folding telephone with a very thin carbon microphone". Among other early descriptions is one found in the 1948 science fiction novel Space Cadet by Robert Heinlein. The protagonist, who has just traveled to Colorado from his home in Iowa, receives a call from his father on a telephone in his pocket. Before leaving for earth orbit, he decides to ship the telephone home "since it was limited by its short range to the neighborhood of an earth-side [i.e. terrestrial] relay office." Ten years later, an essay by Arthur C. Clarke envisioned a "personal transceiver, so small and compact that every man carries one." Clarke wrote: "the time will come when we will be able to call a person anywhere on Earth merely by dialing a number." Such a device would also, in Clarke's vision, include means for global positioning so that "no one need ever again be lost." In his 1962 Profiles of the Future, he predicted the advent of such a device taking place in the mid-1980s
Early predecessors of cellular phones included analog radio communications from ships and trains. The race to create truly portable telephone devices began after World War II, with developments taking place in many countries. The advances in mobile telephony have been traced in successivegenerations from the early "0G" (zeroth generation) services like the Bell System's Mobile Telephone Service and its successor, Improved Mobile Telephone Service. These "0G" systems were not cellular, supported few simultaneous calls, and were very expensive.
The first handheld mobile cell phone was demonstrated byMotorola in 1973. The first commercial automated cellular network was launched in Japan by Nippon Telegraph and Telephone in 1979. In 1981, this was followed by the simultaneous launch of the Nordic Mobile Telephone (NMT) system in Denmark, Finland, Norway and Sweden. Several other countries then followed in the early to mid-1980s. These first generation ("1G") systems could support far more simultaneous calls, but still used analog technology.
In 1991, the second generation (2G) digital cellular technology was launched in Finland by Radiolinja on theGSM standard. This sparked competition in the sector as the new operators challenged the incumbent 1G network operators.
Ten years later, in 2001, the third generation (3G) was launched in Japan by NTT DoCoMo on the WCDMA standard. This was followed by 3.5G, 3G+ or turbo 3G enhancements based on the high-speed packet access (HSPA) family, allowing UMTS networks to have higher data transfer speeds and capacity.
By 2009, it had become clear that, at some point, 3G networks would be overwhelmed by the growth of bandwidth-intensive applications like streaming media. Consequently, the industry began looking to data-optimized fourth generation technologies, with the promise of speed improvements up to 10-fold over existing 3G technologies. The first two commercially available technologies billed as 4G were the WiMAX standard (offered in North America bySprint) and the LTE standard, first offered in Scandinavia by TeliaSonera.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โทรศัพท์มือถือวิทยุมือถือมีการฝันเก่าของวิทยุวิศวกรรม ใน 1917 ฟินแลนด์ชาวอเมริกา Eric Tigerstedt ยื่นจดสิทธิบัตรสำหรับสิ่งที่เขาอธิบายว่า "ขนาดกระเป๋าพับโทรศัพท์พร้อมไมโครโฟนคาร์บอนบางมาก" ระหว่างคำอธิบายอื่น ๆ ก่อน จะพบหนึ่งในนิยายวิทยาศาสตร์นิยาย 1948 ยศพื้นที่ โดยโรเบิร์ต Heinlein เอก ที่มีเพียงเดินทางไปโคโลราโดจากบ้านของเขาในรัฐไอโอวา ได้รับการเรียกจากบิดาบนโทรศัพท์ในกระเป๋าของเขา ก่อนที่จะออกในวงโคจรโลก เขาตัดสินใจที่จะจัดบ้านโทรศัพท์ "เนื่องจากมันถูกจำกัด ด้วยช่วงสั้น ๆ ละแวกของโลกด้านรีเลย์ [ภาคพื้นเช่น] สำนักงาน" สิบปีต่อมา การเรียง โดย Arthur C. คลาร์กจินตนาการราคาเป็น "บุคคลตัวรับส่งสัญญาณ เล็ก และกระทัดรัดให้ทุกคนดำเนินการหนึ่งเพื่อให้" คลาร์กเขียน: "เวลาจะมาเมื่อเราจะเรียกคนที่ใดก็ได้บนโลกเพียง โดยเรียกหมายเลข" อุปกรณ์ดังกล่าวจะ ในวิสัยทัศน์ของคลาร์ก รวมในตำแหน่งส่วนกลางเพื่อให้ "ไม่ต้องครับไม่" ในประวัติของเขา 1962 ในอนาคต เขาทำนายการมาถึงของอุปกรณ์ขึ้นที่กลางไฟต์รุ่นก่อนที่เริ่มต้นของโทรศัพท์มือถือรวมสื่อสารแอนะล็อกวิทยุจากเรือและรถไฟ การแข่งขันการสร้างอุปกรณ์โทรศัพท์แบบพกพาอย่างแท้จริงเริ่มต้นหลังสงครามโลก ด้วยมีสถานที่ในประเทศพัฒนา มีการติดตามความก้าวหน้าในระบบโทรศัพท์มือถือใน successivegenerations จากการให้บริการ "0G" (กฎข้อที่ศูนย์สร้าง) ก่อนเช่นบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของระบบเบลล์และการสืบ บริการโทรศัพท์มือถือปรับปรุง ระบบเหล่านี้ "0G" ไม่โทรศัพท์มือถือ สนับสนุนพร้อมเรียกน้อย และมีราคาแพงมากแรกมือถือโมบายโทรศัพท์มือถือถูก byMotorola สาธิตใน 1973 แรกอัตโนมัติโทรศัพท์มือถือเครือข่ายเชิงพาณิชย์ถูกเปิดตัวในญี่ปุ่น โดยนิปปอนส่งโทรเลขและโทรศัพท์ในปีค.ศ. 1979 ในปี 1981 นี้ถูกตาม ด้วยการเปิดตัวพร้อมระบบโทรศัพท์นอร์ดิค (NMT) ในเดนมาร์ก ฟินแลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน ประเทศต่าง ๆ แล้วตามในช่วงกลางทศวรรษ 1980 การ รุ่นแรก ("1 กรัม") ระบบเหล่านี้สามารถสนับสนุนพร้อมเรียกเพิ่มเติมไกล แต่ยังคง ใช้เทคโนโลยีแบบแอนะล็อกในพ.ศ. 2534 รุ่นที่สอง (2 กรัม) เทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือดิจิตอลเปิดฟินแลนด์ โดย Radiolinja ใน theGSM มาตรฐาน แข่งขันนี้ sparked ในภาคที่เป็นผู้ประกอบการใหม่ท้าทายผู้ประกอบการเครือข่าย 1G incumbentสิบปีต่อมา ในปีค.ศ. 2001 รุ่นที่สาม (3G) เปิดญี่ปุ่น โดยเอ็นทีทีโดโคโมในมาตรฐานตัว WCDMA นี้ถูกตาม ด้วย 3.5G ทรีจี + หรือเทอร์โบ 3 G เพิ่มประสิทธิภาพตามเข้าแพคเก็ตที่ความเร็วสูง (HSPA) ครอบครัว ช่วยให้เครือข่าย UMTS ให้ข้อมูลความเร็วสูงและกำลังการผลิตโดย 2009 มันได้กลายเป็นที่ชัดเจนว่า บางจุด เครือข่าย 3G จะถูกจม โดยการเติบโตของการใช้งานแบนด์วิดท์เร่งรัดเช่นการส่งกระแสข้อมูลสื่อ ดังนั้น อุตสาหกรรมเริ่มมองถึงข้อมูลปรับเทคโนโลยีรุ่นสี่ กับ 10-fold ถึงการปรับปรุงความเร็วผ่านเทคโนโลยี 3G ที่มีอยู่ เทคโนโลยีใช้ได้ในเชิงพาณิชย์สองเรียกเป็น 4G ได้มาตรฐาน WiMAX (เสนอในอเมริกาเหนือ bySprint) และมาตรฐาน LTE แรก เสนอในสแกนดิเนเวีย โดย TeliaSonera

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีวิทยุมือถือโทรศัพท์มือถือโทรศัพท์เป็นความฝันเก่าวิศวกรรมวิทยุ ในปี 1917 นักประดิษฐ์ฟินแลนด์เอริค Tigerstedt ยื่นจดสิทธิบัตรสำหรับสิ่งที่เขาอธิบายว่าเป็น "โทรศัพท์พับขนาดพกพาที่มีไมโครโฟนคาร์บอนบางมาก" ในบรรดารายละเอียดอื่น ๆ ก่อนเป็นหนึ่งที่พบในพื้นที่โรงเรียนนายร้อยนวนิยายวิทยาศาสตร์ 1948 โดยโรเบิร์ตไฮน์ การให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้เดินทางไปเพียงเพื่อโคโลราโดจากบ้านของเขาในรัฐไอโอวา, ได้รับโทรศัพท์จากพ่อของเขาบนโทรศัพท์ในกระเป๋าของเขา ก่อนที่จะออกจากวงโคจรของโลกเขาตัดสินใจที่จะจัดส่งที่บ้านโทรศัพท์ "เพราะมันถูก จำกัด ด้วยช่วงสั้นไปอยู่ในย่านของฝั่งแผ่นดิน [คือบก] สำนักงานรีเลย์." สิบปีต่อมาการเขียนเรียงความโดยอาร์เธอร์ซีคลาร์กจินตนาการ "ส่งสัญญาณส่วนบุคคลขนาดเล็กและขนาดเล็กที่ทุกคนดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง." คล๊าร์คเขียน: "เวลาที่จะมาถึงเมื่อเราจะสามารถที่จะเรียกคนที่ใดก็ได้ในโลกเพียงโดยกดหมายเลข". อุปกรณ์ดังกล่าวยังจะในวิสัยทัศน์ของคล๊าร์ครวมถึงวิธีการสำหรับตำแหน่งทั่วโลกเพื่อที่ว่า "ไม่มีใครต้องเคยอีกครั้งจะหายไป." ในปี 1962 ดูรายละเอียดของเขาในอนาคตที่เขาคาดการณ์การถือกำเนิดของอุปกรณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นในช่วงกลางทศวรรษที่ 1980
ก่อนหน้าแรกของโทรศัพท์มือถือรวมถึงวิทยุสื่อสารแบบอะนาล็อกจากเรือและรถไฟ การแข่งขันในการสร้างอุปกรณ์โทรศัพท์พกพาอย่างแท้จริงหลังจากที่เริ่มสงครามโลกครั้งที่สองที่มีการพัฒนาที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ ความก้าวหน้าในโทรศัพท์มือถือที่ได้รับการตรวจสอบใน successivegenerations จากต้น "0G" (รุ่นที่ข้อที่ศูนย์) บริการเช่นระบบเบลล์บริการโทรศัพท์มือถือและทายาทของการปรับปรุงบริการโทรศัพท์มือถือ เหล่านี้ "0G" ระบบโทรศัพท์มือถือที่ไม่ได้รับการสนับสนุนไม่กี่สายพร้อมกันและมีราคาแพงมาก.
โทรศัพท์มือถือเป็นครั้งแรกที่มีด้ามจับโทรศัพท์มือถือแสดงให้เห็น byMotorola ในปี 1973 เครือข่ายโทรศัพท์มือถืออัตโนมัติเชิงพาณิชย์แห่งแรกที่เปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นโดย บริษัท นิปปอนเทเลกราฟแอนด์เทเลโฟนในปี 1979 ใน ปี 1981 นี้ตามมาด้วยการเปิดตัวพร้อมกันของโทรศัพท์มือถือนอร์ดิก (NMT) ของระบบในเดนมาร์กฟินแลนด์นอร์เวย์และสวีเดน ประเทศอื่น ๆ แล้วใช้ในช่วงต้นถึงกลางทศวรรษที่ 1980 เหล่านี้รุ่นแรก ("1G") ระบบจะสนับสนุนมากขึ้นสายพร้อมกัน แต่เทคโนโลยีอะนาล็อกยังคงใช้.
ในปี 1991, รุ่นที่สอง (2G) เทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือดิจิตอลเปิดตัวในฟินแลนด์ Radiolinja มาตรฐาน theGSM นี้จุดประกายการแข่งขันในภาคการเป็นผู้ประกอบการใหม่ที่ท้าทายผู้ประกอบการเครือข่าย 1G หน้าที่.
สิบปีต่อมาในปี 2001 รุ่นที่สาม (3G) ที่เปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นโดย NTT DoCoMo มาตรฐาน WCDMA นี้ตามมาด้วย 3.5G, 3G + หรือเทอร์โบปรับปรุง 3G บนพื้นฐานของการเข้าถึงแพ็กเก็ตความเร็วสูง (HSPA) ในครอบครัวที่ช่วยให้เครือข่าย UMTS จะมีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลที่สูงขึ้นและกำลังการผลิต.
2009 โดยมันได้กลายเป็นที่ชัดเจนว่าในบางจุด, เครือข่าย 3G จะถูกครอบงำด้วยการเจริญเติบโตของการใช้งานแบนด์วิดธ์มากเช่นสื่อสตรีมมิ่ง ดังนั้นอุตสาหกรรมที่เริ่มมองหาข้อมูลที่ดีที่สุดเทคโนโลยีรุ่นที่สี่กับสัญญาของการปรับปรุงความเร็วได้ถึง 10 เท่ามากกว่า 3G เทคโนโลยีที่มีอยู่ สองคนแรกเทคโนโลยีที่สามารถใช้ได้ในเชิงพาณิชย์ที่เรียกว่า 4G เป็นมาตรฐานไวแมกซ์ (นำเสนอในทวีปอเมริกาเหนือ bySprint) และมาตรฐาน LTE ที่นำเสนอครั้งแรกในสแกนดิเนเวีโดย TeliaSonera

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โทรศัพท์ มือถือ วิทยุ มือถือ เป็นฝันเก่าวิศวกรรมวิทยุ ในปี 1917 ฟินแลนด์นักประดิษฐ์ อีริค tigerstedt ยื่นสิทธิบัตรสำหรับสิ่งที่เขาอธิบายว่า " ขนาดกระเป๋าพับโทรศัพท์กับไมโครโฟน " คาร์บอนบางมาก ในหมู่อื่น ๆก่อนอธิบายเป็นหนึ่งที่พบใน 2491 นวนิยายวิทยาศาสตร์นักบินอวกาศโดยโรเบิร์ตไฮน์ไลน์ . ตัวเอกของเรื่อง ,ผู้ที่เพิ่งเดินทางไปโคโลราโดจากที่บ้านของเขาในรัฐไอโอวา , ได้รับโทรศัพท์จากพ่อของเขาในโทรศัพท์อยู่ในกระเป๋าของเขา ก่อนออกจากวงโคจรรอบโลก เขาตัดสินใจที่จะส่งโทรศัพท์บ้าน " เนื่องจากมันถูก จำกัด โดยช่วงสั้นกับละแวกของโลกด้าน [ I ] ถ่ายทอดหรือสำนักงาน . " สิบปีให้หลัง เรียงความโดยอาร์เทอร์ซี. คลาร์กมองเห็นภาพ " วิทยุส่วนบุคคลมีขนาดเล็กและขนาดเล็กที่ทุกคนมีหนึ่ง . " คลาร์กเขียน : " เวลาจะมาถึงเมื่อเราจะสามารถเรียกคนทุกที่บนโลกเพียงกดหมายเลข " อุปกรณ์ดังกล่าวจะยัง ในวิสัยทัศน์ซึ่งรวมหมายถึงตำแหน่งทั่วโลกเพื่อที่ว่า " ไม่มีใครต้องการอีกหาย " ใน ค.ศ. 1962 โปรไฟล์ของอนาคตเขาทำนายการมาถึงของอุปกรณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงกลางทศวรรษที่ 1980 -
ต้นบรรพบุรุษของโทรศัพท์มือถือรวมอนาล็อกวิทยุการสื่อสารจากเรือและรถไฟ การแข่งขันเพื่อสร้างอุปกรณ์โทรศัพท์แบบพกพาอย่างแท้จริงหลังจากที่เริ่มสงครามโลกครั้งที่สอง กับการพัฒนาที่เกิดขึ้นในหลายประเทศความก้าวหน้าในโทรศัพท์มือถือได้รับการตรวจสอบใน successivegenerations จากต้น " ฟอง " ( รุ่น zeroth ) บริการเหมือนระฆังระบบบริการโทรศัพท์มือถือและทายาทของการปรับปรุงโทรศัพท์มือถือโทรศัพท์ เหล่านี้ " ฟอง " ระบบไม่รองรับโทรศัพท์มือถือที่มีน้อย และราคาแพงมาก .
แรกมือถือโทรศัพท์มือถือเซลล์แสดง bymotorola ใน 1973พาณิชย์แรกอัตโนมัติเครือข่ายมือถือได้เปิดตัวในญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นโทรเลขและโทรศัพท์ในปี 1979 ในปี 1981 นี้ตามมาด้วยการเปิดตัวพร้อมกันของโทรศัพท์มือถือ Nordic ( NMT ) ระบบในเดนมาร์ก ฟินแลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน อีกหลายประเทศแล้วตามในช่วงต้นถึงกลางทศวรรษที่ 1980 . เหล่านี้รุ่นแรก ( " 1G " ) ระบบสามารถรองรับสายได้ไกลมากขึ้น