Attention to context lets us pick u

Attention to context lets us pick up subtle social cues that can
guide how we behave. Those who are tuned in this way act with

skill no matter what situation they find themselves in. They know


not only what to say and do, but also, just as vital, what not to say or do. They instinctively follow the universal algorithm for etiquette, to behave in ways that put others at ease. Sensitivity to how people are feeling in reaction to what we do or say lets us navigate hidden social minefields.
While we may have some conscious ideas of such norms (how to dress for casual Friday at work; eat only with your right hand in India), attention to implicit norms is largely intuitive, a bottom-up capacity. Our felt sense of what's socially appropriate comes to us as a feeling in our body-when we're "off" it's the physical manifesta­ tion of this doesn't fie! right. We may be picking up subtle signals of embarrassment or distress from the people we're with.
If we're oblivious to these sensations ofbeing socially off-key (or never have them in the first place) we just keep going, clueless as to how far off course we are. One brain test for context focus assesses the function of the hippocampus, which is a nexus for circuits that gauge social circumstances. The anterior zone of the hippocampus backs up against the amygdala and plays a key role in keeping what we do appropriate to the context. The anterior hippocampus, in conversation with the prefrontal area, squelches that impulse to do something inappropriate.
Those most alert to social situations, Richard Davidson hy­
pothesizes, have stronger activity and connectivity in these brain circuits than do those who just can't seem to get it right. The hip­ pocampus is at work, he says, to make you act differently when with your family and when at work, ad differently again in the office versus with your workmates in a bar.
Context awareness also helps at another level: mapping the so­ cial networks in a group or at a new school or on the job-a skill that lets us navigate those relationships well. People who excel at organizational influence, it turns out, can not only sense the flow of personal connections but also name the people whose opinions
hold most sway-and so, when they need to, focus on convincing those who will in turn persuade others.
Then there are those who are just tuned out of a particular so­ cial context-like the video game champ who spent so much of his life glued to his computer monitor that once when he agreed to meet a journalist at a restaurant he was mystified as to why the place should be so busy on Valentine's Day.
An extreme of being "off" in reading social context can be seen in post-traumatic stress disorder, when a person reacts to an in­ nocent event like a car backfiring as though it were a dire emer­ gency and dives under a table. Tellingly, the hippocampus shrinks in those with PTSD but grows larger again as symptoms abate.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ให้ความสนใจกับบริบทให้เราหยิบสัญลักษณ์ทางสังคมลึกซึ้งที่สามารถแนะนำวิธีที่เราทำงาน ผู้ที่ปรับในบัญญัติวิธีนี้ด้วยทักษะไม่ว่าสถานการณ์ใดพวกเขาพบตัวเองใน พวกเขารู้ไม่เพียงแต่ จะพูดและทำ แต่ยัง เพียงเป็นสำคัญ สิ่งที่จะพูด หรือทำไม่ พวกเขาทำตามอัลกอริทึมสากลสำหรับมารยาท การทำงานในลักษณะที่ผู้อื่นถนัด instinctively ไวว่าคนมีความรู้สึกตอบสนองกับสิ่งที่เราทำหรือพูดให้เรานำสังคม minefields ซ่อนอยู่ในขณะที่เราอาจมีบางความคิดสติของบรรทัดฐานดังกล่าว (วิธีการแต่งกายสำหรับชชวลศุกร์ที่ทำงาน กิน ด้วยมือขวาในอินเดีย), ความนัยบรรทัดฐานเป็นส่วนใหญ่ใช้งานง่าย ความจุสายล่าง ความว่าเป็นสังคมที่เหมาะสมของเรามาให้เราเป็นความรู้สึกในร่างกายของเรา-เมื่อเรา "ปิด" มันสเตรชัน manifesta ทางกายภาพนี้ไม่ fie ขวา เราอาจจะได้รับสัญญาณรายละเอียดของความลำบากใจหรือความทุกข์จากคนที่เรามีถ้าเรากำลังลบเลือนเพื่อเหล่านี้ ofbeing น่า off-key สังคม (หรือไม่เคยมีในสถานแรก) เราเพียงให้ไป clueless เกี่ยวกับหลักสูตรว่าไกลจากที่เรา ทดสอบสมองหนึ่งบริบทความดำรงชีวิตการทำงานของฮิพโพแคมปัส ซึ่งเป็น nexus ในวงจรที่วัดสถานการณ์สังคม ฮิพโพแคมปัสโซนแอนทีเรียร์หลังขึ้นกับ amygdala และมีบทบาทสำคัญในการรักษาสิ่งที่เราเหมาะสมกับบริบท แอนทีเรียร์ฮิพโพแคมปัส ในการสนทนากับบริเวณ prefrontal, squelches กระแสที่จะทำบางสิ่งบางอย่างที่ไม่เหมาะสมสถานการณ์เหล่านั้นแจ้งเตือนมากที่สุดเพื่อสังคม Davidson ริชาร์ดฮีpothesizes มีกิจกรรมแข็งแกร่งและการเชื่อมต่อในวงจรเหล่านี้สมองกว่าทำที่เพียงดูเหมือนจะได้รับมันขวา สไตล์ pocampus เป็นที่ทำงาน เขากล่าวว่า จะทำให้คุณทำหน้าที่แตกต่างกันกับครอบครัวของคุณ และเวลาที่ทำงาน โฆษณาต่างอีกครั้งใน office กับกับคุณ workmates ในแถบบริบทความรู้ยังช่วยในระดับอื่น: การแมปเครือข่ายซึ่งกันและกันดังนั้น ในกลุ่ม หรือ ในโรงเรียนใหม่ หรือ ในงานเป็นทักษะที่ช่วยให้เรานำความสัมพันธ์ที่ดี ผู้ใช้ excel ที่อิทธิพลขององค์กร ดังปรากฎว่า สามารถรู้สึกกระแสเชื่อมต่อส่วนบุคคลเท่านั้นไม่ แต่ยัง เป็นชื่อของคนที่มีความคิดเห็นค้างส่วนใหญ่กทาง- และดังนั้น เมื่อพวกเขาต้องการ เน้นการทำให้ผู้ที่จะใช้ชักชวนผู้อื่นแล้ว มีคนเพียงปรับช่องรับสัญญาณจากเฉพาะให้ซึ่งกันและกันเช่นบริบทแชมป์วิดีโอเกมที่ใช้เวลามากของชีวิตจมปลักกับคอมพิวเตอร์ของเขา ตรวจสอบที่เมื่อเมื่อเขาตกลงที่จะพบกับนักข่าวที่ร้านอาหาร เขาเป็น mystified เป็นเหตุควรจึงติดบนวาเลนไทน์สุดของการเป็น "ปิด" ในบริบททางสังคมสามารถมองเห็นในความเครียดเจ็บปวดหลังโรค เมื่อผู้ตอบสนองเหตุการณ์ใน nocent เช่นเป็นรถ backfiring ว่านั้น gency emer หายนะและ dives ภายใต้ตาราง Tellingly ฮิพโพแคมปัสจะลดขนาดในมี PTSD แต่ขยายใหญ่ขึ้นอีกเป็นอาการลดน้อยลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ให้ความสนใจกับบริบทช่วยให้เราได้รับการชี้นำสังคมที่ลึกซึ้งที่สามารถ
ให้คำแนะนำวิธีการที่เราทำงาน บรรดาผู้ที่จะปรับในการกระทำแบบนี้กับ

ทักษะไม่ว่าสิ่งที่สถานการณ์ที่พวกเขาพบตัวเองใน. พวกเขารู้ว่าไม่เพียง แต่สิ่งที่จะพูดและทำ แต่ยังมีความสำคัญเช่นเดียวกับสิ่งที่จะไม่พูดหรือทำ พวกเขาทำตามสัญชาตญาณขั้นตอนวิธีสากลสำหรับมารยาทในการทำงานในลักษณะที่ทำให้คนอื่นสบายใจ ไวต่อว่าคนที่มีความรู้สึกในการทำปฏิกิริยากับสิ่งที่เราทำหรือพูดช่วยให้เรานำทางอ่อนไหวทางสังคมที่ซ่อนอยู่. ในขณะที่เราอาจจะมีความคิดมีสติบางส่วนของบรรทัดฐานดังกล่าว (วิธีการแต่งตัวสบาย ๆ สำหรับวันศุกร์ที่ทำงานกินเฉพาะกับมือข้างขวาของคุณในอินเดีย) ให้ความสนใจกับบรรทัดฐานนัยเป็นส่วนใหญ่ใช้งานง่าย, ความจุจากล่างขึ้นบน จากความรู้สึกของเราในสิ่งที่เหมาะสมกับสังคมมาให้เราเป็นความรู้สึกของเราในร่างกายเมื่อเรา "ปิด" มันเป็นเรื่องการ Manifesta ทางกายภาพของนี้ไม่ได้เหม่! ขวา เราอาจจะเก็บค่าสัญญาณที่ลึกซึ้งของความลำบากใจหรือความทุกข์จากคนที่เราอยู่กับ. ถ้าเราลืมความรู้สึกเหล่านี้ ofbeing สังคมออกที่สำคัญ (หรือไม่เคยมีพวกเขาในสถานที่แรก) เราก็เก็บไป clueless เป็น วิธีการห่างไกลออกไปแน่นอนเรามี ทดสอบสมองหนึ่งโฟกัสบริบทประเมินการทำงานของสมองส่วนฮิปโปแคมปัสซึ่งเป็นแก่นสำหรับวงจรที่วัดสถานการณ์ทางสังคม โซนหน้าของฮิบโปสำรองกับต่อมทอนซิลและมีบทบาทสำคัญในการรักษาสิ่งที่เราทำที่เหมาะสมกับบริบท ฮิบโปล่วงหน้าในการสนทนากับพื้นที่ prefrontal, squelches แรงกระตุ้นที่จะทำบางสิ่งบางอย่างที่ไม่เหมาะสม. แจ้งเตือนผู้ที่มากที่สุดในสถานการณ์ทางสังคม, ริชาร์ดเดวิดสัน HY pothesizes มีกิจกรรมที่แข็งแกร่งและการเชื่อมต่อในวงจรสมองเหล่านี้กว่าผู้ที่เพียงไม่สามารถดูเหมือนจะ ได้รับมันขวา . pocampus สะโพกเป็นที่ทำงานเขาบอกว่าจะทำให้คุณทำหน้าที่แตกต่างกันเมื่ออยู่กับครอบครัวของคุณและเมื่อที่ทำงานโฆษณาที่แตกต่างกันอีกครั้งในสำนักงานเมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมงานของคุณในแถบการรับรู้บริบทนี้ยังช่วยในระดับอื่น: การทำแผนที่เพื่อให้ทางการ เครือข่ายในกลุ่มหรือที่โรงเรียนใหม่หรือทักษะงานที่ช่วยให้เรานำทางความสัมพันธ์ที่ดี คนที่เก่งในอิทธิพลขององค์กรก็จะเปิดออกไม่เพียง แต่สามารถรู้สึกถึงการไหลของการเชื่อมต่อส่วนบุคคล แต่ยังชื่อคนที่มีความคิดเห็นถือแกว่งไปแกว่งมาและมากที่สุดดังนั้นเมื่อพวกเขาต้องการที่จะมุ่งเน้นไปที่การโน้มน้าวใจผู้ที่จะเปิดในการโน้มน้าวผู้อื่นแล้วมีผู้ที่ได้รับการปรับจูนเพิ่งออกจากทางการโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้เหมือนบริบทวิดีโอเกมแชมป์ที่ใช้เวลามากในชีวิตของเขาติดกาวที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขาที่ครั้งหนึ่งเมื่อเขาตกลงที่จะพบนักข่าวที่ร้านอาหารเขาก็ประหลาดใจว่า ทำไมสถานที่ที่ควรจะยุ่งมากในวันวาเลนไทน์. มากของการเป็น "ปิด" ในการอ่านบริบททางสังคมสามารถเห็นได้ในความผิดปกติของความเครียดโพสต์บาดแผลเมื่อคนทำปฏิกิริยากับในกรณี Nocent เหมือนรถ backfiring ราวกับว่ามันเป็น gency Emer น่ากลัวและดำน้ำอยู่ใต้โต๊ะ พระนามฮิบโปลดลงในผู้ที่มีพล็อตใหญ่ แต่เติบโตขึ้นอีกครั้งเมื่ออาการทุเลา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สนใจบริบทช่วยให้เรารับคิวสังคมลึกลับที่สามารถ
คู่มือวิธีการที่เราทำ ผู้ที่ติดตามในลักษณะนี้แสดงฝีมือ N

ไม่ว่าสิ่งที่สถานการณ์ที่พวกเขาพบตัวเองใน พวกเขารู้


ไม่ใช่แค่สิ่งที่ต้องทำและพูด แต่แล้วก็เป็นสําคัญ สิ่งที่ไม่ต้องพูดหรือทำ พวกเขาสัญชาตญาณตามแบบสากลเพื่อมารยาท เป็นวิธีที่ทำให้คนอื่นสบายใจความไวในการวิธีการที่คนรู้สึกในปฏิกิริยากับสิ่งที่เราทำ หรือพูดอะไรให้เรานำทางอ่อนไหวทางสังคมที่ซ่อน .
ในขณะที่เราอาจจะมีความคิดบางอย่างสติบรรทัดฐานเช่น ( วิธีการแต่งตัวสำหรับวันศุกร์สบาย ๆในงาน กินแต่ ด้วยมือขวาของคุณในอินเดีย ) , ความสนใจบรรทัดฐานแนบเนียนเป็นส่วนใหญ่ที่ใช้งานง่าย , จากล่างขึ้นบน ความจุเรารู้สึกว่าเป็นสังคมที่เหมาะสมมาให้เรา เป็นความรู้สึกในร่างกายของเราเมื่อเรากำลังจะ " ปิด " มัน manifesta องทางกายภาพผ่านไม่ได้ไป ! ใช่ เราอาจจะรับสัญญาณอ่อนอยู่แล้วหรือความทุกข์จากคนที่เรามี .
ถ้าเราจะลืมความรู้สึกเหล่านี้การสังคมปิดคีย์ ( หรือเคยมีพวกเขาในสถานที่แรก ) เราก็เก็บไปclueless เป็นวิธีการไกลแน่นอน หนึ่งสมองทดสอบเน้นบริบท ประเมินการทำงานของฮิปโปแคมปัสซึ่งเป็น Nexus สำหรับวงจรที่มาตรวัดทางสังคมก่อน โซนด้านหน้าของฮิปโปแคมปัสหลังชน Amygdala และมีบทบาทในการรักษาสิ่งที่เราทำที่เหมาะสมกับบริบท ฮิปโปแคมปัสส่วนหน้า , ในการสนทนากับพรีฟรอนท พื้นที่ ,squelches ที่แรงกระตุ้นที่จะทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม
ผู้แจ้งเตือนมากที่สุดสถานการณ์ทางสังคม , Richard Davidson HY อง
pothesizes ได้แข็งแกร่งกิจกรรมและการเชื่อมต่อวงจรสมองเหล่านี้กว่าผู้ที่เพียงไม่สามารถดูเหมือนจะได้รับมันขวา สะโพก pocampus องที่ทำงาน เขาบอกว่า ให้คุณทำท่าแปลกๆเวลากับครอบครัวของคุณ และเมื่อในงานโฆษณาแตกต่างกันอีกครั้งในสำนักงานเมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมงานของคุณในบาร์
ความตระหนักบริบทยังช่วยได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้น ่องแผนที่เครือข่ายในกลุ่มหรือที่โรงเรียนใหม่ หรือใน job-a ทักษะที่ช่วยให้เรานำทางความสัมพันธ์ที่ดี ผู้ที่ excel ที่มีผลต่อองค์กร ปรากฏว่าไม่เพียง แต่สามารถเข้าใจการไหลของการเชื่อมต่อส่วนบุคคล แต่ยังชื่อประชาชนที่มีความคิดเห็น
ครอบงำมากที่สุดและดังนั้นเมื่อพวกเขาต้องการมุ่งเน้นให้ผู้ที่จะชักชวนผู้อื่น
แล้วมีผู้ที่เพิ่งปรับออกของเฉพาะดังนั้นอง่บริบทเช่นวิดีโอเกมแชมป์ที่ใช้เวลามากของชีวิตจมปลักอยู่กับจอคอมพิวเตอร์ของเขา เมื่อเขาตกลงที่จะเจอนักข่าวที่ร้านอาหาร เขาประหลาดใจว่าทำไมสถานที่ควรจะยุ่งในวันวาเลนไทน์
เป็น ที่สุดของการ " ปิด " ในการอ่านบริบททางสังคมที่สามารถเห็นได้ในความผิดปกติของความเครียดบาดแผลเมื่อบุคคลมีปฏิกิริยาไปใน nocent องเหตุการณ์เช่นรถ backfiring ราวกับมันเป็นหายนะใน gency อง และดำน้ำอยู่ใต้โต๊ะ tellingly , ฮิปโปแคมปัสหดตัวในผู้ที่มีอาการ PTSD แต่เติบโตใหญ่อีกครั้ง เมื่ออาการทุเลา .