This study aimed at investigating c

This study aimed at investigating carboxylic acid production from brewer’s spent grain (BSG) via mixed culture fermentation. The results showed that the distribution of fermentation products was significantly affected by pH conditions and the addition of electron donors. Lactic acid was the dominant component under acidic and alkaline conditions while volatile fatty acids (VFAs) became dominant under the neutral condition. Furthermore, the neutral condition favored the chain elongation of carboxylic acids, especially with ethanol as the electron donor. Ethanol addition enhanced valeric acid and caproic acid production by 44% and 167%, respectively. Lactic acid addition also had positive effects on VFAs production under the neutral condition but limited to C2–C4 products. As a result, propionic acid and butyric acid production was increased by 109% and 152%, respectively. These findings provide substantial evidence for regulating carboxylic acid production during mixed culture fermentation of BSG by controlling pH and adding electron donors.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานี้มุ่งตรวจสอบผลิตกรด carboxylic จากของ brewer ใช้จ่ายเมล็ด (แสดงความ) ผ่านหมักผสม ผลพบว่า การกระจายของผลิตภัณฑ์หมักได้รับผลอย่างมีนัยสำคัญ โดยสภาพค่า pH และเพิ่มผู้บริจาคอิเล็กตรอน กรดแลกติกเป็นส่วนประกอบหลักสภาวะกรด และด่างในขณะที่กรดไขมันระเหย (VFAs) เป็นหลักภายใต้เงื่อนไขเป็นกลาง นอกจากนี้ สภาพเป็นกลางปลอด elongation ห่วงโซ่ของกรด carboxylic โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเอทานอลเป็นผู้บริจาคอิเล็กตรอน นอกจากนี้เอทานอลเพิ่ม valeric กรดและกรด caproic ผลิต โดย 44% และ 167% ตามลำดับ นอกจากนี้กรดยังมีผลบวก VFAs ผลิตภายใต้เงื่อนไขเป็นกลาง แต่จำกัดผลิตภัณฑ์ C2 – C4 ดัง propionic กรดและกรด butyric ผลิตขึ้น โดย 109% และ 152% ตามลำดับ ผลการวิจัยเหล่านี้มีหลักฐานที่พบในการควบคุมการผลิตกรด carboxylic ระหว่างหมักผสมแสดงความด้วยการควบคุมค่า pH และเพิ่มผู้บริจาคอิเล็กตรอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่การตรวจสอบการผลิตกรดคาร์บอกซิจากเบียร์ของการใช้จ่ายเม็ด (BSG) ผ่านการหมักจุลินทรีย์ผสม ผลการศึกษาพบว่าการกระจายของผลิตภัณฑ์หมักได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากสภาพความเป็นกรดด่างและนอกเหนือจากผู้บริจาคอิเล็กตรอน กรดแลคติกเป็นองค์ประกอบที่โดดเด่นภายใต้เงื่อนไขที่เป็นกรดและด่างในขณะที่กรดไขมันระเหย (VFAs) กลายเป็นที่โดดเด่นภายใต้สภาพที่เป็นกลาง นอกจากนี้สภาพเป็นกลางได้รับการสนับสนุนการยืดตัวของห่วงโซ่ของกรดคาร์บอกซิโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีเอทานอลเป็นผู้บริจาคอิเล็กตรอน นอกจากนี้เอทานอลที่เพิ่มขึ้นกรด valeric และการผลิตกรด CAPROIC 44% และ 167% ตามลำดับ นอกจากนี้กรดแลคติกยังมีผลกระทบในเชิงบวกต่อการผลิต VFAs ภายใต้เงื่อนไขที่เป็นกลาง แต่ จำกัด กับผลิตภัณฑ์ C2-C4 เป็นผลให้กรดโพรพิโอนิและการผลิตกรดบิวทิริกเพิ่มขึ้น 109% และ 152% ตามลำดับ การค้นพบเหล่านี้มีหลักฐานสำคัญในการควบคุมการผลิตกรดคาร์บอกซิระหว่างการหมักจุลินทรีย์ผสมของ BSG โดยการควบคุมความเป็นกรดด่างและเพิ่มผู้บริจาคอิเล็กตรอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการผลิตกรดอินทรีย์จากกากธัญชาติ ( BSG ) ผ่านการหมักจุลินทรีย์ผสม ผลการศึกษาพบว่า การกระจายของผลิตภัณฑ์หมักก็มีผลอย่างมาก และเพิ่มเงื่อนไขของผู้บริจาคอิเล็กตรอนกรดแลคติกเป็นส่วนประกอบที่เป็นกรดและด่างที่เด่นภายใต้เงื่อนไขในขณะที่กรดไขมันระเหย ( vfas ) กลายเป็นเด่นภายใต้เงื่อนไขที่เป็นกลาง นอกจากนี้ ภาวะเป็นกลาง ชอบโซ่ยืดของกรดอินทรีย์โดยเฉพาะเอทานอลเป็นอิเล็กตรอน . นอกเหนือจากเอทานอลเพิ่มการผลิตกรดและกรด valeric กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม โดย 44% และ 167 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับนอกจากนี้กรดแลคติกยังมีผลในเชิงบวกเกี่ยวกับ vfas การผลิตภายใต้เงื่อนไขที่เป็นกลาง แต่ จำกัด ให้ C2 C4 และผลิตภัณฑ์ ผลของกรดโพรพิออนิก และกรด butyric , การผลิตเพิ่มขึ้น 109 % และ 152% ตามลำดับผลการวิจัยเหล่านี้มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันเพื่อควบคุมการผลิตกรดอินทรีย์ผสมระหว่างวัฒนธรรมการหมัก BSG โดยการควบคุม pH และเพิ่มผู้บริจาคอิเล็กตรอน