WHAT'S GOING ON IN THAILAND? A BRIE

WHAT'S GOING ON IN THAILAND? A BRIEF GUIDE.
Here's a summary of what we know so far. King Bhumibol Adulyadej of Thailand has been gravely ill for years, and for the last few months he has been totally incapacitated, kept alive in a vegetative state by constant aggressive medical intervention as well as a respirator and dialysis machines.
During this time, Prime Minister Prayuth Chan-ocha has been conspiring with Crown Prince Vajiralongkorn to allow the forgery of Bhumibol's signature on royal commands and approvals. Prayuth and Vajiralongkorn have consolidated their position, sidelining junta godfather Prawit Wongsuwan, the former general who previously controlled the Eastern Tigers military clique.
The crown prince has launched a purge in the palace, humiliating the powerful Vajarodaya clan and transferring the head of the Crown Property Bureau which controls royal wealth estimated at more than $50 billion. This paves the way for Vajiralongkorn and his allies to take control of the royal fortune. This gives Vajiralongkorn two immensely potent sources of power — vast wealth, and the sacred aura of royalty. But although reverence for royalty remains remarkably strong in Thailand, many Thais despise and fear Vajiralongkorn.
Aware that most of the palace elite and army factions hate the crown prince, Prayuth has sought to prevent any challenge to his rule by reaching out to Prem Tinsulonanda, an ancient formal general who heads the Privy Council and had the most powerful political network in Thailand from the 1980s until his influence started to fade after he masterminded a disastrous coup in 2006. Prem has long been a bitter enemy of the crown prince and his allies have hatched various plots to prevent Vajiralongkorn becoming king. Prem feared for his safety if the crown prince became monarchy, giving him further incentive to try to prevent Vajiralongkorn taking the throne. Hoping to prevent any nasty surprise at succession time, Prayuth allowed an ally of Prem's to take the key job of army chief in the latest reshuffle. The logic of putting General Chalermchai Sittisart in this position was to try to placate Prem and his allies, as well as military factions resentful of the Eastern Tigers, and prevent a counter-coup during the royal succession process. Vajiralongkorn was persuaded to enter into an uneasy alliance with his old enemy.
If Prem still secretly intends to try to launch a succession surprise, however, the appointment of his ally as army chief gives him control of a strategically crucial position. Mistrust between Prem and Vajiralongkorn remains extremely high.
Many Thais have long feared that Vajiralongkorn will be a cruel and dangerous monarch, and recent developments suggest the reality will be even worse than expected. Last year three members of the prince's inner circle were murdered in army custody in Bangkok after they displeased him. It was claimed that two committed suicide and one died of blood poisoning but the reality is that they were killed and it is inconceivable this could have happened without the prince's approval. Vajiralongkorn has also behaved with extraordinary cruelty towards his third wife Srirasmi and her family after he divorced her in 2014. Most of Srirasmi's close family including her parents, three brothers and a sister were jailed along with several more distant relatives. Srirasmi has been separated from her son Dipangkorn, who she never sees, and credible reports suggest she is still being deliberately tormented at her house in Ratchaburi on the orders of the crown prince.
With King Bhumibol incapacitated, Vajiralongkorn has been pushing to be declared King Rama X. Because Bhumibol is comatose he cannot declare that he is abdicating, and Prayuth is extremely nervous about faking the king's abdication, even for him it is a step tooo far. According to palace law, if the monarch is incapacitated a regent should be appointed to carry out royal duties on his behalf. Since Bhumibol is clearly totally non-functional, there is a clear case for Vajiralongkorn to become regent. In theory, since the regent has the powers of the monarch, he could then immediately declare the abdication of Bhumibol and his own accession to the throne. Meanwhile, if Bhumibol dies, Vajiralongkorn is the designated heir so should be proclaimed Rama X — unless he faces a challenge.
Last Sunday, the palace released an unprecedentedly gloomy announcement about King Bhumibol's health. These palace health bulletins are usually heavily sanitised and semi-fictional, and follow a slightly absurd traditional format, always finding a way to say that the king's health has "improved". Sunday's announcement was the first health updated that failed to say Bhumibol's condition had improved — instead, it said, he was "unstable". Moreover the bulletin announced that doctors had told the king to stop working and suspend his royal duties because of his health. This was also unprecedented. In fact, Bhumibol has

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย คำแนะนำสั้น ๆนี่คือสรุปของสิ่งที่เรารู้เพื่อให้ห่างไกล ภูมิพลอดุลยเดชแห่งประเทศไทยได้ป่วยหนักปี และไม่กี่เดือน เขามีรับทั้งหมด ทุพพลภาพ เก็บอยู่ในสถานะของพืช โดยการแทรกแซงทางการแพทย์เชิงรุกอย่างต่อเนื่องตลอดจนเป็นเครื่องช่วยหายใจและไตในช่วงเวลานี้ นายกรัฐมนตรีประยุทธ์จันทร์โอชาได้รับสนใจกับฟิลิปปินส์ให้ปลอมลายเซ็นของภูมิพลสั่งรอยัลและอนุมัติ ประยุทธ์และวชิราลงกรณ์รวมตำแหน่ง sidelining จุนทาเจ้าพ่อประวิทย์ศราวงศ์สุวรรณ อดีตทั่วไปที่เคย ควบคุมในกลุ่มทหารเสือตะวันออกสยามมกุฏราชกุมารได้เปิดตัวล้างข้อมูลในวัง อัปยศ Vajarodaya กองทัพทรงพลัง และโอนย้ายหัวหน้าสำนักราชเลขาธิการซึ่งควบคุมความมั่งคั่งรอยัลประมาณกว่า 50 ล้านเหรียญ นี้ปูทางสำหรับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชและพันธมิตรของเขาควบคุมโชครอยัล นี้ทำให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสองมีศักยภาพอย่างมากแหล่งพลังงาน — ความมั่งคั่งมากมาย และกลิ่นอายอันศักดิ์สิทธิ์ของราชวงศ์ แต่แม้ว่าความเคารพสำหรับราชวงศ์ยังคงแข็งแกร่งแม้ในประเทศไทย หลายคนชัง และกลัวสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชทราบว่า ส่วนใหญ่ของชนชั้นสูงและกองทัพฝ่ายวังเกลียดมกุฎ ประยุทธ์ได้พยายามที่จะป้องกันความท้าทายใด ๆ กฎของเขา โดยเข้าถึงเปรม Tinsulonanda ทั่วไปอย่างเป็นทางการโบราณที่หัวองคมนตรี และเครือข่ายทางการเมืองมีประสิทธิภาพที่สุดในประเทศไทยจากปี 1980 ถึงอิทธิพลของเขาเริ่มจะจางหายไปหลังจากที่เขา masterminded ร้ายรัฐประหารในปี 2549 เปรมได้ศัตรูขมของมกุฎ และพันธมิตรมีฟักแปลงต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้กษัตริย์กลายเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เปรมกลัวสำหรับความปลอดภัยหากยุพราชกลายเป็น ราชาธิปไตย ให้เขาเพิ่มเติมแรงจูงใจเพื่อพยายามป้องกันมหาวชิราลงกรณสละราชบัลลังก์ หวังที่จะป้องกันความประหลาดใจที่น่ารังเกียจใด ๆ ในเวลาติด ๆ กัน ประยุทธ์อนุญาตพันธมิตรของเปรมของเพื่องานสำคัญของกองทัพหัวหน้าในสับเปลี่ยนล่าสุด ตรรกะของการวางทั่วไปเฉลิมชัย Sittisart ในตำแหน่งนี้ได้พยายามปลอบโยนเปรม และเขาพันธมิตร รวมทั้งทหารฝ่ายวิญญาณของเสือตะวันออก และป้องกันการรัฐประหารคัดค้านในระหว่างกระบวนการรุ่งเรือง วชิราลงกรณ์ถูกเกลี้ยกล่อมให้เข้าเป็นพันธมิตรที่ไม่สบายใจกับศัตรูเก่าของเขาถ้าเปรมยังคงแอบตั้งใจที่จะพยายามเปิดประหลาดสืบ อย่างไรก็ตาม การนัดหมายของพันธมิตรของเขาเป็นหัวหน้ากองทัพช่วยให้เขาควบคุมตำแหน่งสำคัญกลยุทธ์ กฎหมายยังคงสูงมากระหว่างเปรมและสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชคนไทยจำนวนมากได้นานกลัวว่า วชิราลงกรณ์จะเป็นพระมหากษัตริย์โหดร้าย และเป็นอันตราย และการพัฒนาล่าสุดแนะนำความเป็นจริงจะยิ่งแย่ลงกว่าที่คาดไว้ ปีสามสมาชิกของวงของเจ้าชายถูกฆ่าตายในกองทัพในกรุงเทพหลังจากที่พวกเขาไม่พอใจเขา มันก็อ้างว่า สองยอมฆ่าตัวตาย และหนึ่งเสียชีวิตจากเลือดเป็นพิษ แต่ความเป็นจริงว่า พวกเขาถูกฆ่าตาย และได้เล่านี้จะเกิดขึ้น โดยการอนุมัติของเจ้าชาย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชได้ประพฤติตัว ด้วยความโหดร้ายวิสามัญต่อภรรยาของเขาสามสุวะและครอบครัวของเธอหลังจากเขาหย่าร้างของเธอในปี 2557 ส่วนใหญ่ของสุวะปิดครอบครัวรวมทั้งพ่อแม่ของเธอ สามพี่ชาย และน้องสาวถูกคุกพร้อมกับญาติไกลกว่าหลาย สุวะได้ถูกแยกออกจากลูกชายของเธอพระ ผู้ที่เธอไม่เคยเห็น และรายงานที่น่าเชื่อถือแนะนำเธอจะยังคงถูกจงใจทรมานที่บ้านของเธอในราชบุรีสั่งของมกุฎกษัตริย์ภูมิพลอดุลยเดชล้ม สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชมีการผลักดันให้ประกาศพระราม X เพราะภูมิพลเป็น comatose เขาไม่ประกาศว่า เขาคือ abdicating และประยุทธ์น่ารักเกี่ยวกับการแกล้งของกษัตริย์สละราชสมบัติ แม้แต่สำหรับเขา มันเป็นขั้นตอนมากเกินไป ตามกฎหมายพาเลซ ถ้าพระมหากษัตริย์เป็น incapacitated รีเจนท์ควรถูกแต่งตั้งการปฏิบัติหน้าที่พระในนามของเขา ตั้งแต่พระองค์อย่างชัดเจนทั้งหมดไม่ทำงาน มีเป็นกรณีชัดเจนสำหรับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเป็น รีเจนท์ ในทฤษฎี รีเจ้นท์มีอำนาจของพระมหากษัตริย์ เขาสามารถแล้วทันทีประกาศสละราชสมบัติของพระองค์และภาคยานุวัติเพื่อราชบัลลังก์ของตัวเอง ในขณะเดียวกัน ถ้าพระองค์ตาย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเป็นทายาทกำหนดจึงควรประกาศพระราม X — ยกเว้นว่าเขาเผชิญกับความท้าทายวันอาทิตย์สุดท้าย พระราชวังออกประกาศมืดมน unprecedentedly เกี่ยวกับสุขภาพของพระองค์ แจ้งข่าวสารสุขภาพวังมักหนัก sanitised และกึ่งละคร แล้วทำตามรูปแบบดั้งเดิมเล็กน้อยไร้สาระ มักจะหาวิธีที่จะบอกว่า สุขภาพของกษัตริย์ "ดีขึ้น" ประกาศวันอาทิตย์ถูกสุขภาพแรกการปรับปรุงที่ไม่สามารถบอกสภาวะเศรษฐกิจได้ดีขึ้น — แทน คำกล่าว เขาเป็น "เสถียร" นอกจากนี้ กระดานข่าวประกาศว่า แพทย์ได้บอกคิงเพื่อหยุดการทำงาน และระงับการค้นคว้าของเขาเนื่องจากสุขภาพของเขา ก็เคยมีมาก่อน ในความเป็นจริง พระองค์ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย คำแนะนำสั้น.
นี่คือบทสรุปของสิ่งที่เรารู้เพื่อให้ห่างไกล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชแห่งประเทศไทยได้รับเจ็บหนักมานานหลายปีและไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเขาได้รับการไร้ความสามารถทั้งหมดยังมีชีวิตอยู่ในรัฐพืชโดยคงการแทรกแซงทางการแพทย์เชิงรุกเช่นเดียวกับเครื่องช่วยหายใจและการฟอกไตเครื่อง.
ในช่วงเวลานี้นายกรัฐมนตรี ประยุทธจันทร์โอชาได้รับกับการสิ้นพระชนม์มกุฎราชกุมารวชิราลงมาเพื่อช่วยให้การปลอมแปลงลายเซ็นภูมิพลฯ เมื่อวันที่คำสั่งหลวงและการอนุมัติ ประยุทธและทรงได้รวมตำแหน่งของพวกเขา sidelining สภาเจ้าพ่อประวิตรวงษ์สุวรรณอดีตทั่วไปที่ควบคุมก่อนหน้านี้ทหารก๊กเสือตะวันออก.
มกุฎราชกุมารได้เปิดตัวล้างในพระราชวังอับอายที่มีประสิทธิภาพตระกูลวัชโรทัยและการโอนย้ายหัวของพระมหากษัตริย์ทรัพย์สิน สำนักควบคุมพระราชทรัพย์ประมาณกว่า $ 50000000000 นี้เป็นการปูทางสำหรับการทรงและพันธมิตรของเขาที่จะใช้การควบคุมของโชคลาภพระราช นี้จะช่วยให้ทรงสองแหล่งที่มีศักยภาพอย่างมากของการใช้พลังงาน - ความมั่งคั่งมากมายและกลิ่นอายอันศักดิ์สิทธิ์ของพระบรมวงศานุวงศ์ แต่ถึงแม้ว่าความเคารพสำหรับเจ้านายยังคงแข็งแกร่งอย่างน่าทึ่งในประเทศไทยคนไทยหลายคนชังและความกลัววชิราลง.
ตระหนักว่าส่วนใหญ่ของ Elite Palace และฝ่ายกองทัพเกลียดมกุฎราชกุมาร, ประยุทธได้พยายามที่จะป้องกันไม่ให้เกิดความท้าทายใด ๆ ในการปกครองของเขาด้วยการติดต่อกับเปรม Tinsulonanda, ทั่วไปอย่างเป็นทางการโบราณที่หัวองคมนตรีและมีเครือข่ายทางการเมืองที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในประเทศไทยจากปี 1980 จนถึงอิทธิพลของเขาเริ่มจะจางหายไปหลังจากที่เขาทำรัฐประหาร masterminded หายนะในปี 2006 พลเอกเปรมได้รับการศัตรูขมของมกุฎราชกุมารและพันธมิตรของเขา มีการเพาะฟักแปลงต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้กลายเป็นกษัตริย์ทรง เปรมกลัวเพื่อความปลอดภัยของเขาถ้ามกุฎราชกุมารกลายเป็นสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เขาแรงจูงใจต่อการพยายามที่จะป้องกันไม่ทรงสละราชบัลลังก์ หวังที่จะป้องกันไม่ให้เกิดความประหลาดใจที่น่ารังเกียจใด ๆ ณ เวลาสืบทอดประยุทธได้รับอนุญาตเป็นพันธมิตรของเปรมที่จะใช้งานที่สำคัญของผู้บัญชาการทหารบกในการสับเปลี่ยนล่าสุด ตรรกะของการวางทั่วไปเฉลิม Sittisart ในตำแหน่งนี้คือการพยายามที่จะปลอบโยนเปรมและพันธมิตรของเขาเช่นเดียวกับฝ่ายทหารไม่พอใจของเสือตะวันออกและป้องกันการตอบโต้การรัฐประหารในระหว่างกระบวนการสืบทอดพระราช ทรงได้รับการชักชวนให้เข้าสู่การเป็นพันธมิตรไม่สบายใจกับศัตรูเก่าของเขา.
หากเปรมยังคงแอบตั้งใจที่จะพยายามที่จะเปิดตัวประหลาดใจอย่างต่อเนื่องอย่างไรก็ตามการแต่งตั้งพันธมิตรของเขาในฐานะผู้บัญชาการทหารบกให้เขาควบคุมของตำแหน่งที่สำคัญในเชิงกลยุทธ์ ความไม่ไว้วางใจระหว่างเปรมและทรงยังคงสูงมาก.
คนไทยหลายคนได้กลัวมานานแล้วว่าทรงจะเป็นพระมหากษัตริย์ที่โหดร้ายและเป็นอันตรายและการพัฒนาล่าสุดแสดงให้เห็นความเป็นจริงจะยิ่งแย่ลงกว่าที่คาดไว้ ปีที่ผ่านมาสมาชิกสามคนของวงในของเจ้าชายถูกฆ่าตายในความดูแลของกองทัพในกรุงเทพฯหลังจากที่พวกเขาไม่พอใจเขา มันก็อ้างว่าทั้งสองฆ่าตัวตายและเสียชีวิตจากเลือดเป็นพิษ แต่ความจริงก็คือว่าพวกเขาถูกฆ่าตายและมันเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อนี้อาจจะเกิดขึ้นโดยการอนุมัติของเจ้าชาย วชิราลงนอกจากนี้ยังมีความประพฤติด้วยความโหดร้ายพิเศษต่อภรรยาคนที่สามศรีรัศมิ์และครอบครัวของเธอหลังจากที่เขาหย่าร้างของเธอในปี 2014 ส่วนใหญ่เป็นครอบครัวที่ใกล้ชิดศรีรัศมิ์รวมทั้งพ่อแม่ของเธอพี่ชายสามคนและน้องสาวถูกจำคุกพร้อมกับญาติห่างอีกหลาย ศรีรัศมิ์ได้รับการแยกออกมาจากลูกชายของเธอทีปังกรที่เธอไม่เคยเห็นและรายงานที่น่าเชื่อถือขอแนะนำให้เธอยังคงถูกทรมานจงใจที่บ้านของเธอในจังหวัดราชบุรีตามคำสั่งของเจ้าชายพระมหากษัตริย์.
ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลไร้ความสามารถทรงได้รับการผลักดันที่จะได้รับการประกาศพระมหากษัตริย์ พระรามเอ็กซ์เพราะภูมิพลเป็นโคม่าเขาไม่สามารถประกาศว่าเขาจะสละราชสมบัติและประยุทธเป็นอย่างมากเกี่ยวกับประสาทแกล้งสละราชสมบัติของกษัตริย์แม้สำหรับเขาว่ามันเป็นขั้นตอน tooo ไกล ตามกฎหมายพระราชวังถ้าพระมหากษัตริย์ไร้ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ควรจะได้รับการแต่งตั้งจะดำเนินการออกพระราชกรณียกิจในนามของเขา นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอย่างชัดเจนโดยสิ้นเชิงไม่ทำงานมีกรณีที่ชัดเจนสำหรับวชิราลงจะกลายเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ในทางทฤษฎีแล้วตั้งแต่ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินมีอำนาจของพระมหากษัตริย์ที่เขาจะได้แล้วทันทีประกาศสละราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลและภาคยานุวัติของตัวเองเพื่อราชบัลลังก์ ในขณะเดียวกันถ้าภูมิพลตายทรงเป็นทายาทที่กำหนดดังนั้นควรจะประกาศพระราม X -. เว้นแต่เขาเผชิญความท้าทาย
วันอาทิตย์ที่พระราชวังที่ปล่อยออกมาประกาศมืดมนไม่เคยมีเกี่ยวกับสุขภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล เหล่านี้แถลงการณ์สุขภาพพระราชวังมักจะมีการปรุงแต่งอย่างหนักและกึ่งละครและทำตามรูปแบบดั้งเดิมที่ไร้สาระเล็กน้อยมักจะหาวิธีที่จะบอกว่าสุขภาพของกษัตริย์ได้ "ดีขึ้น" ประกาศวันอาทิตย์เป็นครั้งแรกที่มีการปรับปรุงสุขภาพที่ล้มเหลวที่จะบอกว่าสภาพภูมิพลได้ดีขึ้น - แต่มันบอกว่าเขาเป็น "ไม่แน่นอน" นอกจากนี้ยังมีข่าวประกาศว่าแพทย์ได้บอกกับพระมหากษัตริย์ที่จะหยุดการทำงานและการระงับการพระราชกรณียกิจของเขาเพราะสุขภาพของเขา นี่ก็เป็นประวัติการณ์ ในความเป็นจริงมีภูมิพล