This research describes and analyse

This research describes and analyses how smallholder crop livestock farmers in rural Ea Kar,
Vietnam, were able to take advantage of the rising demand for meat in urban centres and
transform cattle production from a traditional, extensive grazing system to a more intensive,
stall-fed system that supplied quality meat to urban markets. The traditional grazing system
produced low-quality animals that could only be sold for local consumption. Introduction of
the concept of farm-grown fodder production enabled farmers to produce fatter animals,
achieving higher sale prices, and reduce labour inputs by moving from grazing to stallfeeding.
These benefits convinced farmers, traders and local government that smallholder
cattle production could be a viable enterprise and so stimulated stakeholder interest. Within
10 years, the way that cattle were produced and marketed changed considerably. By 2010,
more than 3,000 smallholders had adopted farm-grown forages and stall-feeding, and many
produced high-quality beef cattle. Traders had been able to develop access to urban markets
as farmers were able to produce animals that satisfied the stringent quality requirements of
urban markets. In addition to the underlying driver of strong market demand for quality
meat, several factors contributed to this transition: (i) a convincing innovation – the use of
farm-grown fodder – that provided immediate benefits to farmers and provided a vision for
local stakeholders; (ii) a participatory, systems-oriented innovation process that emphasised
capacity strengthening; (iii) a value chain approach that linked farmers and local traders to
markets; (iv) the formation of a loosely structured coalition of local stakeholders that
facilitated and managed the innovation process; and (v) technical support over a sufficiently
long time period to allow innovation processes to become sustainable

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

งานวิจัยนี้อธิบาย และวิเคราะห์วิธีเกษตรกรพืชปศุสัตว์เกษตรกรในชนบท Ea Karเวียดนาม มีความสามารถในการใช้ประโยชน์จากความต้องการเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้นในศูนย์กลางเมือง และแปลงผลิตวัวจากระบบ grazing ดั้งเดิม ละเอียดมากมากคอกเลี้ยงระบบที่คุณภาพเนื้อการตลาดเมือง ระบบ grazing ดั้งเดิมผลิตสัตว์คุณภาพต่ำที่อาจขายสำหรับปริมาณการใช้ภายในเท่านั้น แนะนำของแนวคิดของเกษตรกรผลิตเปิดฟาร์มปลูกอาหารสัตว์ผลิตสัตว์ fatterทำราคาขายที่สูงขึ้น และลดปัจจัยการผลิตแรงงาน โดย grazing เพื่อ stallfeedingคุณประโยชน์เหล่านี้มั่นใจเกษตรกร ผู้ค้า และรัฐบาลท้องถิ่นที่เกษตรกรผลิตวัวควายอาจเป็นองค์กรทำงานได้ และถูกกระตุ้นให้ ผู้สนใจ ภายใน10 ปี แบบว่า วัวถูกผลิต และทำตลาดเปลี่ยนแปลงอย่างมาก 2010smallholders 3000 กว่าได้นำฟาร์มปลูก forages และ stall-feeding และหลายผลิตโคเนื้อคุณภาพสูง ผู้ค้าได้สามารถพัฒนาเข้าถึงตลาดการเมืองเป็นเกษตรกรมีความสามารถในการผลิตสัตว์ที่พอใจความต้องการคุณภาพที่เข้มงวดของตลาดเมือง นอกจากโปรแกรมควบคุมพื้นฐานของความต้องการตลาดที่แข็งแกร่งคุณภาพเนื้อ ปัจจัยหลายส่วนการเปลี่ยนแปลงนี้: (i) นวัตกรรมน่าเชื่อถือ – การใช้ฟาร์มปลูกอาหาร – ที่ทันทีประโยชน์แก่เกษตรกร และมีวิสัยทัศน์ในเสียท้องถิ่น (ii) เป็นกระบวนการมีส่วนร่วม ระบบมุ่งเน้นนวัตกรรมที่ emphasisedกำลังการผลิตเพิ่ม (iii) เป็นแนวทางค่าห่วงโซ่ที่เชื่อมโยงเกษตรกรและผู้ค้าท้องถิ่นเพื่อตลาด (iv) การก่อตัวของรัฐบาลซึ่งโครงสร้างของท้องถิ่นมีส่วนได้เสียที่สภาพปานกลาง และมีการจัดการนวัตกรรมกระบวนการ และฝ่ายสนับสนุนด้านเทคนิค (v) ไปเพียงพอยาวรอบระยะเวลาเพื่อให้กระบวนการนวัตกรรมเป็นอย่างยั่งยืน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิจัยนี้อธิบายและการวิเคราะห์วิธีการที่เกษตรกรปศุสัตว์พืชรายย่อยในชนบท Ea กา, เวียดนามก็สามารถที่จะใช้ประโยชน์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับเนื้อสัตว์ในเมืองและเปลี่ยนการผลิตวัวจากแบบดั้งเดิมระบบการเลี้ยงสัตว์อย่างกว้างขวางที่จะเข้มข้นมากขึ้น, คอกเลี้ยง ระบบที่จัดจำหน่ายเนื้อสัตว์ที่มีคุณภาพให้กับตลาดในเมือง ระบบการเลี้ยงสัตว์แบบดั้งเดิมผลิตสัตว์ที่มีคุณภาพต่ำเท่านั้นที่อาจจะขายเพื่อการบริโภคในท้องถิ่น บทนำของแนวคิดของการทำการเกษตรปลูกการผลิตอาหารสัตว์เปิดใช้งานของเกษตรกรในการผลิตสัตว์อ้วนขึ้นบรรลุราคาขายที่เพิ่มขึ้นและลดปัจจัยการผลิตแรงงานโดยการย้ายจากทุ่งเลี้ยงสัตว์ที่จะstallfeeding. ผลประโยชน์เหล่านี้เชื่อว่าเกษตรกรผู้ค้าและรัฐบาลท้องถิ่นที่รายย่อยผลิตวัวอาจจะเป็นที่ทำงานได้องค์กรและการกระตุ้นเพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียที่น่าสนใจ ภายใน10 ปีวิธีการที่วัวถูกผลิตและทำการตลาดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยปี 2010 กว่า 3,000 เกษตรกรรายย่อยได้นำจำนงฟาร์มปลูกและคอกให้อาหารและอีกหลายการผลิตที่มีคุณภาพสูงการเลี้ยงโคเนื้อ ผู้ค้าที่ได้รับสามารถที่จะพัฒนาเข้าถึงตลาดในเมืองเป็นเกษตรกรมีความสามารถในการผลิตสัตว์ที่มีความพึงพอใจความต้องการคุณภาพที่เข้มงวดของตลาดในเมือง นอกจากนี้ยังมีคนขับพื้นฐานของความต้องการของตลาดที่แข็งแกร่งสำหรับการมีคุณภาพเนื้อหลายปัจจัยที่มีส่วนทำให้การเปลี่ยนแปลงนี้ (i) เป็นนวัตกรรมที่น่าเชื่อถือ - การใช้อาหารสัตว์ฟาร์มปลูก- ที่ให้ประโยชน์ทันทีให้กับเกษตรกรและให้การมองเห็นสำหรับผู้มีส่วนได้เสียในท้องถิ่น (ii) การมีส่วนร่วมระบบที่มุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมที่เน้นการเสริมสร้างขีดความสามารถ (iii) วิธีการห่วงโซ่คุณค่าที่เชื่อมโยงกับเกษตรกรและผู้ประกอบการค้าในท้องถิ่นเพื่อตลาด; (iv) การก่อตัวของรัฐบาลที่มีโครงสร้างอย่างอิสระของผู้มีส่วนได้เสียในท้องถิ่นที่อำนวยความสะดวกและการบริหารจัดการกระบวนการนวัตกรรม; และ (จ) การสนับสนุนทางเทคนิคมากกว่าพอระยะเวลานานในการอนุญาตให้มีกระบวนการที่จะกลายเป็นนวัตกรรมที่ยั่งยืน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานวิจัยนี้ได้อธิบายถึงวิธีการวิเคราะห์โครงสร้างพืชปศุสัตว์ เกษตรกรในชนบท
การ์ เอ เวียดนาม สามารถใช้ประโยชน์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับเนื้อในศูนย์ชุมชนและ
เปลี่ยนการผลิตโคจากแบบดั้งเดิม พร้อมด้วยระบบการแทะเล็มแบบเข้มข้นมากขึ้น
คอกเลี้ยงระบบให้เนื้อคุณภาพไปยังตลาดในเมือง
ระบบการแทะเล็มแบบดั้งเดิมผลิตคุณภาพต่ำ สัตว์ ที่สามารถขายเพื่อการบริโภคในท้องถิ่น แนะนำฟาร์มที่ปลูกอาหาร
แนวคิดของการผลิต ทำให้เกษตรกรเพื่อผลิตสัตว์อ้วนขึ้น ,
ขบวนการขายราคาที่สูงขึ้น และลดปัจจัยแรงงานโดยการย้ายจากการแทะเล็มไป stallfeeding .
เหล่านี้ประโยชน์ให้เกษตรกร ผู้ค้า และรัฐบาลท้องถิ่นที่โครงสร้าง
การผลิตโคจะเป็นองค์กรที่มีศักยภาพและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อกระตุ้นความสนใจ ภายใน
10 ปี วิธีที่สัตว์ถูกผลิต และเด็ดขาด เปลี่ยนมาก โดย 2010 ,
มากกว่า 3000 ชาวสวนได้ใช้ฟาร์มปลูกค้นหาถ่วงเวลาอาหารและผลิตโคเนื้อคุณภาพสูงมากมาย
. ผู้ค้าได้รับการพัฒนาสามารถเข้าถึงตลาดในเมือง
ที่เกษตรกรสามารถผลิตสัตว์ที่พอใจความต้องการเข้มงวดคุณภาพ
ตลาดเมือง นอกจากพื้นฐานของความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับไดรเวอร์ตลาดเนื้อคุณภาพ
หลายปัจจัยสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนี้ : ( i ) ให้ใช้นวัตกรรม–ฟาร์มและอาหารสัตว์ที่ปลูก
ที่ให้ประโยชน์กับเกษตรกรและให้วิสัยทัศน์
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในท้องถิ่น( 2 ) การมีส่วนร่วม มุ่งเน้นนวัตกรรมระบบกระบวนการที่เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพ
; ( iii ) วิธีการเชื่อมโยงห่วงโซ่คุณค่าที่ผู้ค้าตลาดเกษตรกรและท้องถิ่น

; ( 4 ) การสร้างโครงสร้างหลวมๆ กลุ่มของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่
ความสะดวกและจัดการกระบวนการนวัตกรรม และ ( 5 ) การสนับสนุนทางเทคนิคมากกว่าเพียงพอ
ระยะเวลานานเพื่อให้กระบวนการที่จะกลายเป็นนวัตกรรมอย่างยั่งยืน