In Stage one (obedience and punishm

In Stage one (obedience and punishment driven), individuals focus on the direct consequences of their actions on themselves. For example, an action is perceived as morally wrong because the perpetrator is punished. "The last time I did that I got spanked, so I will not do it again." The worse the punishment for the act is, the more "bad" the act is perceived to be.[16] This can give rise to an inference that even innocent victims are guilty in proportion to their suffering. It is "egocentric," lacking recognition that others' points of view are different from one's own.[17] There is "deference to superior power or prestige."[17]

An example of obedience and punishment driven morality would be a child refusing to do something because it is wrong and that the consequences could result in punishment. For example, a child's classmate tries to dare the child to skip school. The child would apply obedience and punishment driven morality by refusing to skip school because he would get punished. Another example of obedience and punishment driven morality is when a child refuses to cheat on a test because the child would get punished

Stage two (self-interest driven) expresses the "what's in it for me" position, in which right behavior is defined by whatever the individual believes to be in their best interest but understood in a narrow way which does not consider one's reputation or relationships to groups of people. Stage two reasoning shows a limited interest in the needs of others, but only to a point where it might further the individual's own interests. As a result, concern for others is not based on loyalty or intrinsic respect, but rather a "You scratch my back, and I'll scratch yours" mentality.[2] The lack of a societal perspective in the pre-conventional level is quite different from the social contract (stage five), as all actions have the purpose of serving the individual's own needs or interests. For the stage two theorist, the world's perspective is often seen as moral relativism.

An example of self-interest driven is when a child is asked by his parents to do a chore. The child asks "what's in it for me?" The parents would offer the child an incentive by giving a child an allowance to pay them for their chores. The child is motivated by self-interest to do chores. Another example of self-interest driven is when a child does his homework in exchange for better grades and rewards from his parents.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในระยะหนึ่ง (เชื่อฟังและลงโทษขับเคลื่อน), บุคคลมุ่งเน้นในผลโดยตรงของการที่กระทำบนตัวเอง ตัวอย่าง การกระทำถือว่าเป็นคุณธรรมที่ไม่ถูกต้องเนื่องจากโทษติงส "ครั้งสุดท้ายค่ะว่า ฉันมี spanked ดังนั้นฉันจะไม่ทำอีก" โทษสำหรับการกระทำที่แย่คือ "ดี" ขึ้นไปถือว่าเป็นการกระทำ [16] ซึ่งสามารถให้ขึ้นข้อความเหยื่อผู้บริสุทธิ์แม้ผิดสัดพวก "Egocentric ขาดการรับรู้ของคนอื่นเห็นแตกต่างจากตนเองได้ [17] "นั้นได้ยอมตามอำนาจที่เหนือกว่าหรือศักดิ์ศรี" มี [17]ตัวอย่างของการเชื่อฟังและลงโทษการขับเคลื่อนศีลธรรมจะปฏิเสธที่จะทำ เพราะเป็นความผิด และผลที่ตามมาอาจทำให้การลงโทษเด็ก ตัวอย่าง เหล่าเด็กพยายามท้าเด็กข้ามโรงเรียน เด็กจะใช้เชื่อฟังและลงโทษการขับเคลื่อนศีลธรรม โดยปฏิเสธที่จะข้ามโรงเรียนเนื่องจากเขาจะได้รับโทษ อีกตัวอย่างหนึ่งของการเชื่อฟังและลงโทษการขับเคลื่อนศีลธรรมคือเมื่อเด็กไม่ยอมโกงสอบ เพราะเด็กจะได้รับโทษขั้นสอง (self-interest ขับ) แสดงความ "สิ่งที่อยู่ในนั้นสำหรับฉัน" ตำแหน่ง ในการทำงานที่เหมาะสมจะถูกกำหนด โดยสิ่งบุคคลเชื่ออยู่ในความสนใจที่สุดแต่เข้าใจในทางแคบซึ่งพิจารณาชื่อเสียงหรือความสัมพันธ์ของคนกลุ่มหนึ่ง ขั้นสองเหตุผลแสดงความสนใจที่จำกัดในความต้องการ ของผู้อื่น แต่เฉพาะจุดซึ่งอาจเพิ่มเติมผลประโยชน์ของบุคคล ดัง คำนึงถึงผู้อื่นจะไม่ขึ้นอยู่กับสมาชิก หรือเคารพ intrinsic แต่แทนที่จะเป็น "คุณขูดหลัง และจะขูดของคุณ" ความคิด [2] การขาดมุมมองข้อมูลในระดับปกติก่อนจะค่อนข้างแตกต่างจากสัญญาประชาคม (ขั้น 5), เป็นการดำเนินการทั้งหมดมีวัตถุประสงค์ของการให้บริการความต้องการของบุคคลหรือสถานที่ สำหรับ theorist สองขั้น มุมมองของโลกมักจะเห็นเป็น relativism คุณธรรมตัวอย่างของ self-interest ขับเคลื่อนคือเมื่อเด็กถาม โดยพ่อแม่ของเขาไม่ใช่ เด็กถาม "คืออะไรในนั้นสำหรับฉัน ผู้ปกครองจะให้เด็กเพื่อจูงใจให้เด็กการหักการชำระค่าจ้างสำหรับงานของพวกเขา เด็กมีแรงจูงใจ โดย self-interest ทำงาน อีกตัวอย่างหนึ่งของ self-interest ขับเป็นเมื่อเด็กไม่ทำการบ้านของเขาเพื่อแลกกับเกรดดีและรางวัลจากพ่อแม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนึ่งในเวที (เชื่อฟังคำสั่งและการลงโทษที่ขับเคลื่อนด้วย) บุคคลที่มุ่งเน้นไปที่ผลกระทบโดยตรงจากการกระทำของพวกเขาในตัวเอง ยกตัวอย่างเช่นการดำเนินการเป็นที่รับรู้เป็นศีลธรรมผิดเพราะผู้กระทำผิดถูกลงโทษ "ครั้งสุดท้ายที่ผมว่าผมได้รับการลงโทษดังนั้นฉันจะไม่ทำมันอีกครั้ง". ที่เลวร้ายกว่าการลงโทษสำหรับการกระทำที่เป็นมากขึ้น "ไม่ดี" การกระทำที่มีการรับรู้ที่จะ. [16] นี้สามารถก่อให้เกิดข้อสรุปว่าแม้เหยื่อผู้บริสุทธิ์มีความผิดในสัดส่วนที่ทุกข์ทรมานของพวกเขา มันคือ "เห็นแก่ตัว" ขาดการรับรู้ว่าจุดที่คนอื่น ๆ ในมุมมองที่แตกต่างจากของตัวเองหนึ่ง. [17] นอกจากนี้ "ความเคารพกับอำนาจที่เหนือกว่าหรือศักดิ์ศรี." [17] ตัวอย่างของการเชื่อฟังคำสั่งและการลงโทษที่ขับเคลื่อนด้วยคุณธรรมจะเป็นเด็กปฏิเสธ ที่จะทำอะไรเพราะมันเป็นความผิดและผลที่ตามมาอาจส่งผลในการลงโทษ ยกตัวอย่างเช่นเพื่อนร่วมชั้นของเด็กพยายามที่จะกล้าให้เด็กที่จะข้ามโรงเรียน เด็กจะใช้การเชื่อฟังคำสั่งและการลงโทษคุณธรรมขับเคลื่อนโดยปฏิเสธที่จะข้ามโรงเรียนเพราะเขาจะได้รับการลงโทษ ตัวอย่างของการเชื่อฟังคำสั่งและการลงโทษที่ขับเคลื่อนด้วยคุณธรรมก็คือเมื่อเด็กปฏิเสธที่จะโกงในการทดสอบเพราะเด็กจะได้รับการลงโทษขั้นที่สอง (ตัวเองดอกเบี้ยขับเคลื่อน) เป็นการแสดงออกถึง "สิ่งที่อยู่ในนั้นสำหรับฉัน" ตำแหน่งซึ่งในการทำงานที่ถูกต้องจะถูกกำหนดโดย สิ่งที่บุคคลที่เชื่อว่าจะอยู่ในความสนใจที่ดีที่สุดของพวกเขา แต่เข้าใจในทางที่แคบซึ่งไม่ได้พิจารณาชื่อเสียงของคนหรือความสัมพันธ์กับกลุ่มของผู้คน ขั้นตอนที่สองเหตุผลที่แสดงให้เห็นถึงความสนใจที่ จำกัด ในการตอบสนองความต้องการของคนอื่น ๆ แต่ถึงจุดที่มันอาจต่อผลประโยชน์ของแต่ละบุคคลที่ เป็นผลให้ความกังวลสำหรับคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความจงรักภักดีที่แท้จริงหรือความเคารพ แต่เป็น "คุณเกาหลังของฉันและฉันจะมีรอยขีดข่วนคุณคิด". [2] การขาดมุมมองทางสังคมในระดับก่อนธรรมดา ค่อนข้างแตกต่างจากสัญญาทางสังคม (ขั้นตอนที่ห้า) ในขณะที่การดำเนินการทั้งหมดมีจุดประสงค์ในการตอบสนองความต้องการของตัวเองของแต่ละบุคคลหรือผลประโยชน์ที่ สำหรับขั้นตอนที่สองทฤษฎีที่มุมมองของโลกที่มักจะเห็นเป็นคุณธรรม relativism. ตัวอย่างของประโยชน์ของตนเองเป็นแรงผลักดันเมื่อเด็กถามพ่อแม่ของเขาที่จะทำงานบ้าน เด็กที่ถามว่า "สิ่งที่อยู่ในนั้นสำหรับฉัน" พ่อแม่จะให้เด็กแรงจูงใจโดยการให้เด็กตั้งค่าเผื่อที่จะจ่ายพวกเขาสำหรับการทำงานของพวกเขา เด็กที่เป็นแรงบันดาลใจจากประโยชน์ของตนเองที่จะทำเหลือเกิน ตัวอย่างของประโยชน์ของตนเองขับเคลื่อนก็คือเมื่อเด็กไม่ทำการบ้านของเขาในการแลกเปลี่ยนสำหรับเกรดที่ดีขึ้นและผลตอบแทนจากพ่อแม่ของเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในขั้นที่ 1 ( วินัย และการลงโทษบุคคลขับเคลื่อน ) มุ่งเน้นผลโดยตรงจากการกระทำของตนเอง ตัวอย่างเช่น การจะมองว่าผิดศีลธรรม เพราะผู้กระทำผิดถูกลงโทษ " ครั้งสุดท้ายที่ฉันทำที่ฉันได้รับ spanked ดังนั้น ผมจะไม่ทำอีกแล้ว " แย่กว่าการลงโทษสำหรับการกระทำ ยิ่ง " เลวร้าย " กฎหมายเป็นที่รับรู้เป็น[ 16 ] นี้สามารถก่อให้เกิดการอนุมานว่า แม้เหยื่อที่บริสุทธิ์จะผิดสัดส่วนกับความทุกข์ทรมานของพวกเขา มันคือ " เห็นแก่ตัว " ขาดการรับรู้ว่าผู้อื่น จุดของมุมมองที่แตกต่างจากของตัวเอง [ 17 ] มี " อำนาจเหนือกว่าหรือความเคารพในศักดิ์ศรี [ 17 ]

"ตัวอย่างของการเชื่อฟังและการลงโทษขับเคลื่อนคุณธรรม จะเป็นเด็ก ปฏิเสธที่จะทำอะไรบางอย่าง เพราะมันผิดและที่ตามมาอาจส่งผลในการลงโทษ ตัวอย่างเช่น เพื่อนร่วมชั้นของเด็กพยายามที่จะกล้าเด็กโดดเรียน เด็กจะใช้วินัยและการลงโทษขับเคลื่อนคุณธรรม โดยการไม่ไปโรงเรียน เพราะเขาจะได้รับการลงโทษอีกตัวอย่างของการเชื่อฟังและการลงโทษขับเคลื่อนคุณธรรมคือเมื่อลูกปฏิเสธที่จะโกงในการทดสอบ เพราะเด็กจะได้รับโทษ

ขั้นที่สอง ( การขับเคลื่อน ) แสดง " อะไรอยู่ในนั้นสำหรับฉัน " ตำแหน่งซึ่งพฤติกรรมที่ถูกต้องจะถูกกำหนดโดยสิ่งที่บุคคลเชื่อว่าอยู่ในความสนใจของพวกเขาที่ดีที่สุด แต่เข้าใจในที่แคบซึ่งไม่พิจารณาความสัมพันธ์ทางเสื่อมเสีย หรือ กลุ่มของคน ขั้นสองเหตุผล แสดงความสนใจ จำกัด ในความต้องการของผู้อื่น เพียงแต่จุดที่อาจจะเพิ่มเติมของแต่ละคนสนใจเอง ผลห่วงใยคนอื่นไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความจงรักภักดีหรือเคารพที่แท้จริง แต่เป็น " คุณเกาหลังของฉันและฉันจะเริ่มต้นเป็นของคุณ " จิต . [ 2 ] การขาดมุมมองของสังคมในระดับปกติก่อนค่อนข้างแตกต่างจากสัญญาทางสังคม ( ขั้นที่ 5 ) ตามการกระทำทั้งหมดมีวัตถุประสงค์ของการให้บริการของแต่ละบุคคลเอง ความต้องการ หรือความสนใจ สำหรับทฤษฎีสองขั้นตอน ,มุมมองของโลกที่มักจะเห็นเป็นศีลธรรมสัมพัทธนิยม

ตัวอย่างของการขับเคลื่อนเมื่อเด็กถามพ่อแม่ของเขาทำ งานบ้าน . เด็กถามว่า " มีอะไรในนั้นสำหรับฉัน ? ผู้ปกครองจะให้เด็กมีแรงจูงใจ โดยการให้เด็กเผื่อที่จะจ่ายเงินให้พวกเขาทำงานของพวกเขา เด็กมีแรงจูงใจจากการทำงานอีกตัวอย่างของการขับเคลื่อนที่เด็กไม่ทำการบ้าน เพื่อแลกกับเกรดที่ดีกว่าและรางวัลจากพ่อแม่ของเขา