วรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาสมัยกรุงศรีอยุธยา และกรุงธนบุรี
วรรณกรรมสมัยกรุงศรีอยุธยา .............วรรณกรรมที่เก่าแก่ที่สุดและถือกันว่าเป็นเรื่องแรกของกรุงศรีอยุธยา คือ “ลิลิตโองการแช่งน้ำ” สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ (พระเจ้าอู่ทอง) ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาโปรดให้แต่งขึ้นเพื่อใช้ในพระราชพิธี เนื่องจากเมื่อทรงสร้างกรุงศรีอยุธยานั้น ข้าราชบริพารของพระองค์มาจากที่ต่างๆ กัน ตำนานกล่าวว่า มาจากเมืองศิริชัยทางพระชนกจากเมืองไตรตรึงส์ทางพระชนนี จากเมืองสุพรรณบุรีทางพระมเหสี และอีกส่วนหนึ่งเป็นชาวตำบลหนองโสนที่อยู่เดิมซึ่งเป็นที่ตั้งกรุง ฉะนั้น เพื่อความสมัครสมานสามัคคีไว้วางใจกัน จึงได้โปรดให้มีพระราชพิธีศรีสัจจปานกาล หรือพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัจจาขึ้นมีพราหมณ์สวดพระราชพิธี คำสวดที่ใช้ในพระราช พิธีครั้งนั้นแต่งเป็นลิลิต เริ่มด้วย ร่าย ๓ บท พรรณนาถึงเทพเจ้า ๓ องค์ คือ พระนารายณ์ พระอิศวร และพระพรหม จากนั้นเป็นโคลงห้า และร่าย กล่าวถึงไฟประลัยกัลป์เผาผลาญโลก การสร้างโลกใหม่ตามคติในไตรภูมิมี พระเจ้าแผ่นดิน มีพิธีถือน้ำ อัญเชิญพระรัตนตรัย ผีสางเทวดา และผู้มีฤทธิ์ มาชุมนุมเป็นสักขีพยานในพิธี ถ้าผู้ใดคิดคดทรยศต่อพระเจ้าแผ่นดิน จะต้องประสบภัยพิบัติ ส่วนผู้ที่จงรักภักดีจะมีความสุขสมบูรณ์ คือ “ใครซื่อสินเภตรา เพิ่มเขาหมื่นมหาไชย ใครซื่อใครรักเจ้าจงยศ กลืนชนมาให้ยืนยง เทพายศล่มฟ้า อย่ารู้ว่าอันตราย” ลิลิตโองการแช่งน้ำใช้ภาษาเก่าและเข้าใจค่อนข้างยากเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็พอจะจับความได้
เนื่องจากสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นนั้น วรรณกรรมเขียนด้วยลายมือ ไม่ได้มีหลายๆ ฉบับ จึงสูญหายไปมาก ต่อจากลิลิตโองการแช่งน้ำที่ปรากฏอยู่เป็นวรรณกรรมสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ได้แก่