HOUSEHOLD DEBT AMPLIFIES CRISES, MA

HOUSEHOLD DEBT AMPLIFIES CRISES, MAKES STIMULUS LESS EFFECTIVE

Why should we be concerned? Research by the Bank for International Settlements (BIS) shows household debt itself is not the root of a crisis but acts as an amplifier. Highly indebted households will be vulnerable to higher interest rates, a fall in income and a drop in asset prices.

Moreover, our own study reveals that the effectiveness of government stimulus is inversely related to household debt. Once debt reaches 50-60% of GDP, the effectiveness of government measures may be blunted. What would happen if Thailand faced a real crisis, consumption fell sharply and the government could do only a little to revive the economy?

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กำลังโคจรอยู่ซึ่งวิกฤตหนี้สินในครัวเรือน กระตุ้นเศรษฐกิจน้อยลงมีผลทำให้ทำไมเราควรสนใจหรือไม่ วิจัย โดยธนาคารสำหรับการชำระเงินระหว่างประเทศ (BIS) แสดงครัวเรือนหนี้เองไม่รากของวิกฤต แต่ทำหน้าที่เป็นเพาเวอร์แอมป์ ครัวเรือนที่เป็นหนี้สูงจะให้อัตราดอกเบี้ยสูง ฤดูใบไม้ร่วงในกำไรขาดทุน และในราคาสินทรัพย์เสี่ยง นอกจากนี้ เราเองพบว่า ประสิทธิภาพของการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลคือ inversely ที่เกี่ยวข้องกับหนี้ครัวเรือน เมื่อหนี้ถึง 50-60% ของ GDP ประสิทธิผลของมาตรการรัฐบาลอาจจะ blunted อะไรจะเกิดขึ้นถ้าประเทศไทยประสบวิกฤตจริง ปริมาณการใช้ลดลงอย่างรวดเร็วและรัฐบาลไม่เท่าน้อยผืน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนี้ภาคครัวเรือนขยายวิกฤตทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพน้อยทำไมเราควรจะกังวล? การวิจัยโดยธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) แสดงให้เห็นหนี้ภาคครัวเรือนตัวเองไม่ได้รากของวิกฤต แต่ทำหน้าที่เป็นเครื่องขยายเสียง ครัวเรือนที่เป็นหนี้สูงจะมีความเสี่ยงที่จะสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยตกอยู่ในรายได้และการลดลงของราคาสินทรัพย์. นอกจากนี้การศึกษาของเราแสดงให้เห็นว่าตัวเองมีประสิทธิผลของการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องแปรผกผันกับหนี้ภาคครัวเรือน เมื่อหนี้ถึง 50-60% ของ GDP ประสิทธิผลของมาตรการของรัฐบาลอาจจะทื่อ อะไรจะเกิดขึ้นถ้าประเทศไทยต้องเผชิญกับวิกฤตจริงการบริโภคลดลงอย่างรวดเร็วและรัฐบาลจะทำเพียงเล็กน้อยที่จะฟื้นเศรษฐกิจได้หรือไม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นเพื่อทำให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพน้อย

ทำไมเราต้องกังวลเกี่ยวกับ งานวิจัยของธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศแสดงให้เห็นว่าหนี้ครัวเรือนเองไม่ใช่รากของวิกฤต แต่ทำเป็นเครื่องขยายเสียง ครัวเรือนที่เป็นหนี้สูงจะต้องเสี่ยงกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น , ตกอยู่ในรายได้และการลดลงของราคาสินทรัพย์

นอกจากนี้การศึกษาของเราเอง พบว่า ประสิทธิผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลไม่มีหนี้ครัวเรือน เมื่อหนี้ถึง 50-60 % ของ GDP , ประสิทธิผลของมาตรการของรัฐบาลอาจจะเยิน . จะเกิดอะไรขึ้นถ้าประเทศไทยเผชิญวิกฤตจริง การบริโภคลดลงอย่างมาก และรัฐบาลจะทำเพียงเล็กน้อยเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ