At the beginning of the lesson, Mr.

At the beginning of the lesson, Mr.Brown asks the students to speak aloud for one minute on various topics. The class learns that Taro's childhood was very lonely because he never knew his parents. Mr.Brown sympathize by telling the class the story of how he was left on an orphanage in Jeremy Street when he was a baby 30 years ago and therefore grew up without any parents as well. However Mr.Brown's mother and father are a lot closer to him than he ever imagined.

and therefore grew up without any parents as well.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในตอนต้นของบทเรียน Mr.Brown ขอให้นักเรียนพูดออกเสียงในหนึ่งนาทีในหัวข้อต่าง ๆ ชั้นรู้ว่า วัยเด็กของเผือกถูกโดดเดี่ยวมาก เพราะเขาไม่เคยรู้ว่าพ่อแม่ของเขา Mr.Brown เห็นอกเห็นใจ โดยบอกชั้นในเรื่องของวิธีเขาถูกซ้ายบนกำพร้าในถนน Jeremy เมื่อเขาถูกเด็ก 30 ปีที่แล้ว และดังนั้น เติบโตขึ้น โดยไม่มีผู้ปกครองใด ๆ เช่น อย่างไรก็ตาม แม่และพ่อของ Mr.Brown อยู่มากใกล้กับเขามากกว่าที่เคยคิดและดังนั้น เติบโตขึ้น โดยไม่มีผู้ปกครองใด ๆ เช่นกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในตอนต้นของบทเรียน Mr.Brown ให้นักเรียนที่จะพูดออกมาดัง ๆ เป็นเวลาหนึ่งนาทีในหัวข้อต่างๆ ชั้นรู้ว่าในวัยเด็กเผือกเป็นโดดเดี่ยวมากเพราะเขาไม่เคยรู้ว่าพ่อแม่ของเขา Mr.Brown เห็นอกเห็นใจโดยบอกชั้นเรื่องราวของวิธีการที่เขาถูกทิ้งไว้ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในเจเรมีถนนเมื่อเขายังเป็นเด็ก 30 ปีที่ผ่านมาจึงมีการเติบโตขึ้นมาโดยไม่มีพ่อแม่เช่นกัน แต่แม่ Mr.Brown และพ่อเป็นจำนวนมากที่ใกล้ชิดกับเขามากกว่าที่เขาเคยคิด. จึงเติบโตขึ้นมาโดยไม่มีพ่อแม่เช่นกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จุดเริ่มต้นของบทเรียน คุณบราวน์ถามให้นักเรียนพูดเสียงดังเป็นเวลาหนึ่งนาทีในหัวข้อต่างๆ ชั้นได้เรียนรู้ว่า ทาโร่ เด็กเหงามาก เพราะเขาไม่เคยรู้จักพ่อแม่ของเขา นายบราวน์ก็เห็นใจ บอกชั้นเรื่องที่เขาถูกทิ้งไว้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในเจเรมี่ถนนตอนเป็นเด็กเมื่อ 30 ปีก่อน จึงเติบโตขึ้นมาโดยไม่มีพ่อแม่เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม mr.brown แม่และพ่อจะอยู่ใกล้กับเขามากกว่าที่เขาเคยคิดไว้และดังนั้นจึงเติบโตขึ้นมาโดยไม่มีพ่อแม่เป็นอย่างดี