in its deepest essence‖ (Capra 1996

in its deepest essence‖ (Capra 1996, 7) and several writers have compared it to one or
another of the ancient Eastern wisdom traditions or of hunter-gatherer societies.83 Other
writers draw a parallel with specifically Buddhist doctrines; a recent paper refers to
Naess‘s work to show that there is an ―intimate relationship‖ between Buddhism and
deep ecology, present since the latter‘s very inception (Khisty 2006, 300).
As suggested above, there are three places where the convergences between
Buddhism and deep ecology are said to occur. These are the focus on oneness and on
wholes rather than on parts, the emphasis on relations between things as opposed to the
things themselves, and the claim that through adopting this perspective, one attains a
truer or more accurate description of reality. In what follows, I shall flesh out these
claims individually and examine their implications. Then, I shall offer a critical
assessment of each one.
1) Oneness and holism
In the early twentieth century, it seems that some physicists were rather taken in by the
philosophical implications that were emerging from recent discoveries in their field.
Einstein, for instance, spoke of the ―delusion of separateness,‖ and the need to ―embrace
all living creatures in the whole of nature and its beauty‖ (cited in Maxwell 2003, 259).
Similarly, David Bohm wrote about the ―unbroken wholeness,‖ and Wheeler of the
―participatory nature‖ of the universe (cited in Capra 1982, 149, 153). It is a debatable
matter whether this new worldview was a direct implication of the discoveries of
quantum mechanics, or whether the interest in Eastern religions and philosophies of some
of these physicists—such as Heisenberg or Schrödinger—might have caused them to
interpret the data the way they did. Whatever the case, it is certainly a fact that the last
century saw the emergence of an alternative framework to classical Newtonian physics.
The old and rejected model is that of a mechanistic reality, where the world is
viewed as ―a plurality of discrete individual substances‖ (Matthews 1994, 9), that is, as
83 Capra 1982, Maxwell 2003, Khisty 2006, and Wilber 1995 draw parallels between the new paradigm and
‗spirituality‘ in general; while Scerri 1989 provides a critical review of this theme. Halifax 1990 deals
specifically with shamanism, and Callicott 1989 with forms of spirituality found in hunter-gatherer
societies. Finally, Wallace 2003, Mansfield 2008, and Ricard and Thuan 2001 are specifically about
Buddhism and delve quite deeply into physics too.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในessence‖ที่ลึกที่สุดของ (คาปราปี 1996 7) และนักเขียนหลายคนได้เปรียบเทียบมันกับหนึ่งหรือ
อีกอย่างหนึ่งของประเพณีภูมิปัญญาตะวันออกโบราณหรือของเธ่อรวบรวม societies.83 อื่น ๆ
นักเขียนวาดขนานกับหลักคำสอนทางพุทธศาสนาโดยเฉพาะ; กระดาษที่ผ่านมาหมายถึง
การทำงาน Naess ที่จะแสดงให้เห็นว่ามีrelationship‖ -intimate ระหว่างศาสนาพุทธและ
นิเวศวิทยาลึกปัจจุบันตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมากหลัง (Khisty 2006, 300).
เป็นข้อเสนอแนะดังกล่าวข้างต้นมีสามสถานที่ที่ convergences ระหว่าง
ศาสนาพุทธและศาสนา นิเวศวิทยาลึกบอกว่าจะเกิดขึ้น เหล่านี้จะมุ่งเน้นไปที่ความเป็นหนึ่งเดียวกันและ
wholes มากกว่าในส่วนที่เน้นความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งที่ตรงข้ามกับ
สิ่งที่ตัวเองและอ้างว่าผ่านการใช้มุมมองนี้บรรลุหนึ่ง
ที่แท้จริงหรือคำอธิบายที่ถูกต้องมากขึ้นของความเป็นจริง ในสิ่งต่อไปนี้ฉันจะออกเนื้อเหล่านี้
เรียกร้องเป็นรายบุคคลและตรวจสอบผลกระทบของพวกเขา แล้วฉันจะให้ความสำคัญ
การประเมินของแต่ละคน.
1) เอกภาพและทฤษฎีความศักดิ์สิทธิ์
ในศตวรรษที่ยี่สิบต้นดูเหมือนว่านักฟิสิกส์บางส่วนถูกนำค่อนข้างโดย
ผลปรัชญาที่ได้เกิดขึ้นจากการค้นพบเมื่อเร็ว ๆ นี้ในสาขาของตน.
Einstein ตัวอย่างเช่น พูดถึง -delusion ของแยกต่างหาก, ‖และจำเป็นที่จะต้อง -embrace
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในธรรมชาติทั้งหมดและbeauty‖มัน (อ้างถึงในแมกซ์เวล 2003, 259).
ในทำนองเดียวกันเดวิด Bohm เขียนเกี่ยวกับความสมบูรณ์ -unbroken, ‖และ ล้อของ
nature‖ -participatory ของจักรวาล (อ้างถึงในคาปรา 1982, 149, 153) มันเป็นที่ถกเถียงกัน
ไม่ว่าโลกทัศน์ใหม่นี้เป็นความหมายโดยตรงของการค้นพบของ
กลศาสตร์ควอนตัมหรือว่าสนใจในศาสนาตะวันออกและปรัชญาของบางส่วน
ของเหล่านักฟิสิกส์เช่นไฮเซนเบิร์กหรือSchrödinger-อาจจะทำให้พวกเขา
ตีความข้อมูล วิธีที่พวกเขาทำ ไม่ว่ากรณีที่มันเป็นความจริงที่ว่าแน่นอนสุดท้าย
ศตวรรษที่เห็นการเกิดขึ้นของกรอบทางเลือกให้กับนิวตันฟิสิกส์คลาสสิก.
รุ่นเก่าและปฏิเสธเป็นที่ของความเป็นจริงกลไกที่โลกจะถูก
มองว่าเป็นส่วนใหญ่ของสารแต่ละตัวที่ไม่ต่อเนื่อง -a ‖ (แมตทิวส์ 1994, 9) ว่ามีเป็น
83 คาปรา 1982 แมกซ์เวล 2003 Khisty ปี 2006 และวิลเบอร์ 1995 แนววาดระหว่างกระบวนทัศน์ใหม่และ
‗spiritualityในทั่วไป ในขณะที่ Scerri 1989 ให้ทานที่สำคัญของรูปแบบนี้ แฮลิแฟกซ์ 1990 ข้อเสนอ
เฉพาะกับชาแมนและ Callicott ปี 1989 ด้วยรูปแบบของจิตวิญญาณที่พบในเธ่อรวบรวม
สังคม ในที่สุดวอลเลซ 2003 แมนส์ปี 2008 และริคาร์ดและ Thuan 2001 เป็นพิเศษเกี่ยวกับ
พุทธศาสนาและเจาะลึกลงไปค่อนข้างฟิสิกส์เกินไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในส่วนลึกของหัวใจ‖ ( คาปรา 1996 , 7 ) และนักเขียนหลายคนเปรียบเทียบกับหนึ่งหรือ
อีกประเพณีภูมิปัญญาตะวันออกโบราณหรือของอื่น ๆที่รวบรวมนักล่า societies.83
นักเขียนวาดขนานกับเฉพาะหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ; กระดาษล่าสุดหมายถึง
naess ทำงานเพื่อแสดงให้เห็นว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่าง ผมอยาก‖พุทธศาสนา
นิเวศวิทยาลึกปัจจุบัน เนื่องจากเป็นหลังมาก Inception ( khisty 2006 , 300 ) .
ตามที่แนะนำข้างต้นมีสามสถานที่ที่ convergences ระหว่าง
พระพุทธศาสนากับนิเวศวิทยาลึกจะเกิดขึ้น เหล่านี้คือเน้นเอกภาพและ
wholes มากกว่าในส่วนที่เน้นความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งที่เป็นนอกคอก
สิ่งตนเอง และอ้างว่าผ่านการใช้มุมมองนี้หนึ่งบรรลุ
ตัวจริงหรืออธิบายเพิ่มเติมที่ถูกต้องของความเป็นจริง ในสิ่งต่อไปนี้ผมจะเนื้อออกแบบและตรวจสอบผลกระทบเหล่านี้
เรียกร้องของพวกเขา งั้น ผมจะเสนอการประเมิน

1 ) ของแต่ละคน และที่ holism
ในศตวรรษที่ยี่สิบต้น ดูเหมือนว่าบางนักฟิสิกส์ถ่ายโดย
ความหมายปรัชญาที่เกิดขึ้นใหม่จากการค้นพบล่าสุดในฟิลด์ของพวกเขาค่อนข้าง
ไอน์สไตน์ เช่น พูดถึงว่าผมอยาก separateness ‖ของ , และความต้องการผมอยากกอด
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในทั้งหมดของธรรมชาติและความงาม‖ ( อ้างถึงใน แม็กซ์เวลล์ 2003 , 259 ) .
โดยเดวิด Bohm เขียนเกี่ยวกับผมอยากทิวและความเป็นทั้งหมด‖ล้อของ
ผมอยาก‖แบบธรรมชาติ ของจักรวาล ( อ้างถึงใน คาปรา 1982 , 149 , 153 ) มันเป็นที่ถกเถียงกัน
ไม่ว่าโลกทัศน์ใหม่นี้คือความหมายโดยตรงของการค้นพบของ
กลศาสตร์ควอนตัม หรือ สนใจในศาสนา และปรัชญาของ
เหล่านี้นักฟิสิกส์เช่นไฮเซนเบิร์กหรือของชเรอดิงเงอร์ตะวันออกอาจจะทำให้พวกเขา
ตีความข้อมูลวิธีที่พวกเขาทำ ยังไงก็ตาม มันเป็นข้อเท็จจริงว่าสุดท้าย
ศตวรรษเห็นการเกิดขึ้นของกรอบทางเลือก ฟิสิกส์นิวตันคลาสสิก
รุ่นเก่าและปฏิเสธนั้นเป็นจริงกลไกที่โลก
มองว่าผมอยากเสียงข้างมากไม่ต่อเนื่อง สารแต่ละ‖ ( แมทธิว 1994 9 ) ที่เป็น
83 คาปรา 1982 , Maxwell 2003 khisty 2006 และ วิลเบอร์ 1995 วาดขนานระหว่างกระบวนทัศน์ใหม่และ
‗จิตวิญญาณในทั่วไปในขณะที่ scerri 1989 มีการทบทวนรูปแบบนี้ แฮลิแฟกซ์ 1990 ข้อเสนอ
โดยเฉพาะกับหมอผี และ callicott 1989 กับรูปแบบของจิตวิญญาณที่พบในฮันเตอร์ที่รวบรวม
สังคม ในที่สุด , วอลเลซ 2003 Mansfield 2008 และและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับ Ricard ทวน 2001
พระพุทธศาสนาและเจาะลึกในฟิสิกส์
ค่อนข้างลึกเหมือนกัน