AbstractOBJECTIVE:Effects of ascorb

Abstract
OBJECTIVE:
Effects of ascorbic acid on hemodynamic parameters of septic shock were evaluated in nonsurgical critically ill patients in limited previous studies. In this study, the effect of high-dose ascorbic acid on vasopressor drug requirement was evaluated in surgical critically ill patients with septic shock.
METHODS:
Patients with septic shock who required a vasopressor drug to maintain mean arterial pressure >65 mmHg were assigned to receive either 25 mg/kg intravenous ascorbic acid every 6 h or matching placebo for 72 h. Vasopressor dose and duration were considered as the primary outcomes. Duration of Intensive Care Unit (ICU) stay and 28-day mortality has been defined as secondary outcomes.
FINDINGS:
During the study period, 28 patients (14 in each group) completed the trial. Mean dose of norepinephrine during the study period (7.44 ± 3.65 vs. 13.79 ± 6.48 mcg/min, P = 0.004) and duration of norepinephrine administration (49.64 ± 25.67 vs. 71.57 ± 1.60 h, P = 0.007) were significantly lower in the ascorbic acid than the placebo group. No statistically significant difference was detected between the groups regarding the length of ICU stay. However, 28-day mortality was significantly lower in the ascorbic acid than the placebo group (14.28% vs. 64.28%, respectively; P = 0.009).
CONCLUSION:
High-dose ascorbic acid may be considered as an effective and safe adjuvant therapy in surgical critically ill patients with septic shock. The most effective dose of ascorbic acid and the best time for its administration should be determined in future studies.
KEYWORDS:
Ascorbic acid; norepinephrine; sepsis; shock; vasopressor

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อวัตถุประสงค์:ผลของกรดแอสคอร์บิกำหนดยาโต้ตอบของการติดเชื้อช็อกถูกประเมินในผู้ป่วยที่ป่วยศัลยในการศึกษาก่อนหน้านี้ที่จำกัด ในการศึกษานี้ รับการประเมินผลของวิตามินซีขนาดสูงในความต้องการยา vasopressor ในผู้ป่วยที่ผ่าตัดป่วยติดเชื้อช็อกวิธีการ:หมายถึง ผู้ป่วยที่ช็อกส้วมที่ต้องใช้ยา vasopressor เพื่อรักษาความดันหลอดเลือด > 65 mmHg กำหนดรับทั้ง 25 มก./ กก.ทางหลอดเลือดดำวิตามินทุก 6 ชม.หรือยาหลอกตรงกันสำหรับยา Vasopressor 72 h. และระยะเวลาการพิจารณาว่าเป็นผลหลัก มีการกำหนดระยะเวลาการเข้าพักที่หน่วย (ICU) และ 28 วันตายเป็นผลรองค้นพบ:ในช่วงระยะเวลาการศึกษา ผู้ป่วย 28 (14 ในแต่ละกลุ่ม) เสร็จสิ้นการทดลอง ปริมาณเฉลี่ยของ norepinephrine ในช่วงเวลาศึกษา (3.65 ± 7.44 เจอ 13.79 ± 6.48 ไมโครกรัม/นาที P = 0.004) และระยะเวลาของการบริหารงานของ norepinephrine (49.64 ± 25.67 เจอ± 71.57 1.60 h, P = 0.007) อย่างมีนัยสำคัญกว่าในกรดแอสคอร์บิคกลุ่มยาหลอก ตรวจพบความแตกต่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างกลุ่มเกี่ยวกับความยาวของ ICU , 28 วันตายก็ต่ำในกรดแอสคอร์บิกว่ากลุ่มยาหลอก (14.28% เจอ 64.28% ตามลำดับ P = 0.009)สรุป:วิตามินซีปริมาณสูงอาจถือได้ว่าเป็นการบำบัดแบบเสริมที่มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยในผู้ป่วยที่ผ่าตัดป่วยติดเชื้อช็อก ยามีประสิทธิภาพสูงสุดของวิตามินซีและเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการจัดการควรจะถูกกำหนดในอนาคตศึกษาคำสำคัญ:กรดแอสคอร์บิค norepinephrine sepsis ช็อต vasopressor

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์:
ผลของวิตามินซีในพารามิเตอร์การไหลเวียนโลหิตของช็อกได้รับการประเมินในผู้ป่วยที่ป่วยหนักศัลยกรรมในการศึกษาก่อนหน้านี้ที่ จำกัด ในการศึกษานี้ผลของวิตามินซีปริมาณสูงกับความต้องการยา vasopressor ยาเสพติดได้รับการประเมินในผู้ป่วยหนักศัลยกรรมกับช็อก
วิธีการ:
ผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อที่ช็อตต้องมียาเสพติดยา vasopressor ในการรักษาความดันเลือดแดงเฉลี่ย> 65 mmHg ได้รับมอบหมายให้รับทั้ง 25 mg / kg ฉีดเข้าเส้นเลือดดำวิตามินซีทุก 6 ชั่วโมงหรือ placebo ใน 72 ชั่วโมง ปริมาณยา vasopressor และระยะเวลาที่ได้รับการพิจารณาเป็นผลหลัก ระยะเวลาของการดูแลหน่วยเร่งรัด (ไอซียู) ในการเข้าพักและอัตราการตาย 28 วันได้รับการกำหนดให้เป็นผลรอง
ข้อค้นพบ:
ในช่วงระยะเวลาการศึกษา ผู้ป่วย 28 ราย (14 ในแต่ละกลุ่ม) เสร็จสิ้นการพิจารณาคดี หมายถึงปริมาณของ norepinephrine ในช่วงระยะเวลาการศึกษา (7.44 ± 3.65 เมื่อเทียบกับ 13.79 ± 6.48 ไมโครกรัม / นาที, P = 0.004) และระยะเวลาของการบริหาร norepinephrine (49.64 ± 25.67 เทียบกับ 71.57 ± 1.60 H, P = 0.007) อย่างมีนัยสำคัญลดลงใน วิตามินซีมากกว่ากลุ่มยาหลอก ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ตรวจพบระหว่างกลุ่มที่เกี่ยวกับระยะเวลาในการเข้าพักห้องไอซียู อย่างไรก็ตามอัตราการเสียชีวิต 28 วันอย่างมีนัยสำคัญที่ต่ำกว่าในวิตามินซีมากกว่ากลุ่มยาหลอก (14.28% เทียบกับ 64.28% ตามลำดับ; p = 0.009)
สรุป:
วิตามินซีขนาดสูงอาจได้รับการพิจารณาเป็นยาเสริมประสิทธิภาพและปลอดภัยในผู้ป่วยที่ป่วยหนักศัลยกรรมกับช็อก ยาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของวิตามินซีและเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการบริหารที่ควรได้รับการพิจารณาในการศึกษาในอนาคต
คำสำคัญ:
วิตามินซี; norepinephrine; แบคทีเรีย; ช็อต; ยา vasopressor

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อวัตถุประสงค์ :ผลของกรดแอสคอร์บิคในพารามิเตอร์การผลิตของร็อคแมนซีรีส์ nonsurgical ประเมินในผู้ป่วยวิกฤตในการศึกษา จำกัด . การศึกษาผลของกรดแอสคอร์บิกความต้องการยายายาเพิ่มความดันทดลองในผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรม ด้วยความตกใจวิธีการ :ผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาเพิ่มความดันร็อคแมนซีรีส์ยาเพื่อรักษาหมายถึงความดันในหลอดเลือด > 65 มิลลิเมตรปรอท ได้รับรับทั้ง 25 มก. / กก. ฉีดวิตามินซีทุก 6 ชั่วโมง หรือยาหลอกเป็นเวลา 72 ชั่วโมง ยาเพิ่มความดันที่ตรงกับขนาดและระยะเวลาก็ถือเป็นผลหลัก ระยะเวลาในหน่วยผู้ป่วยหนัก ( ICU ) อยู่ 28 วันตายได้ เช่น ผลรองข้อมูล :ในช่วงระยะเวลาศึกษา 28 ราย ( 14 ในแต่ละกลุ่ม ) เสร็จสิ้นการทดลอง หมายถึงปริมาณของนอร์อิพิเนฟรินในช่วงที่ศึกษา ( 7.44 ± 3.65 และ 13.79 ± 6.48 mcg / นาที , p = 0.004 ) และระยะเวลาการบริหารงาน ( 49.64 นอร์อิพิเนฟริน± 25.67 vs 71.57 ± 1.60 H , P = 0.007 ) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในกรดแอสคอร์บิก กว่ากลุ่มยาหลอก ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างกลุ่มที่เกี่ยวกับความยาวของห้องไอซียูอยู่ อย่างไรก็ตาม , 28 วัน อัตราการตายลดลงในกรดแอสคอร์บิค กว่ากลุ่มยาหลอก ( 14.28 % เทียบกับ 64.28 ตามลำดับ , p = 0.009 )สรุป :กรดวิตามินซี ขนาดสูงอาจจะถือเป็นที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยรักษาเสริมในผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรม ด้วยความตกใจ ยาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของกรดแอสคอร์บิก และช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการจัดการควรจะมุ่งมั่นในการศึกษาในอนาคตคำสำคัญ :กรดแอสคอร์บิค ; norepinephrine ; การติดเชื้อ ; ตกใจ ; ยาเพิ่มความดัน