In Table 3, the data are presented

In Table 3, the data are presented according to parity, previous lactation length and
weaning to estrus interval on the incidence of ovarian cysts. Although only 1% of sows had
lactation length as long as 14 days, 26.7% of these sows had ovarian cysts. This indicates
that cyst incidence is significantly greater when lactation period is shorter than 14 days.
According to Sesti and Britt (1993), lactation can be divided into the following phases
according to its endocrine status: hypergonadotropic phase (from farrowing to the second
to third day), hypogonadotropic or transition phase (from the 3rd to 14th) and normalization
phase (after the 14th day). According to these authors, if pigs are weaned in the first phase,
the follicles present at farrowing can continue to grow because LH and FSH secretion is not
suppressed. However, as sows are unable to produce a preovulatory surge release of LH,
these follicles tend to grow into cysts. If sows are weaning during the hypogonadotropic
phase, LH and FSH will be suppressed. According to Estienne et al. (1997), there is a
GnRH secretion inhibition induced by the production of endogenous opioids released by
the suckling stimulus. The exact cause and pathogeny of ovarian cysts, although not fully
determined, is associated with LH release defficiencies (Close and Liptrap, 1975; Miller,
1984). Stress situations, such as the one found in early weaning, could induce the release
of adrenocorticotropic hormone and according to Miller (1984) daily administration of
adrenocorticotropic hormone in the follicular phase can produce ovarian cysts.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในตาราง 3 นำเสนอข้อมูลตามความยาวของด้านการให้นมก่อนหน้า พาริตี้ และweaning estrus ช่วงบนเกิดซีสต์ที่รังไข่ แม้มีเพียง 1% ของ sowsด้านการให้นมยาวนาน 14 วัน 26.7% ของ sows เหล่านี้มีซีสต์ที่รังไข่ บ่งชี้เกิดถุงน้ำที่มีมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อด้านการให้นมระยะสั้นกว่า 14 วันตาม Sesti และ Britt (1993), ด้านการให้นมสามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนต่อไปนี้ตามสถานะของต่อมไร้ท่อ: ระยะ hypergonadotropic (จาก farrowing ที่สองสามวัน), hypogonadotropic หรือเปลี่ยนเฟส (ตั้งแต่ 3 ถึง 14) และฟื้นฟูระยะ (หลังวันที่ 14) ตามการเขียนบทความเหล่านี้ ถ้าสุกรหย่านมถึงในระยะแรกรูขุมขนอยู่ใน farrowing สามารถยังคงเติบโตเนื่องจากไม่มีการหลั่ง LH และ FSHปราบพยศ อย่างไรก็ตาม เป็น sows ไม่สามารถผลิตปล่อยคลื่น preovulatory ของ LHรูขุมขนเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะ เติบโตในซีสต์ ถ้ามีการ weaning sows ระหว่าง hypogonadotropicเฟส LH และ FSH จะปราบพยศ ตาม Estienne et al. (1997), มีการยับยั้งการหลั่งบางส่วนเกิดจากการผลิตของ opioids endogenous ออกโดยกระตุ้นหัน แน่นอนสาเหตุและ pathogeny ของซีสต์ที่รังไข่ แม้ไม่ครบทั้งหมดกำหนด มีสัมพันธ์กับ LH รุ่น defficiencies (ปิดและ Liptrap, 1975 มิลเลอร์1984) . สถานการณ์ ความเครียดอย่างหนึ่งที่พบในการ weaning ต้น สามารถก่อให้เกิดการปล่อยของฮอร์โมน adrenocorticotropic และ ตามดูแลทุกวันมิลเลอร์ (1984) ของadrenocorticotropic ฮอร์โมนในระยะ follicular สามารถผลิตรังไข่ซีสต์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในตารางที่ 3
ข้อมูลจะถูกนำเสนอตามความเท่าเทียมกันความยาวให้นมก่อนหน้านี้และหย่านมจะสัดช่วงเวลาในการเกิดซีสต์รังไข่ แม้ว่าจะมีเพียง 1%
ของแม่สุกรมีระยะเวลาในการให้นมบุตรเป็นเวลานานเป็น14 วัน 26.7% ของแม่สุกรเหล่านี้มีซีสต์รังไข่ นี้แสดงให้เห็นว่าอัตราการเกิดถุงน้ำอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นเมื่อระยะเวลาการให้นมบุตรจะสั้นกว่า 14 วัน. ตาม Sesti และ Britt (1993), การให้นมบุตรสามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนต่อไปนี้ตามสถานะต่อมไร้ท่อของ: เฟส hypergonadotropic (จากคลอดที่สองที่สามวัน), hypogonadotropic หรือขั้นตอนการเปลี่ยนแปลง (ที่ 3 จาก 14) และการฟื้นฟูระยะ(หลังจากวันที่ 14) ตามที่ผู้เขียนเหล่านี้ถ้าสุกรหย่านมในขั้นตอนแรกที่รูขุมคลอดในปัจจุบันที่ยังคงสามารถเติบโตเพราะ LH และ FSH ​​การหลั่งไม่ได้เก็บกด อย่างไรก็ตามในขณะที่แม่สุกรไม่สามารถที่จะก่อให้เกิดการปล่อยคลื่น preovulatory ของ LH, รูขุมขนเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเติบโตเป็นซีสต์ ถ้าแม่สุกรจะหย่านมในช่วง hypogonadotropic เฟส LH และ FSH ​​จะถูกระงับ ตามที่เอสเทนและอัล (1997) ที่มีการยับยั้งการหลั่งGnRH ที่เกิดจากการผลิตของ opioids ภายนอกที่ออกโดยกระตุ้นดูดนม สาเหตุที่แท้จริงและ pathogeny ของซีสต์รังไข่แม้จะไม่ได้อย่างเต็มที่มุ่งมั่นที่มีความสัมพันธ์กับการเปิดตัวdefficiencies LH (ปิดและ Liptrap 1975; มิลเลอร์, 1984) สถานการณ์ความเครียดดังกล่าวเป็นหนึ่งที่พบในหย่านมต้นก่อให้เกิดการปล่อยฮอร์โมน adrenocorticotropic และเป็นไปตามมิลเลอร์ (1984) การบริหารงานประจำวันของ adrenocorticotropic ฮอร์โมนในระยะ follicular สามารถผลิตซีสต์รังไข่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตารางที่ 3 , ข้อมูลจะถูกนำเสนอตามลำดับ ความยาว 1 ช่วงหย่านมถึงเป็นสัดก่อนและ
ในการเกิดซีสต์ที่รังไข่ แม้เพียง 1% ของปริมาณแม่สุกรได้
ความยาวนาน 14 วัน , 26.7% ของแม่สุกรเหล่านี้มีซีสต์ที่รังไข่ นี้บ่งชี้ว่าเนื้องอกอุบัติการณ์อย่างมีนัยสำคัญมากขึ้น
เมื่อระยะเวลาการให้นมนั้นสั้นเกิน 14 วัน และ sesti
ตามบริท ( 1993 )นมสามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนต่อไปนี้
ตามสถานะของต่อมไร้ท่อ : hypergonadotropic เฟส ( จากโรงเรือนเพื่อที่สอง
วันที่สาม ) hypogonadotropic หรือการเปลี่ยนเฟส ( จาก 3 - 14 ) และระยะการฟื้นฟู
( หลังจาก 14 วัน ) ตามที่ผู้เขียนเหล่านี้ ถ้าหมูหย่านมในระยะแรก
รูขุมขนอยู่ในโรงเรือนจะยังคงเติบโตเนื่องจากการหลั่ง FSH และ LH ไม่
ปราบปราม อย่างไรก็ตาม ขณะที่สุกรไม่สามารถผลิตปล่อยกระแส preovulatory ของ LH ,
follicles เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเติบโตเป็น ขจัดเชื้อจุลินทรีย์ได้ ถ้าจะหย่านมแม่สุกรในระหว่างขั้นตอน hypogonadotropic
, และ LH FSH จะปราบปราม ตาม estienne et al . ( 1997 ) มี
กล้องจุลทรรศน์การหลั่งสารที่เกิดจากการผลิตยาภายในที่ออกโดย
ดูดนมกระตุ้น สาเหตุที่แน่นอนและ pathogeny ของ ovarian ขจัดเชื้อจุลินทรีย์ได้ แม้จะไม่เต็มที่
กำหนดเกี่ยวข้องกับ defficiencies ปล่อย LH ( ปิดและ liptrap 1975 ; มิลเลอร์
1984 ) สถานการณ์ความเครียด เช่นที่พบในช่วงหย่านม อาจทำให้เกิดการปล่อย
ของแผนกลยุทธ์และตาม มิลเลอร์ ( 1984 ) การบริหารงานรายวัน
แผนกลยุทธ์ในระยะฟอลลิคูลาร์สามารถผลิตซีสต์ที่รังไข่