4. DiscussionFenugreek seeds are ri

4. Discussion
Fenugreek seeds are rich source of polyphenols (apigenin, kaempferol, quercetin glycosides) and flavonoids (vitexin, tricin,(19.60 ± 0.28) mm depending on different concentration of extract [17]. Omezzine and co-workers reported inhibitory activity of organic solvent extract from T. foenum-graecum against Fusarium oxysporum f. sp. radicis-lycopersici and Fusarium oxysporum f. sp. lycopersici [18]. Our study interprets similar result to that of previous work for common microbe E. coli. We found inhibitory zone ranging from (8 ± 0) mm to (15.0 ± 0.7) mm against P. denitrificans, P. vulgaris, E. coli, B. subtilis, X. campestris, S. lutea and K. pneumonia (Figure 1). The antimicrobial activity may be due to the combined effect of phenolic compounds, alkaloids, tannins, flavonoids and terpenoids present in oil.
We performed GC–MS analysis of essential oil obtained from hydrodistillation of seeds powder and obtained 14 peaks, each for individual compound (Table 2). Kenny et al. studied solid liquid sequential extraction (hexane, dichloromethane, methanol and water) of T. foenum-graecum seeds powder [19]. They quantified 18 phenolic compounds by using ultra- performance liquid-chromatography–mass spectrometry.
It is necessary to introduce new antimicrobial agent to resist antibiotic resistance and for effective control of infections. This study showed the antibacterial activity of essential oil of T. foenum-graecum with many biological active compounds. It may help to identify and develop new effective antimicrobial agent. Further study is needed to purify and characterize the active compounds. Toxicological study is also needed before using it as pharmaceutical ingredient.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4. สนทนาเมล็ด fenugreek เป็นแหล่งอุดมไปด้วยโพลีฟีน (apigenin, kaempferol กลัยโคไซด์โลหิต) และ flavonoids (vitexin, tricin, (19.60 ± 0.28) มม.ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นแตกต่างกันของสารสกัดจาก [17] Omezzine และเพื่อนร่วมงานรายงานกิจกรรมยับยั้งของสารสกัดจากตัวทำละลายอินทรีย์จาก T. foenum graecum Fusarium oxysporum f. sp. radicis-lycopersici และ Fusarium oxysporum f. sp. lycopersici [18] ศึกษาของเราแปลผลคล้ายกับที่ก่อนหน้านี้งานทั่วไปของเชื้อ E. coli เราพบโซนยับยั้งตั้งแต่ (8 ± 0) มม. (15.0 ± 0.7) มม.กับ P. denitrificans, P. ผด E. coli, B. subtilis, X. campestris, S. เหลื่อม และเคปอดบวม (รูปที่ 1) กิจกรรมการต้านจุลชีพอาจจะเกิดจากผลรวมของสารฟีนอ ลคาลอยด์ ชิม flavonoids และ terpenoids อยู่ในน้ำมันเราดำเนินการวิเคราะห์ GC – MS ของน้ำมันหอมระเหยที่ได้จาก hydrodistillation เมล็ดผง และได้รับยอด 14 แต่ละสำหรับแต่ละสารประกอบ (ตาราง 2) เคนนีร้อยเอ็ดศึกษาแข็งสกัดของเหลวตามลำดับ (เฮกเซน dichloromethane เมทานอล และน้ำ) T. foenum graecum เมล็ดผง [19] พวกเขาสามารถวัดสารฟีนอ 18 โดยใช้ ultra ประสิทธิภาพ – chromatography ของเหลวมวล spectrometryจำเป็นต้องแนะนำจุลชีพใหม่เพื่อต่อต้านความต้านทานยาปฏิชีวนะ และการควบคุมประสิทธิภาพของการติดเชื้อ การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าการต้านแบคทีเรียของน้ำมันหอมระเหยของ T. foenum-graecum มีฤทธิ์ทางชีวภาพหลาย มันอาจช่วยในการระบุ และพัฒนาสารต้านจุลชีพที่มีประสิทธิภาพใหม่ ศึกษาต่อจะต้องทำให้บริสุทธิ์ และลักษณะสาร ยังต้องการศึกษาทางพิษวิทยาก่อนที่จะใช้เป็นส่วนผสมยา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4. อภิปราย
Fenugreek เมล็ดเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยโพลีฟีน (apigenin, เฟอรอล, ไกลโคไซด์ quercetin) และ flavonoids (vitexin, tricin (19.60 ± 0.28) มิลลิเมตรขึ้นอยู่กับความเข้มข้นที่แตกต่างกันของสารสกัดจาก [17]. Omezzine และเพื่อนร่วมงานรายงานกิจกรรมการยับยั้งของ สารสกัดด้วยตัวทำละลายอินทรีย์จาก T. foenum-graecum กับเชื้อรา Fusarium oxysporum f. Sp. radicis-lycopersici และ Fusarium oxysporum f. Sp. lycopersici [18]. การศึกษาของเราตีความผลคล้ายกับที่ของการทำงานก่อนหน้านี้สำหรับจุลินทรีย์ที่พบบ่อย E. coli. เราพบ โซนยับยั้งตั้งแต่ (8 ± 0) มิลลิเมตร (15.0 ± 0.7) มิลลิเมตรกับพี denitrificans, P. vulgaris, E. coli, B. subtilis, X. campestris เอสเค lutea และโรคปอดบวม (รูปที่ 1) กิจกรรมต้านจุลชีพอาจจะเกิดจากผลรวมของสารประกอบฟีนอลคาลอยด์แทนนิน, flavonoids และ terpenoids อยู่ในน้ำมัน.
เราดำเนินการวิเคราะห์ GC-MS ของน้ำมันหอมระเหยที่ได้จากการต้มกลั่นของผงเมล็ดและได้รับ 14 ยอดแต่ละบุคคลประกอบ ( ตารางที่ 2). เคนนี et al. ศึกษาการสกัดของแข็งของเหลวตามลำดับ (เฮกเซนไดคลอโรมีเทน, เมทานอลและน้ำ) ของตันเมล็ด foenum-graecum ผง [19] พวกเขาปริมาณสารประกอบฟีนอ 18 โดยใช้ ULTRA- Performance Liquid Chromatography--มวลสาร.
มันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะแนะนำสารต้านจุลชีพใหม่ที่จะต้านทานความต้านทานยาปฏิชีวนะและสำหรับการควบคุมที่มีประสิทธิภาพของการติดเชื้อ การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมการต้านเชื้อแบคทีเรียของน้ำมันหอมระเหยจาก T. foenum-graecum ด้วยสารที่ใช้งานหลายทางชีวภาพ มันอาจจะช่วยในการระบุและพัฒนาสารต้านจุลชีพใหม่ที่มีประสิทธิภาพ การศึกษาเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นในการชำระล้างและลักษณะของสารที่ใช้งานอยู่ การศึกษาทางพิษวิทยายังเป็นสิ่งจำเป็นก่อนที่จะใช้เป็นส่วนผสมยา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

4 . การอภิปรายเมล็ดเมล็ดฟีนูกรีกเป็นแหล่งอุดมไปด้วย โพลีฟีนอล ( พิจินินแคมเฟอรอล quercetin , glycosides ) และฟลาโวนอยด์ ( tricin 5-Dihydroxyxanthone ( , , 19.60 ± 0.28 มม. ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นที่แตกต่างกัน ) สารสกัด [ 17 ] omezzine และเพื่อนร่วมงานรายงานกิจกรรมการยับยั้งสารตัวทำละลายอินทรีย์จาก foenum graecum กับ Fusarium oxysporum F . sp . และ radicis lycopersici Fusarium oxysporum F . . lycopersici [ 18 ] การศึกษาของเราแปลผลคล้ายกับที่ของการทำงานก่อนหน้านี้พบเชื้อจุลินทรีย์ E . coli . เราพบว่า โซน ตั้งแต่ 8 ± 0 ) มม. ( 15.0 ± 0.7 ) mm กับหน้า denitrificans , P . vulgaris , E . coli , B . subtilis , X . campestris , S . lutea และ K . โรคปอดบวม ( รูปที่ 1 ) กิจกรรมต้านจุลชีพอาจจะเกิดจากผลรวมของสารประกอบฟีนอลและสารอัลคาลอยด์ , แทนนิน , เทอร์ปีนอยด์ที่มีอยู่ในน้ำมันเราทำ GC – MS การวิเคราะห์น้ำมันหอมระเหยที่ได้จากวิธีการต้มกลั่นจากเมล็ดและผงที่ได้ 14 ยอด แต่ละส่วนประกอบของแต่ละบุคคล ( ตารางที่ 2 ) เคนนี่ et al . ศึกษาการสกัดของแข็ง ของเหลวแบบต่อเนื่อง ( เฮกเซน ไดคลอโรมีเทนและเมทานอลน้ำ ) ของ ต. foenum เมล็ด graecum ผง [ 19 ] ปริมาณสารประกอบฟีโนลิก 18 พวกเขาโดยใช้อัลตร้าประสิทธิภาพ liquid chromatography - มวลสาร .มันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะแนะนำยาต้านจุลชีพตัวแทนใหม่เพื่อต่อต้านต้านทานยาปฏิชีวนะ และควบคุมประสิทธิภาพของเชื้อ การศึกษานี้พบว่าฤทธิ์ต้านแบคทีเรียของน้ำมันหอมระเหยของ foenum graecum กับสารชีวภาพใช้งานมากมาย มันอาจช่วยในการระบุและพัฒนายาใหม่ที่มีประสิทธิภาพตัวแทน การศึกษาเพิ่มเติมจะต้องบริสุทธิ์และลักษณะของสารประกอบที่ใช้งานอยู่ การศึกษาพิษวิทยาเป็นสิ่งจำเป็นก่อนที่จะใช้มันเป็นส่วนผสมทางเภสัชกรรม