Purpose: To assess factors associat

Purpose: To assess factors associated with adherence, particularly pill burden, to combination antiretroviral therapy (cART) using multivariate models. Method: A cross-sectional survey of US adults with a self-reported diagnosis of HIV/AIDS was conducted between April and May 2007. Respondents on a cART regimen of at least 2 nucleoside reverse transcriptase inhibitors plus at least 1 protease inhibitor or non-nucleoside reverse transcriptase inhibitor (n = 461) were included in the analytic sample. Multiple logistic regression models determined independent predictors of complete adherence (defined as never missing or skipping an antiretroviral dose). Results: Fifty-four percent of respondents reported complete adherence to cART. Adherent respondents reported a lower percentage of hospitalizations (11% vs 28%; P < .0001) and emergency room visits (26% vs 34%; P < .09). Respondents taking the single tablet efavirenz/emtricitabine/tenofovir fixed-dose regimen were significantly more likely to have complete adherence than respondents taking other cART regimens (odds ratio [OR] 2.1, P < .05), and higher imputed daily HIV pill count was associated with lower likelihood of complete adherence (OR 0.93, P < .05). Conclusion: This study shows the negative impact of higher pill burden on medication adherence, an important factor associated with treatment outcomes in patients with HIV/AIDS.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์: เพื่อประเมินปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับยึดมั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาภาระ การรักษาด้วยยาต้านไวรัสรวมกัน (รถเข็น) ใช้รูปแบบตัวแปรพหุ วิธี: การสำรวจโรงพยาบาลของเราผู้ใหญ่ ด้วยการวินิจฉัยตนเองรายงานเอดส์ดำเนินการระหว่างเดือนเมษายนถึง 2550 พฤษภาคม ผู้ตอบบนระบบตะกร้าการปกครองยับยั้งปเท nucleoside น้อย 2 บวกน้อย 1 ยับยั้งน้ำย่อย หรือยับยั้งไม่ใช่ nucleoside ปเท (n = 461) รวมอยู่ในตัวอย่างที่วิเคราะห์ แบบจำลองการถดถอยโลจิสติกหลายกำหนดทำนายอิสระของสมบูรณ์ยึดมั่น (กำหนดไม่เคยขาดหายไป หรือข้ามตัวยาต้านไวรัส) ผล: ห้าสิบสี่เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบรายงานสมบูรณ์หล่ตะกร้า สาวกผู้ตอบรายงานเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่าของแก่ (11% เทียบกับ 28% P < .0001) และเยี่ยมชมห้องฉุกเฉิน (26% เทียบกับ 34% P < .09). ผู้ตอบการปกครองเดียวแท็บเล็ตอีฟาวิ เรนซ์/emtricitabine/ที โนโฟเวียร์คงที่ปริมาณมีมากโอกาสจะมียึดมั่นสมบูรณ์กว่าการยารถเข็นอื่น ๆ ผู้ตอบ (อัตราส่วนราคาต่อรอง [หรือ] P 2.1, < .05), ควาบวันเอชไอวียาจำนวนสูงและเกี่ยวข้องกับการลดโอกาสของการยึดมั่นสมบูรณ์ (หรือ 0.93, P < .05). สรุป: การศึกษานี้แสดงผลกระทบเชิงลบของยาสูงขึ้นภาระบนยายึดมั่น เป็นปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับผลการรักษาในผู้ป่วยเอดส์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์: เพื่อประเมินปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการยึดมั่นโดยเฉพาะภาระยา, การรวมกันให้ยาต้านไวรัส (รถเข็น) โดยใช้แบบจำลองหลายตัวแปร วิธีการ: การสำรวจภาคตัดขวางของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯที่มีการวินิจฉัยตนเองรายงานของเอชไอวี / เอดส์ได้ดำเนินการระหว่างเดือนเมษายนและพฤษภาคมปี 2007 ผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับระบบการปกครองของรถเข็นอย่างน้อย 2 nucleoside reverse transcriptase ยับยั้งบวกอย่างน้อย 1 น้ำย่อยยับยั้งหรือไม่ nucleoside ยับยั้งเอนไซม์ (n = 461) ถูกรวมอยู่ในการวิเคราะห์ตัวอย่าง แบบจำลองการถดถอยโลจิสติกหลายกำหนดพยากรณ์อิสระของการยึดมั่นสมบูรณ์ (หมายถึงไม่เคยหายไปหรือข้ามยาต้านไวรัส) ผล: ห้าสิบสี่เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามรายงานการยึดมั่นสมบูรณ์ในรถเข็น ผู้ตอบแบบสอบถามสาวกรายงานอัตราที่ต่ำกว่าในโรงพยาบาล (11% เทียบกับ 28%; p <0.0001) และการเข้าชมห้องฉุกเฉิน (26% เทียบกับ 34%; p <0.09) ผู้ตอบแบบสอบถามการแท็บเล็ต efavirenz / emtricitabine / tenofovir คงที่ปริมาณการปกครองเดียวอย่างมีนัยสำคัญแนวโน้มที่จะมีการยึดมั่นที่สมบูรณ์กว่าผู้ตอบแบบสอบถามการรถเข็นยาอื่น ๆ (odds ratio [OR] 2.1, p <0.05) และสูงกว่าที่ประเมินไว้ในชีวิตประจำวันเอชไอวีนับเป็นยา ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นไปได้ที่ลดลงของการยึดมั่นสมบูรณ์ (OR 0.93, p <0.05) สรุป: การศึกษานี้แสดงให้เห็นถึงผลกระทบเชิงลบของภาระยาที่สูงขึ้นในการรับประทานยาเป็นปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับผลการรักษาในผู้ป่วยเอชไอวี / เอดส์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการ โดยเฉพาะยาภาระที่จะรวมยาต้านไวรัส ( รถเข็น ) แบบหลายตัวแปร วิธีการ : การศึกษาภาคตัดขวางสำรวจผู้ใหญ่อย่างเราด้วย self-reported การวินิจฉัยโรคเอชไอวี / เอดส์ดำเนินการระหว่างเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2007 ผู้ตอบแบบสอบถามบนรถเข็น regimen อย่างน้อย 2 นิวคลิโอไซด์ reverse transcriptase inhibitors บวกอย่างน้อย 1 โปรตีนยับยั้งหรือไม่ใช่นิวคลิโอไซด์ reverse transcriptase inhibitor ( n = 461 ) ถูกรวมอยู่ในตัวอย่างการวิเคราะห์ การถดถอยโลจิสติกแบบกำหนดตัวแปรอิสระดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์ ( ตามที่นิยามไว้ไม่เคยขาด หรือข้ามปริมาณยาต้านไวรัส ) ผลลัพธ์ : ห้าสิบสี่เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามรายงานการยึดมั่นสมบูรณ์ไปในเกวียน พลพรรคผู้ตอบแบบสอบถามรายงานร้อยละที่ลดลงของหัวใจ ( 11% vs 28 % ; p < . 001 ) และเข้าชมห้องฉุกเฉิน ( 26% vs 34 % ; p < . 09 ) ผู้ตอบแบบสอบถามใช้เม็ดเดียวยาเทโนโฟเวียร์ / ไทรซิทาบีน / dose regimen การแก้ไขอย่างมีนัยสำคัญมีแนวโน้มที่จะมีการใช้ยาอื่น ๆส่วนใหญ่ที่สมบูรณ์กว่ารถเข็น ( Odds Ratio [ หรือ ] 2.1 , p < . 05 ) และสูงกว่ายาเอชไอวีใดๆทุกวันนับเกี่ยวข้องกับการลดโอกาสของการเสร็จ ( หรือ 0.93 , p < . 05 ) จากการศึกษานี้แสดงให้เห็นผลกระทบเชิงลบของยาสูงขึ้นเป็นภาระต่อความสม่ำเสมอในการรับประทานยา เป็นปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาในผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี / เอดส์