In a provocative cover story, "The

In a provocative cover story, "The Me Me Me Generation," TIME's Joel Stein gives a great argument why the Millennial Generation will "save us all."

Millennials, roughly those born from 1980-2000, are often criticized as lazy and entitled. While that may hold true to some extent, millennials are also the most adaptable, creative generation in history.

Today's 80 million millennials are coming of age in the aftershocks of the Great Recession, amidst technological changes and globalization that will forever change how we live and work. Job security is a thing of the past, and the education system isn't delivering in the way that it should.

With so much unpredictability, this generation has learned to adapt and iterate in ways their parents never could have imagined — even if they are living in their parents' basements.

Below are five key arguments from Stein about why millennials will save us all:

They believe they can change the world

The millennials may be a little narcissistic, but they're so self-confident, they believe they can change the world.

"They're so convinced of their own greatness," Stein writes, "that the National Study of Youth and Religion found the guiding morality of 60% of millennials in any situation is that they'll just be able to feel what's right."

They don't believe in hierarchy

Millennials have no problem skipping over rungs of bureaucracy, or creating an entirely new system so they can avoid it completely.

"They are the most threatening and exciting generation since the baby boomers brought about social revolution, not because they're trying to take over the Establishment but because they're growing up without one," Stein writes.

They're resourceful and adaptable

Today's young people know that the Great Recession, technology, and globalization has changed the future of work forever. And they're adapting. "What idiot would try to work her way up at a company when she's going to have an average of seven jobs before age 26?" asks Stein.


They want to have a sense of mission

Millennials don't care about money as much as they care about working with a sense of purpose. This is a huge game-changer. Especially since work is now 24/7 vs. 9-5, young people want to at least find value in what they do.

"Dan Satterthwaite, who runs the [DreamWorks Animation] studio's human-relations department and has been in the field for about 23 years, says Maslow's hierarchy of needs makes it clear that a company can't just provide money anymore but also has to deliver self-actualization."

They think before they act

Instead of just blindly accepting what's in front of them, young people carefully consider their choices.

Stein writes that "Gary Stiteler, who has been an Army recruiter for about 15 years, is otherwise more impressed with millennials than any other group he's worked with. 'The generation that we enlisted when I first started recruiting was sort of do, do, do. This generation is think, think about it before you do it,' he says. 'This generation is three to four steps ahead. They're coming in saying, 'I want to do this, then when I'm done with this, I want to do this.'"

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในเรื่องปกกระตุ้น, "ฉันฉัน Me รุ่น, " เวลาของ Joel สไตน์ให้อาร์กิวเมนต์มากที่ทำไมรุ่น Millennial จะ "ช่วยเราทั้งหมด"Millennials หยาบ ๆ ที่เกิดจากปี 1980-2000 ที่มักจะวิพากษ์วิจารณ์เป็นสิทธิ และการ ในขณะที่อาจค้างจริงบ้าง millennials จะยังสร้างความคิดสร้างสรรค์ สามารถปรับเปลี่ยนมากที่สุดในประวัติศาสตร์มาวันนี้ 80 ล้าน millennials อายุในระลอกมากภาวะถดถอย ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและโลกาภิวัตน์ที่จะเปลี่ยนแปลงตลอดว่าเราอาศัย และทำงาน งานรักษาความปลอดภัยจะเป็นสิ่งของผ่านมา และระบบการศึกษาไม่ได้ส่งในทางที่ควรมี unpredictability มาก รุ่นนี้ได้เรียนรู้ไปปรับ และทำซ้ำวิธีที่พ่อแม่ไม่สามารถมีจินตนาการ — แม้ว่าพวกเขาอาศัยอยู่ในปกครองใต้ถุนด้านล่างมีห้าหลักอาร์กิวเมนต์จากสไตน์เกี่ยวกับเหตุ millennials จะบันทึกเราทั้งหมด:พวกเขาเชื่อว่า พวกเขาสามารถเปลี่ยนแปลงโลกMillennials อาจเล็กน้อยซึ่งบูชาตัวเอง แต่เป็นตัวของตัวเองดังนั้น พวกเขาเชื่อว่า พวกเขาสามารถเปลี่ยนแปลงโลก"พวกเขากำลัง convinced ดังนั้นของความยิ่งใหญ่ของตนเอง สไตน์เขียน "ว่า การศึกษาแห่งชาติของเยาวชนและศาสนาศีลธรรมแนวทางของ 60% ของ millennials ในทุกสถานการณ์เป็นที่พวกเขาเพิ่งจะรู้สึกเป็น "พวกเขาไม่เชื่อในลำดับชั้น Millennials มีปัญหาข้ามผ่าน rungs ของข้าราชการ หรือสร้างเป็นระบบใหม่ทั้งหมดเพื่อให้พวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงได้อย่างสมบูรณ์"จะสร้างคุกคามมากที่สุด และน่าตื่นเต้นตั้งแต่ boomers ทารกนำมาเกี่ยวกับการปฏิวัติสังคม ไม่ได้ เพราะพวกเขากำลังพยายามที่จะผ่านสถานประกอบการ แต่เป็น เพราะพวกเขากำลังเติบโตขึ้นโดย สไตน์เขียนเราสามารถปรับเปลี่ยน และกฏหมายคนหนุ่มสาววันนี้ทราบว่า ถด ถอยดี เทคโนโลยี และโลกาภิวัตน์มีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตของการทำงานตลอด และพวกเขาจะดัดแปลง "คนบ้าอะไรจะพยายามวิธีการทำงานของเธอขึ้นที่บริษัทเมื่อเธอจะไปมีค่าเฉลี่ยของงานเจ็ดก่อนอายุ 26 " ถามสไตน์จะต้องมีภารกิจ Millennials ไม่ดูแลเกี่ยวกับการเงินมากเท่าที่พวกเขาดูแลเกี่ยวกับความรู้สึกของวัตถุประสงค์ เปลี่ยนเกมใหญ่อยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากทำเป็น 24/7 กับ 9-5 คนหนุ่มสาวต้องค้นหาค่าในการทำน้อย "ด่าน Satterthwaite ที่ทำงานสตูดิโอ [ดรีมเวิร์กสแอ] ของฝ่ายมนุษย์สัมพันธ์ และได้รับในฟิลด์ 23 ปี กล่าวว่า ลำดับชั้นของมาสโลว์ให้ความชัดเจนว่า บริษัทไม่เพียงให้เงินอีกต่อไป แต่ยังมีการส่งมอบ self-actualization " พวกเขาคิดก่อนกระทำ แทนอย่างคนตาบอดเพียงแค่ยอมรับสิ่งที่อยู่ในหน้านั้น คนหนุ่มสาวพิจารณาตัวเลือกของพวกเขาอย่างระมัดระวัง สไตน์เขียนที่ " Gary Stiteler ได้รับการกองทัพบกผู้จัดการหน้าใหม่ 15 ปี ถูกมากประทับใจ millennials กว่ากลุ่มอื่น ๆ ที่เขาจะทำงานด้วย ' รุ่นที่เราแซเมื่อฉันแรกเริ่มการสรรหาได้ดำเนินการจัดเรียงของ ทำ ทำ รุ่นนี้เป็นการคิด คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนที่คุณทำได้, "เขากล่าวว่า "รุ่นนี้เป็นขั้นตอนที่ 3-4 หน้า พวกเขากำลังมาบอกว่า 'ฉันต้องทำเช่นนี้ แล้วเมื่อเสร็จแล้วนี้ ต้องการทำเช่นนี้ ' "

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในเรื่องเร้าใจว่า "ฉันฉันฉัน Generation" เวลาของโจเอลสไตน์ให้การโต้แย้งที่ดีว่าทำไมรุ่นพันปี "จะช่วยเราทุกคน." Millennials ๆ เหล่านั้นเกิดจากความ 1980-2000 มีการวิพากษ์วิจารณ์มักจะเป็นคนขี้เกียจและมีสิทธิ ขณะที่อาจถือเป็นจริงบางส่วน Millennials นอกจากนี้ยังมีการปรับตัวมากที่สุดรุ่นที่มีความคิดสร้างสรรค์ในประวัติศาสตร์. วันนี้ 80 ล้าน Millennials จะมาอายุในระลอกของภาวะถดถอยครั้งใหญ่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและโลกาภิวัตน์ที่ตลอดไปจะเปลี่ยนวิธีที่เราอาศัยอยู่และ งาน. งานการรักษาความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ผ่านมาและระบบการศึกษาที่ไม่ได้รับการส่งมอบในทางที่มันควรจะ. ด้วยอารมณ์มากรุ่นนี้ได้เรียนรู้ที่จะปรับตัวและย้ำในรูปแบบที่ไม่เคยปกครองของพวกเขาสามารถมีจินตนาการ - แม้ว่าพวกเขาจะ . ที่อาศัยอยู่ในห้องใต้ดินของพ่อแม่ด้านล่างมีห้าข้อโต้แย้งที่สำคัญจากสไตน์เกี่ยวกับสาเหตุที่Millennials จะช่วยเราทั้งหมด: พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาสามารถเปลี่ยนโลกMillennials อาจจะหลงตัวเองเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่พวกเขากำลังเพื่อให้มั่นใจตัวเองพวกเขาเชื่อว่าพวกเขาสามารถ การเปลี่ยนแปลงของโลก. "พวกเขากำลังให้ความเชื่อมั่นของความยิ่งใหญ่ของตัวเอง" สไตน์เขียน "ว่าการศึกษาแห่งชาติของเยาวชนและการศาสนาคุณธรรมพบแนวทางของ 60% ของ Millennials ในสถานการณ์ใด ๆ ก็คือว่าพวกเขาก็จะสามารถที่จะรู้สึก สิ่งที่ถูกต้อง. "พวกเขาไม่เชื่อในลำดับชั้นMillennials ไม่มีปัญหาข้ามผ่านขั้นของระบบราชการหรือการสร้างระบบใหม่ทั้งหมดเพื่อให้พวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงได้อย่างสมบูรณ์." พวกเขาเป็นอันตรายถึงมากที่สุดและรุ่นที่น่าตื่นเต้นตั้งแต่ boomers ทารกมาเกี่ยวกับสังคม การปฏิวัติไม่ใช่เพราะพวกเขากำลังพยายามที่จะใช้เวลามากกว่าการจัดตั้ง แต่เพราะพวกเขากำลังเติบโตขึ้นมาโดยไม่ต้องหนึ่ง "สไตน์เขียน. พวกเขากำลังไหวพริบและปรับตัวของคนหนุ่มสาวในวันนี้รู้ว่าภาวะถดถอยครั้งใหญ่เทคโนโลยีและโลกาภิวัตน์มีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตของการทำงานตลอด และพวกเขากำลังปรับตัว "สิ่งที่คนโง่จะพยายามที่จะทำงานในแบบของเธอขึ้นที่ บริษัท เมื่อเธอจะมีค่าเฉลี่ยของเจ็ดงานก่อนอายุ 26?" ขอให้สไตน์. พวกเขาต้องการที่จะมีความรู้สึกของการปฏิบัติภารกิจMillennials ไม่สนใจเกี่ยวกับเงินมากที่สุดเท่าที่พวกเขาดูแลเกี่ยวกับการทำงานร่วมกับความรู้สึกของวัตถุประสงค์ นี่คือเกมที่เปลี่ยนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ทำงานอยู่ในขณะนี้ 24/7 เทียบกับ 9-5 คนหนุ่มสาวที่ต้องการอย่างน้อยหาค่าในสิ่งที่พวกเขาทำ. "แดน Satterthwaite, ที่ทำงาน [ดรีมเวิร์คส์แอนิเมชั่] สตูดิโอของภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และได้รับในสนาม ประมาณ 23 ปีกล่าวว่า Maslow ลำดับขั้นของความต้องการทำให้มันชัดเจนว่า บริษัท ไม่สามารถให้เงินอีกต่อไป แต่ยังมีการส่งมอบ actualization ตัวเอง. "พวกเขาคิดก่อนที่จะทำหน้าที่แทนเพียงสุ่มสี่สุ่มห้ายอมรับสิ่งที่อยู่ในด้านหน้าของพวกเขาคนหนุ่มสาวพิจารณาอย่างรอบคอบเลือกของพวกเขา. สไตน์เขียนว่า "แกรี่ Stiteler ที่ได้รับนายหน้ากองทัพประมาณ 15 ปีเป็นอย่างอื่นประทับใจมากขึ้นด้วย Millennials กว่ากลุ่มอื่น ๆ เขาได้ทำงานร่วมกับ. รุ่นที่เราสมัครเป็นทหารเมื่อครั้งแรกที่ผมเริ่มต้นการสรรหาเป็นจัดเรียง ของไม่ไม่ไม่. รุ่นนี้คิดว่าคิดเกี่ยวกับมันก่อนที่คุณจะทำมัน "เขากล่าว. รุ่นนี้เป็น 3-4 ขั้นตอนก่อน. พวกเขากำลังเข้ามาพูดว่า 'ฉันต้องการที่จะทำเช่นนี้แล้วเมื่อ ฉันทำกับนี้ผมต้องการที่จะทำเช่นนี้. '"

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Very much.Very much.Very much.Very much.Very much.Very much.Very much.Very much.Very much.