The development of community empowe

The development of community empowerment model in cosmetics consumer protection in Meung district, Samet District, Buriram province. Used the research methods action research was arrived at studying the development of community empowerment model in cosmetics consumer protection. The samples was 60 people. This research was divided into 3 phases: 1 prepared a hand problems and community context, phase 2 the development of community empowerment model in cosmetics consumer protection. Phase 3 The evaluation of the development of community empowerment model in cosmetics consumer protection. Quantitative analysis was descriptive statistics. The average score was compared before and after development using inferential statistic which is Paired Sample t-test.
The results showed that model community empowerment in cosmetics consumer protection was “SAMET Model” Consisted which of stimulation of awareness problems (Stimulation) to analyze problems (Analysis), Community together (Management), sharing (Exchange Knowledge) and teamwork (Team Work) by cooperation of the community and the mean score knowledge, attitude about cosmetics consumer, behavior of cosmetics and participation in consumer protection in cosmetics has increased than before develop statistical significant at p=0.05.
In conclusion, the factors of success is to encourage the developed of the needs of the community can bring the recognition to community lead.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การพัฒนารูปแบบเสริมสร้างพลังอำนาจชุมชนในการคุ้มครองผู้บริโภคเครื่องสำอางในจังหวัดบุรีรัมย์อำเภอ เสม็ด เมือง ใช้การวิจัยวิธีดำเนินการวิจัยได้ถึงการศึกษาการพัฒนาของรูปแบบการเสริมสร้างพลังอำนาจชุมชนในการคุ้มครองผู้บริโภคเครื่องสำอาง ตัวอย่าง 60 คนได้ งานวิจัยนี้ถูกแบ่งออกเป็น 3 ระยะคือ: 1 เตรียมมือปัญหาและบริบทชุมชน ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบเสริมสร้างพลังอำนาจชุมชนในการคุ้มครองผู้บริโภคเครื่องสำอาง เฟส 3 การประเมินผลการพัฒนาของรูปแบบการเสริมสร้างพลังอำนาจชุมชนในการคุ้มครองผู้บริโภคเครื่องสำอาง การวิเคราะห์เชิงปริมาณสถิติพรรณนาได้ คะแนนเฉลี่ยได้เปรียบเทียบก่อน และ หลังการพัฒนาสถิติเพียงน้อยนิดซึ่งเป็นคู่ตัวอย่าง t-ทดสอบ ผลลัพธ์พบว่าอำนาจชุมชนจำลองในเครื่องสำอางที่คุ้มครองผู้บริโภคถูก Consisted "เสม็ดรุ่น" ซึ่งกระตุ้นความตระหนักปัญหา (กระตุ้น) เพื่อวิเคราะห์ปัญหา (วิเคราะห์), ชุมชนร่วมกัน (การจัดการ), ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้) และทำงานเป็นทีม (ทีมงาน) โดยความร่วมมือของชุมชนและคะแนนเฉลี่ยของความรู้ ทัศนคติเกี่ยวกับผู้บริโภคเครื่องสำอาง ลักษณะของเครื่องสำอางและมีส่วนร่วมในการคุ้มครองผู้บริโภคในเครื่องสำอางได้เพิ่มขึ้นกว่าก่อนพัฒนา ทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญที่ p = 0.05 เบียดเบียน ปัจจัยความสำเร็จจะส่งเสริมการพัฒนาของความต้องการของชุมชนสามารถให้การรู้เป้าหมายชุมชน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างพลังอำนาจของชุมชนในการคุ้มครองผู้บริโภคในเครื่องสำอางมึง ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ใช้วิธีวิจัยการวิจัยเชิงปฏิบัติการมาศึกษาการพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างพลังอำนาจของชุมชนในการคุ้มครองผู้บริโภคเครื่องสำอาง . จำนวน 60 คน การวิจัยนี้แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ 1 เตรียมส่งปัญหาและบริบทของชุมชนระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างพลังอำนาจของชุมชนในการคุ้มครองผู้บริโภคเครื่องสำอาง . ขั้นตอนที่ 3 การประเมินผลการพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างพลังอำนาจของชุมชนในการคุ้มครองผู้บริโภคเครื่องสำอาง . การวิเคราะห์เชิงปริมาณ ใช้สถิติเชิงพรรณนา คะแนนโดยเฉลี่ยเมื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังการพัฒนาโดยใช้สถิติเชิงอนุมานซึ่ง Paired sample t-test .
ผลการศึกษาพบว่า รูปแบบการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนในการคุ้มครองผู้บริโภคเครื่องสำอาง " โมเดล " ที่เสม็ดมีการปัญหาการรับรู้ ( การกระตุ้น ) วิเคราะห์ปัญหา ( การวิเคราะห์ ) ร่วมกันในชุมชน ( การจัดการ ) , แบ่งปัน ( แลกเปลี่ยนความรู้ ) และการทำงานเป็นทีม ( ทำงานเป็นทีม ) โดยความร่วมมือของชุมชน และค่าเฉลี่ยของคะแนนความรู้ ทัศนคติ เกี่ยวกับผู้บริโภค เครื่องสําอางพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในการคุ้มครองผู้บริโภคเครื่องสำอางและเครื่องสำอางได้เพิ่มขึ้นกว่าก่อนการพัฒนาอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 .
สรุป ปัจจัยแห่งความสำเร็จคือการส่งเสริมการพัฒนาของความต้องการของชุมชน สามารถนำการรับรู้ไปสู่ชุมชน