Don’t get me wrong; online technolo

Don’t get me wrong; online technology is not some “necessary evil.” Far from it. It’s a magnificent tool for staying in touch with people across miles, time zones and years. We’ve all witnessed it’s power in rallying people behind noble causes (think KONY 2012), overthrow governments (as we saw in the Arab Spring last year), enable people in isolated corners of the globe to plug into resources and information they could never otherwise access (think North Korea), and provide opportunity to conduct business more efficiently than ever before. But like all tools, we have to learn how to use it well, and not let it use us. We cannot become dependent on it to do things it simply cannot do – like fulfill our deep innate need for intimacy, genuine connection and real friendship. All needs which can only be fulfilled through sometimes-uncomfortable conversations, in which we share openly what is happening to us and engage authentically with what is going on for others.

As we rely on technology to communicate more efficiently in an increasingly global world, we mustn’t lose tough with the physical community around us or forget that human element within any relationship can never be replaced by technology. The more we rely on technology in our lives the more mindful we must be to turn it off and spend time with people, without our gadgets beeping at us to return texts that really, aren’t worth our time to reply to. While it might be stating the obvious, if you want to connect with people more, you need to be in converse with people more – openly, authentically and with a vulnerability that may sometimes make you uncomfortable.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Don’t get me wrong; online technology is not some “necessary evil.” Far from it. It’s a magnificent tool for staying in touch with people across miles, time zones and years. We’ve all witnessed it’s power in rallying people behind noble causes (think KONY 2012), overthrow governments (as we saw in the Arab Spring last year), enable people in isolated corners of the globe to plug into resources and information they could never otherwise access (think North Korea), and provide opportunity to conduct business more efficiently than ever before. But like all tools, we have to learn how to use it well, and not let it use us. We cannot become dependent on it to do things it simply cannot do – like fulfill our deep innate need for intimacy, genuine connection and real friendship. All needs which can only be fulfilled through sometimes-uncomfortable conversations, in which we share openly what is happening to us and engage authentically with what is going on for others.เราพึ่งพาเทคโนโลยีในการสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้นในโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั่วโลก เราจะลืมยากกับชุมชนทางกายภาพรอบตัวเรา หรือองค์ประกอบที่มนุษย์ภายในความสัมพันธ์ใด ๆ สามารถถูกแทนที่ ด้วยเทคโนโลยีไม่ ยิ่งเราพึ่งพาเทคโนโลยีในชีวิตระวังมากเราต้องปิด และใช้เวลากับคน ไม่มีโปรแกรมเบ็ดเตล็ดของ beeping ที่เราส่งคืนข้อความที่ไม่ได้จริง ๆ มูลค่าของเวลาในการตอบ ในขณะที่มันอาจจะระบุชัดเจน ถ้าคุณต้องการติดต่อกับผู้คนมากขึ้น คุณจำเป็นต้อง สนทนากับผู้คนมากขึ้น – อย่างเปิดเผย อาหาร และ มีช่องโหว่ที่อาจบางครั้งทำให้คุณอึดอัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไม่ได้รับฉันผิด เทคโนโลยีออนไลน์ไม่ได้เป็นบาง "ชั่วร้ายที่จำเป็น." ห่างไกลจากมัน มันเป็นเครื่องมือที่สวยงามสำหรับการเข้าพักในการติดต่อกับผู้คนทั่วไมล์โซนเวลาและปีที่ผ่านมา เราได้เห็นก็มีอำนาจในการชุมนุมคนที่อยู่เบื้องหลังสาเหตุที่มีเกียรติ (คิดว่า KONY 2012) โค่นล้มรัฐบาล (ที่เราเห็นในฤดูใบไม้ผลิอาหรับปีที่แล้ว) ช่วยให้คนที่อยู่ในมุมที่แยกจากโลกเพื่อเสียบเข้ากับทรัพยากรและข้อมูลที่พวกเขาอาจจะไม่เคย การเข้าถึงอย่างอื่น (คิดว่าเกาหลีเหนือ) และให้โอกาสในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม แต่เช่นเดียวกับเครื่องมือทั้งหมดที่เราต้องเรียนรู้วิธีการใช้งานได้ดีและไม่ปล่อยให้มันใช้เรา เราไม่สามารถกลายเป็นขึ้นอยู่กับมันจะทำสิ่งที่มันก็ไม่สามารถทำอะไรที่ชอบ - ตอบสนองความต้องการของเราทำให้เกิดความใกล้ชิดลึกสำหรับการเชื่อมต่อของแท้และมิตรภาพที่แท้จริง ทุกความต้องการซึ่งสามารถเติมเต็มผ่านการสนทนาบางครั้งอึดอัดในการที่เรามีร่วมกันเปิดเผยสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราและมีส่วนร่วมที่แท้จริงกับสิ่งที่เกิดขึ้นสำหรับคนอื่น ๆ . ในขณะที่เราพึ่งพาเทคโนโลยีการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในโลกที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกเรา จะต้องไม่สูญเสียที่ยากลำบากกับชุมชนทางกายภาพรอบตัวเราหรือลืมว่าองค์ประกอบของมนุษย์ที่อยู่ในความสัมพันธ์ใด ๆ ไม่สามารถถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี ยิ่งเราพึ่งพาเทคโนโลยีในชีวิตของเรามีสติมากขึ้นเราจะต้องปิดและใช้เวลากับคนโดยไม่ต้องแกดเจ็ตของเรา beeping ที่พวกเราจะกลับข้อความที่จริงๆไม่คุ้มค่าเวลาของเราที่จะตอบ ในขณะที่มันอาจจะมีการระบุชัดเจนถ้าคุณต้องการที่จะเชื่อมต่อกับผู้คนมากขึ้นคุณจะต้องอยู่ในการสนทนากับผู้คนมากขึ้น - เปิดเผยแท้จริงและมีความเปราะบางที่บางครั้งอาจทำให้คุณอึดอัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไม่ได้รับฉันผิด เทคโนโลยีออนไลน์ ไม่ใช่ " ความชั่วร้ายที่จำเป็น . " ไกลจากมัน มันเป็นเครื่องมือที่งดงามอยู่ในการติดต่อกับคนผ่านไมล์ , โซนเวลาและปี เราเคยเห็นมันมีพลังในการชุมนุมคนหลังเหตุสูงศักดิ์ ( คิดว่า Kony 2012 ) ล้มล้างรัฐบาล ( ตามที่เราเห็นในฤดูใบไม้ผลิอาหรับเมื่อปีที่แล้ว )ช่วยให้ผู้คนในมุมแยก ของโลกในการเสียบ ทรัพยากรและข้อมูลที่พวกเขาสามารถอย่างอื่นไม่เคยเข้า ( คิดว่าเกาหลีเหนือ ) และให้โอกาสในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม แต่ชอบทุกเครื่องมือ เราต้องเรียนรู้ที่จะใช้มัน ไม่ใช่ให้มันมาใช้เราเราไม่สามารถกลายเป็นขึ้นอยู่กับมันทำอะไรมันก็ไม่เหมือนตอบสนองของเราลึกซึ้งโดยธรรมชาติและต้องการความใกล้ชิด , การเชื่อมต่อแท้และมิตรภาพที่แท้จริง ทุกความต้องการซึ่งสามารถเติมเต็มผ่านบางครั้งอึดอัดบทสนทนาที่เราแลกเปลี่ยนอย่างเปิดเผย สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา และต่อสู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นแท้จริง

สำหรับคนอื่น ๆเราพึ่งพาเทคโนโลยีสื่อสารในโลกสากลยิ่งขึ้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราต้องไม่สูญเสียที่ยากกับสภาพแวดล้อมชุมชนรอบข้าง หรือลืมว่าองค์ประกอบของมนุษย์ในความสัมพันธ์ใด ๆไม่สามารถถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี ยิ่งเราพึ่งพาเทคโนโลยีในชีวิตของเรามากขึ้น สติเราต้องปิดมัน และใช้เวลากับคนเราไม่มีอุปกรณ์เสียงที่เรากลับข้อความนั้นจริงๆ ไม่คุ้มกับเวลาของเราที่จะตอบกลับไป ในขณะที่มันอาจจะระบุให้ชัดเจน ถ้าคุณต้องการที่จะติดต่อกับผู้คนมากขึ้น คุณต้องพูดคุยกับผู้คนและมากขึ้นอย่างเปิดเผย แท้จริงและมีช่องโหว่ที่อาจทำให้คุณอึดอัด