Although the reviewers are far from

Although the reviewers are far from impressed with the
designs of the 24 studies deemed worthy of inclusion in the
review, their overall conclusions suggest that there is evidence
that leadership in nurses can be developed through educational
activities, modelling and practicing leadership. In terms of
behaviours and practices, they conclude that relationship skills
are more important than financialand technicalabilities,and that
demonstrated leadership tends to foster leadership behaviours
in others. Particular traits and characteristics that have been
shown to promote leadership are openness, extroversion and
motivation to manage. Furthermore, age and experience
facilitates leadership, while gender seems unimportant. Leader
effectiveness was seen to decrease in healthcare settings in
which leaders had less contact with care-givers. Opportunities
to practice, observe and model leadership skills led to greater
self-efficacy in nurses’ leadership behaviours. Finally, leadership
training programmes were mostly found to be effective, not just
in bringing about short-term change, but also in the long term.
In the context of this article, the findings suggest that the
‘gap’ between education and the leadership demands of the
clinical setting, as identified by Heller et al (2004), could
perhaps be bridged by employing successful training methods
as used in the studies reported by Cummings et al (2008).The
emphasis on relationship skills as the most important leadership
skill would suggest that leadership development programmes
should include this element. In this light, it is not surprising
that student nurses valued relationship qualities,such as effective
communication and being approachable, highly in the people
ultimately responsible for helping them bridge the gap between
their training and practice (Zilembo and Monterosso, 2008).
While temperamental factors mentioned by Cummings et
al (2008), such as extroversion and openness, may not be
readily affected by education, there are undoubtedly other
communication and relationship building skills that can be
developed in training and placement. For instance, emotional
intelligence, the ability to integrate and manage emotions and
reason, could be developed through training. A recent review
exploring the relationship between ‘emotional intelligence’
and nursing leadership cautiously suggests a central role for this
ability (Akerjordet and Severinsson, 2010).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ถึงแม้ว่าจะทานจาก ประทับใจกับการออกแบบการศึกษา 24 ถือว่าสมควรที่จะรวมในการตรวจทาน บทสรุปโดยรวมของพวกเขาแนะนำว่า มีหลักฐานที่สามารถพัฒนาเป็นผู้นำในพยาบาล โดยศึกษากิจกรรม แบบจำลอง และฝึกความเป็นผู้นำ ในแง่ของพฤติกรรมและการปฏิบัติ พวกเขาสรุปการทักษะมี financialand technicalabilities และที่มีแนวโน้มที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำเพื่อ เสริมสร้างพฤติกรรมความเป็นผู้นำในอื่น ๆ ลักษณะเฉพาะและลักษณะที่แสดงเพื่อส่งเสริมความเป็นผู้นำเปิดรับ extroversion และแรงจูงใจในการจัดการ นอกจากนี้ อายุ และประสบการณ์อำนวยความสะดวกเป็นผู้นำ ในขณะที่เพศดูเหมือนว่าไม่สำคัญ ผู้นำประสิทธิภาพที่เห็นลดในค่าดูแลสุขภาพในผู้นำที่ดูแล givers ติดต่อน้อยได้ โอกาสทางการขายการฝึก ปฏิบัติ และรูปแบบการฝึกนำไปมากกว่าตนเองประสิทธิภาพในการนำวิญญาณ ในที่สุด เป็นผู้นำส่วนใหญ่พบโปรแกรมการฝึกอบรมให้มีประสิทธิภาพ ไม่เพียงในการนำ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงระยะสั้น แต่ยังอยู่ ในระยะยาวในบริบทของบทความนี้ ผลการศึกษาแนะนำที่'ช่องว่าง' ระหว่างการศึกษาและความต้องการเป็นผู้นำของการสามารถตั้งค่าทางคลินิก เป็นระบุโดย Heller et al (2004),บางทีระหว่างกาล โดยใช้วิธีการฝึกอบรมประสบความสำเร็จใช้ในการศึกษารายงานโดย Cummings et al (2008) ที่เน้นความสัมพันธ์ทักษะการเป็นผู้นำที่สำคัญที่สุดทักษะที่จะแนะนำว่า ผู้พัฒนาโปรแกรมควรมีองค์ประกอบนี้ แสงนี้ จึงไม่น่าแปลกใจนักเรียนที่พยาบาลสัมพันธ์บริษัทคุณภาพ เช่นมีประสิทธิภาพสื่อสารและเป็นเร็ว สูงในคนชอบช่วยให้เชื่อมต่อช่องว่างระหว่างการฝึกอบรมและการฝึก (Zilembo และ Monterosso, 2008)ขณะที่ปัจจัยที่กล่าวถึง โดย Cummings temperamental ร้อยเอ็ดal (2008), extroversion และแขก ไม่พร้อมรับผลกระทบจากการศึกษา มีอื่น ๆ ไม่ต้องสงสัยสื่อสารและทักษะที่สามารถสร้างความสัมพันธ์พัฒนาฝึกอบรมและการจัดวาง ตัวอย่าง อารมณ์สติปัญญา ความสามารถในการบูรณาการ และจัดการอารมณ์ และเหตุผล สามารถพัฒนาผ่านการฝึกอบรม ตรวจทานล่าสุดสำรวจความสัมพันธ์ระหว่าง "ความฉลาดทางอารมณ์'และพยาบาลเป็นผู้นำเดินแนะนำบทบาทศูนย์กลางนี้ความสามารถ (Akerjordet และ Severinsson, 2010)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แม้ว่าจะแสดงความคิดเห็นที่อยู่ห่างไกลจากความประทับใจกับการออกแบบของ 24 การศึกษาถือว่าคุ้มค่าของการรวมอยู่ในการตรวจสอบข้อสรุปโดยรวมแสดงให้เห็นว่ามีหลักฐานเป็นผู้นำในการพยาบาลที่สามารถพัฒนาผ่านการศึกษากิจกรรมการสร้างแบบจำลองและการฝึกความเป็นผู้นำ ในแง่ของพฤติกรรมและการปฏิบัติที่พวกเขาสรุปทักษะความสัมพันธ์ที่มีความสำคัญมากกว่าfinancialand technicalabilities และที่เป็นผู้นำแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่จะส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมผู้นำคนอื่นๆ ลักษณะเฉพาะและลักษณะที่ได้รับการแสดงเพื่อส่งเสริมความเป็นผู้นำที่มีการเปิดกว้างพาหิรวัฒน์และแรงจูงใจในการจัดการ นอกจากอายุและประสบการณ์การอำนวยความสะดวกในการเป็นผู้นำในขณะที่เพศดูเหมือนไม่สำคัญ ผู้นำที่มีประสิทธิภาพที่เห็นว่าจะลดลงในการตั้งค่าการดูแลสุขภาพในที่ผู้นำมีการติดต่อกับผู้น้อยดูแล โอกาสในการฝึกสังเกตและทักษะความเป็นผู้นำรูปแบบมากขึ้นนำไปสู่การรับรู้ความสามารถของตนเองในพฤติกรรมผู้นำของพยาบาล ในที่สุดความเป็นผู้นำของโปรแกรมการฝึกอบรมที่พบส่วนใหญ่จะมีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่ในการนำเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในระยะสั้นแต่ยังอยู่ในระยะยาว. ในบริบทของบทความนี้ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า'ช่องว่าง' ระหว่างการศึกษาและความต้องการเป็นผู้นำ ของการตั้งค่าทางคลินิกที่ระบุไว้โดยเฮลเลอร์, et al (2004) อาจอาจจะเชื่อมโดยการใช้วิธีการฝึกอบรมที่ประสบความสำเร็จที่ใช้ในการศึกษาที่มีการรายงานโดยคัมมิ่งส์, et al (2008) ได้โดยเริ่มต้นให้ความสำคัญกับทักษะความสัมพันธ์ในฐานะเป็นผู้นำที่สำคัญที่สุดทักษะจะชี้ให้เห็นว่าโปรแกรมพัฒนาความเป็นผู้นำควรจะรวมถึงองค์ประกอบนี้ ในแง่นี้ก็ไม่น่าแปลกใจที่นักศึกษาพยาบาลมูลค่าคุณภาพความสัมพันธ์เช่นการที่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารและการเป็นเข้าถึงได้มากในคนที่รับผิดชอบในการช่วยให้พวกเขาสร้างสะพานเชื่อมช่องว่างระหว่างการฝึกอบรมและการปฏิบัติ(Zilembo และมอน, 2008). ในขณะที่เจ้าอารมณ์ ปัจจัยดังกล่าวโดยคัมมิ่งส์และอัล(2008) เช่นพาหิรวัฒน์และการเปิดกว้างอาจไม่ได้รับผลกระทบได้อย่างง่ายดายโดยการศึกษามีไม่ต้องสงสัยอื่นๆการสื่อสารและทักษะการสร้างความสัมพันธ์ที่สามารถพัฒนาในการฝึกอบรมและการจัดวาง ยกตัวอย่างเช่นอารมณ์สติปัญญาความสามารถที่จะบูรณาการและการจัดการอารมณ์และเหตุผลที่จะได้รับการพัฒนาผ่านการฝึกอบรม ความคิดเห็นที่ผ่านมาการสำรวจความสัมพันธ์ระหว่าง 'ความฉลาดทางอารมณ์' และความเป็นผู้นำทางการพยาบาลระมัดระวังให้เห็นบทบาทสำคัญในการนี้ความสามารถ (Akerjordet และ Severinsson 2010)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ถึงแม้ว่าทานไกลจากประทับใจกับ
ออกแบบ 24 การศึกษาถือว่าคุ้มค่าของการรวมไว้ใน
รีวิว แนะนำว่า สรุปโดยรวมของพวกเขามีหลักฐาน
ผู้นำพยาบาลสามารถพัฒนาผ่านกิจกรรมการศึกษา
, การสร้างแบบจำลองและการฝึกความเป็นผู้นำ ในแง่ของ
พฤติกรรมและการปฏิบัติที่พวกเขาสรุปว่าทักษะความสัมพันธ์
สำคัญกว่า financialand technicalabilities และแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำมีแนวโน้มที่จะเสริมสร้างภาวะผู้นำ

ในพฤติกรรมของผู้อื่น โดยเฉพาะลักษณะและคุณลักษณะที่ได้รับการแสดงเพื่อส่งเสริมความเป็นผู้นำอยู่

extroversion เปิดกว้างและแรงจูงใจในการจัดการ นอกจากนี้ อายุและประสบการณ์
สะดวกภาวะผู้นำ ในขณะที่เพศดูเหมือนไม่สำคัญ หัวหน้า
ผลที่เห็นลดลงในการตั้งค่าใน
ซึ่งผู้นำได้ติดต่อน้อยกับผู้ดูแล . โอกาส
ฝึกการสังเกตและทักษะความเป็นผู้นำแบบนำตนเองมากขึ้น
ในภาวะผู้นำของพยาบาลต่อ . ในที่สุด โครงการอบรมผู้นำ
ส่วนใหญ่พบว่ามีประสิทธิภาพไม่เพียง แต่นำเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง
ในระยะสั้น แต่ในระยะยาว
ในบริบทของบทความนี้ ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า
'gap ' ระหว่างการศึกษาและความต้องการของผู้นำของ
การตั้งค่าทางคลินิกที่ระบุไว้โดย เฮลเลอร์ et al ( 2004 ) ,
บางที bridged โดยการใช้วิธีการฝึกอบรมที่ประสบความสำเร็จ
ที่ใช้ในการศึกษาที่รายงานโดย Cummings et al ( 2551 ) .
เน้นทักษะในความสัมพันธ์เป็น
ผู้นำสำคัญที่สุดทักษะแนะนำให้ผู้นำโครงการพัฒนา
ควรมีองค์ประกอบนี้ ในแสงเช่นนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่นักศึกษาพยาบาล
มูลค่าคุณภาพความสัมพันธ์ เช่น การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและการเข้าถึง
สูงในคน
รับผิดชอบช่วยเชื่อมช่องว่างระหว่างการฝึกอบรมและการปฏิบัติ ( zilembo

และ มอนเตร โซ , 2008 )ในขณะที่ปัจจัยก็กล่าวถึง คัมมิงส์และ
อัล ( 2551 ) เช่น extroversion และเปิดกว้าง อาจไม่
พร้อมผลกระทบจากการศึกษา มีทักษะการสื่อสารและไม่ต้องสงสัยอีก

สร้างสัมพันธภาพที่สามารถพัฒนาในการฝึกอบรมและการจัดวาง ตัวอย่าง ความฉลาดทางอารมณ์
, ความสามารถในการรวมและจัดการอารมณ์และ
เหตุผล สามารถพัฒนาผ่านการฝึกอบรมตรวจสอบล่าสุด
ความสัมพันธ์ระหว่าง ' ปัญญา ' อารมณ์
กับภาวะผู้นำทางการพยาบาลค่อยชี้ให้เห็นบทบาทกลางสำหรับความสามารถนี้
( akerjordet และ severinsson , 2010 )