Before each race (commonly known as

Before each race (commonly known as a pass), each driver is allowed to perform a burnout, which heats the driving tires and lays rubber down at the beginning of the track, improving traction. Each driver then lines up (or stages) at the starting line.

Modern professional races are started electronically by a system known as a Christmas tree, which consists of a column of lights for each driver/lane, and two light beam sensors per lane on the track at the starting line. Current NHRA trees, for example, feature one blue light (split into halves), then three amber, one green, and one red.[1] When the first light beam is broken by a vehicle's front tire(s), the vehicle is "pre-staged" (approximately 7 inches (180 mm) from the starting line), and the pre-stage indicator on the tree is lit. When the second light beam is broken, the vehicle is "staged", and the stage indicator on the tree is lit.[2] Vehicles may then leave the pre-stage beam, but must remain in the stage beam until the race starts.

Once one competitor is staged, their opponent has a set amount of time to stage or they will be instantly disqualified, indicated by a red light on the tree. Otherwise, once both drivers are staged, the system chooses a short delay at random (to prevent a driver being able to anticipate the start), then starts the race. The light sequence at this point varies slightly. For example, in NHRA Professional classes, three amber lights on the tree flash simultaneously, followed 0.4 seconds later by a green light (this is also known as a "pro tree"). In NHRA Sportsman classes, the amber lights illuminate in sequence from top to bottom, 0.5 seconds apart, followed 0.5 seconds later by the green light (this is also known as a "sportsman tree" or "full tree"). If a vehicle leaves the start line before the green light illuminates, the red light for that lane illuminates instead, and the driver is disqualified (also known as redlighting). Even if both drivers leave early, the green light is automatically lit for the driver that left last, and they still may win the pass.

Several measurements are taken for each race: reaction time, elapsed time, and speed. Reaction time is the period from the green light illuminating to the vehicle leaving the starting line. Elapsed time is the period from the vehicle leaving the starting line to crossing the finish line. Speed is measured through a speed trap covering the final 66 feet (20 m) to the finish line, indicating average speed of the vehicle during the run last 66 feet (20m).

Except where a breakout rule is in place, the winner is the first vehicle to cross the finish line, and therefore the driver with the lowest combined reaction time and elapsed time. Because these times are measured separately, a driver with a slower elapsed time can actually win if that driver's advantage in reaction time exceeds the elapsed time difference. In heads-up racing, this is known as a holeshot win.[3] In categories where a breakout rule is in effect (for example, NHRA Junior Dragster, Super Comp, Super Gas, Super Stock, and Stock classes, as well as some dial-in classes), if a competitor is faster than their predetermined time (a "breakout"), that competitor loses. If both are faster than their predetermined time, the competitor that breaks out by less time wins. Regardless, a red light foul is worse than a breakout, except in Junior Dragster where exceeding the absolute limit is a cause for disqualification.

Most race events use a traditional bracket system, where the losing car and driver are eliminated from the event while the winner advances to the next round, until a champion is crowned. Events typically use 4, 8, or 16 car brackets. Drivers are typically seeded by elapsed times in qualifying. In bracket racing without a breakout (such as NHRA Competition Eliminator), pairings are based on times compared to their index (faster than index for class is better). In bracket racing with a breakout (Stock, Super Stock, but also the NHRA's Super classes), the closest to the index is favourable.

A popular alternative to the standard eliminations format is the Chicago Style format (also called the Three Round format in Australia), named for the US 30 Dragstrip in suburban Gary, Indiana where a midweek meet featured this format.[4] All entered cars participate in one qualifying round, and then are paired for the elimination round. The two fastest times among winners from this round participate in the championship round. Depending on the organisation, the next two fastest times may play for third, then fifth, and so forth, in consolation rounds.[5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ก่อนการแข่งขันแต่ละคน (เรียกกันว่าผ่าน), แต่ละโปรแกรมควบคุมเป็นอนุญาตให้เบ้า ซึ่งอุ่นยางขับ และวางยางลงในตอนต้นของแทร็ค ปรับปรุงฉุด แต่ละโปรแกรมควบคุมจากนั้นบรรทัดค่า (หรือขั้น) ที่จุดเริ่มต้นการแข่งขันระดับมืออาชีพทันสมัยมีการเริ่มต้นทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยระบบที่เรียกว่าต้นคริสต์มาส ซึ่งประกอบด้วยคอลัมน์ของไฟสำหรับไดร์เวอร์แต่ละเลน และเซนเซอร์ลำแสงสองต่อเลนบนแทร็กที่เริ่มต้นสาย ปัจจุบัน NHRA ต้นไม้ เช่น คุณลักษณะหนึ่งแสงสีน้ำเงิน (แยกเป็นซีก), แล้วสามสีเหลือง สีเขียวหนึ่ง และหนึ่งสีแดง [1] เมื่อลำแสงแรกจะหัก โดย tire(s) ด้านหน้ารถยนต์ ยานพาหนะเป็น "ก่อนจัดฉาก" (ประมาณ 7 นิ้ว (180 มิลลิเมตร) จากจุดเริ่มต้น), และไฟแสดงสถานะขั้นตอนก่อนที่ต้นไม้ เมื่อลำแสงสองหัก รถเป็น "ฉาก" และแสงไฟเวทีบนต้นไม้ [2] ยานพาหนะนั้นอาจทำให้ลำแสงระยะก่อน แต่ต้องอยู่คานระยะเริ่มต้นการแข่งขันเมื่อคู่แข่งหนึ่งเป็นฉาก ฝ่ายตรงข้ามมีจำนวนเวลาระยะไป หรือพวกเขาจะถูกตัดสิทธิ์ทันที แสดง โดยแสงสีแดงบนต้นไม้ มิฉะนั้น เมื่อไดรเวอร์ทั้งสองกำลัง staged ระบบเลือกสั้นหน่วงสุ่ม (เพื่อป้องกันไม่ให้โปรแกรมควบคุมความสามารถในการคาดการณ์เริ่มต้น), แล้วเริ่มทำการแข่งขัน ลำดับไฟจุดนี้ไปเล็กน้อย เช่น ชั้นมืออาชีพ NHRA อำพันสามไฟแฟลชต้นไม้พร้อมกัน 0.4 วินาทีภายหลังตามด้วยไฟสีเขียว (จะเรียกว่า "ต้นโป") ในคลาสที่ NHRA ซีทรีสปอร์ตแมน อำพันที่ไฟส่องสว่างตามลำดับจากบนลงล่าง จาก 0.5 วินาทีตาม 0.5 วินาทีภายหลังแสงสีเขียว (ซึ่งเป็นที่รู้จักกัน "ต้นไม้ซีทรีสปอร์ตแมน" หรือ "เต็มภูมิ") ถ้ารถออกเส้นเริ่มก่อนส่องแสงสีเขียว สีแดงแสงสำหรับเลนที่ส่องสว่างแทน และโปรแกรมควบคุมเข้าเกณฑ์ (เรียกว่า redlighting) แม้ว่าไดรเวอร์ทั้งสองออกจากต้น ไฟสีเขียวสว่างโดยอัตโนมัติสำหรับโปรแกรมควบคุมที่ซ้ายสุด และพวกเขายังอาจชนะผ่านหลายวัดมีดำเนินการสำหรับแต่ละการแข่งขัน: เวลาตอบสนอง เวลา และความเร็ว เวลาปฏิกิริยาจากแสงสีเขียวแสงของรถที่ออกจากจุดเริ่มต้นได้ เวลาที่ผ่านไปเป็นระยะเวลาจากรถออกจากจุดเริ่มต้นการข้ามเส้นชัย วัดความเร็วผ่านกับดักความครอบคลุมสุดท้าย 66 ฟุต (20 เมตร) การ แสดงความเร็วเฉลี่ยของรถในระหว่างการใช้งานครั้งสุดท้าย 66 ฟุต (20 เมตร)ยกเว้นที่กฎการฝ่าวงล้อมในสถานที่ ผู้ชนะคือ รถแรกที่เส้นชัย และจึง ขับกับต่ำที่สุดรวมเวลาตอบสนองและระยะเวลา เนื่องจากวัดครั้งนี้แยก ควบคุม ด้วยเวลาผ่านไปช้าสามารถจะชนะถ้าโปรแกรมควบคุมที่ได้เปรียบในการเวลาตอบสนองความแตกต่างของเวลา ในการบอกแจ้งแข่ง นี้เรียกว่าชนะ holeshot [3] ในประเภทที่กฎการฝ่าวงล้อมมีผล (สำหรับตัวอย่าง Dragster NHRA จูเนียร์ ซูเปอร์คอมพ์ ก๊าซซูเปอร์ ซูเปอร์สต็อก และหุ้น เป็นคลาสที่บางสาย), ถ้าคู่แข่งจะเร็วกว่าเวลาที่กำหนด (การ "แบ่งแยก"), การสูญเสีย ถ้าทั้งสองจะเร็วกว่าเวลาที่กำหนด คู่แข่งที่แบ่งออก โดยชนะเวลาน้อย ไม่คำนึงถึง เหม็นแสงสีแดงจะแย่กว่ารายการ ยกเว้นใน Dragster จูเนียร์เกินขีดจำกัดแน่นอนเป็นสาเหตุสำหรับตัดกิจกรรมการแข่งขันส่วนใหญ่ใช้ระบบยึดแบบดั้งเดิม ที่รถและควบคุมสูญเสียหมดไปจากเหตุการณ์ในขณะที่ผู้ชนะความก้าวหน้าในรอบถัดไป ไปจนเป็นการครองตำแหน่งแชมป์ นอกจากนี้เหตุการณ์โดยทั่วไปใช้ 4, 8 หรือวงเล็บรถ 16 ไดรเวอร์จะมักจะเตรียม โดยใช้เวลาในการคัดเลือก ในวงเล็บแข่ง โดยฝ่าวงล้อม (เช่นระบบกำจัดการแข่งขัน NHRA), จิบคู่อยู่ครั้งเมื่อเทียบกับดัชนีของตน (เร็วกว่าดัชนีสำหรับคลาสดีกว่า) ในวงเล็บ แข่งฝ่าวงล้อม (หุ้น หุ้น Super แต่ยังเรียนซูเปอร์ของ NHRA), ใกล้ดัชนีเป็นดีA popular alternative to the standard eliminations format is the Chicago Style format (also called the Three Round format in Australia), named for the US 30 Dragstrip in suburban Gary, Indiana where a midweek meet featured this format.[4] All entered cars participate in one qualifying round, and then are paired for the elimination round. The two fastest times among winners from this round participate in the championship round. Depending on the organisation, the next two fastest times may play for third, then fifth, and so forth, in consolation rounds.[5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ก่อนการแข่งขันแต่ละ (ที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นผ่าน) แต่ละคนขับรถได้รับอนุญาตให้ดำเนินการเหนื่อยหน่ายซึ่งร้อนยางขับรถและวางยางลงที่จุดเริ่มต้นของการติดตามการปรับปรุงฉุด คนขับแต่ละคนแล้วเส้นขึ้นไป (หรือขั้นตอน) ที่เส้นเริ่มต้น. โมเดิร์นแข่งมืออาชีพจะเริ่มต้นด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์โดยระบบที่เรียกว่าต้นคริสต์มาสซึ่งประกอบด้วยคอลัมน์ของไฟสำหรับแต่ละ / ขับเลนและสองเซ็นเซอร์แสงไฟต่อบนถนน แทร็คที่เส้นเริ่มต้นที่ ต้นไม้ NHRA ปัจจุบันตัวอย่างเช่นมีแสงสีฟ้าหนึ่ง (แบ่งออกเป็นครึ่งหนึ่ง) แล้วสามสีเหลือง, สีเขียวและสีแดง. [1] เมื่อแสงแรกจะถูกทำลายโดยยางหน้าของยานพาหนะ (s), ยานพาหนะ "ก่อนจัดฉาก" (ประมาณ 7 นิ้ว (180 มิลลิเมตร) จากเส้นเริ่มต้น) และตัวบ่งชี้ก่อนขั้นตอนบนต้นไม้สว่าง เมื่อแสงไฟสองเสียรถจะ "จัดฉาก" และตัวบ่งชี้ขั้นตอนบนต้นไม้สว่าง [2] ยานพาหนะแล้วอาจจะออกจากคานก่อนขั้นตอน แต่ต้องยังคงอยู่ในขั้นตอนการคานจนกว่าการแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้นครั้งหนึ่งเคยเป็นคู่แข่งที่เป็นฉากของฝ่ายตรงข้ามของพวกเขามีจำนวนเงินที่ตั้งของเวลาที่จะเป็นเวทีหรือพวกเขาจะถูกตัดสิทธิ์ทันทีระบุด้วยแสงสีแดงบนต้นไม้ มิฉะนั้นเมื่อคนขับรถทั้งสองจะถูกจัดฉากระบบเลือกเวลาสั้น ๆ ที่สุ่ม (เพื่อป้องกันการขับความสามารถในการคาดว่าจะเริ่มต้น) จากนั้นเริ่มการแข่งขัน ลำดับแสงที่จุดนี้แตกต่างกันเล็กน้อย ยกตัวอย่างเช่นในชั้นเรียน NHRA มืออาชีพสามไฟสีเหลืองอำพันแฟลชต้นไม้พร้อมกันตาม 0.4 วินาทีต่อมาโดยแสงสีเขียว (ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็น "ต้นไม้ Pro") ในชั้นเรียนของ NHRA นักกีฬา, ไฟสีเหลืองอำพันส่องสว่างในลำดับจากบนลงล่าง, 0.5 วินาทีกันตาม 0.5 วินาทีต่อมาโดยแสงสีเขียว (นี้ยังเป็นที่รู้จักกันว่าเป็น "นักกีฬาต้นไม้" หรือ "ต้นไม้เต็ม") ถ้ารถออกจากเส้นเริ่มต้นก่อนที่จะสว่างไฟเขียวไฟสีแดงสำหรับช่องทางที่ส่องสว่างแทนและคนขับรถถูกตัดสิทธิ์ (หรือเรียกว่า redlighting) แม้ว่าทั้งสองขับรถออกจากต้น, แสงสีเขียวสว่างโดยอัตโนมัติในการขับที่เหลือที่ผ่านมาและพวกเขายังคงอาจจะชนะผ่าน. หลายวัดจะถูกนำสำหรับการแข่งขันในแต่ละช่วงเวลา: ปฏิกิริยาเวลาที่ผ่านไปและความเร็ว เวลาปฏิกิริยาเป็นระยะเวลาตั้งแต่ไฟเขียวส่องสว่างไปยังยานพาหนะออกจากเส้นเริ่มต้นที่ เวลาที่ผ่านไปเป็นช่วงเวลาจากรถออกจากเส้นเริ่มต้นที่จะข้ามเส้นชัย ความเร็วเป็นวัดที่ผ่านดักความเร็วครอบคลุมสุดท้าย 66 ฟุต (20 เมตร) ไปยังเส้นชัยที่ระบุความเร็วเฉลี่ยของรถในระหว่างการทำงานสุดท้าย 66 ฟุต (20 เมตร). ยกเว้นที่กฎแหกคุกอยู่ในสถานที่ที่ผู้ชนะคือ รถคันแรกที่จะข้ามเส้นชัยและดังนั้นจึงขับรถที่มีเวลาการเกิดปฏิกิริยารวมต่ำสุดและเวลาที่ผ่านไป เพราะครั้งนี้จะถูกวัดแยกคนขับกับเวลาที่ผ่านไปช้าจริงสามารถชนะถ้าประโยชน์ของคนขับว่าในเวลาปฏิกิริยาเกินกว่าความแตกต่างของเวลาที่ผ่านไป ในการแข่งรถหัวขึ้นนี้เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ชนะ Holeshot. [3] ในประเภทที่กฎแหกคุกอยู่ในผลกระทบ (ตัวอย่างเช่น NHRA จูเนียร์ Dragster ซูเปอร์คอมพ์ซูเปอร์แก๊สซูเปอร์สต็อกสินค้าและการแจ้งการเรียนเช่นเดียวกับ สายโทรศัพท์ในการเรียน) บางอย่างถ้าเป็นคู่แข่งที่จะเร็วกว่าเวลาที่กำหนดไว้ของพวกเขา (เป็น "แหกคุก") คู่แข่งที่สูญเสีย หากทั้งสองจะเร็วกว่าเวลาที่กำหนดไว้ของพวกเขาเป็นคู่แข่งที่แตกต่างออกไปโดยใช้เวลาน้อยชนะ โดยไม่คำนึงถึงเหม็นแสงสีแดงเลวร้ายยิ่งกว่าแหกคุกยกเว้นในรุ่นจูเนียร์ Dragster ที่เกินขีด จำกัด ที่แน่นอนเป็นต้นเหตุของการถูกตัดสิทธิ. ส่วนใหญ่เหตุการณ์การแข่งขันใช้ระบบวงเล็บแบบดั้งเดิมที่รถสูญเสียและคนขับรถจะถูกตัดออกจากการจัดงานในขณะที่ผู้ชนะ ก้าวหน้าไปอีกรอบจนเป็นแชมป์ปราบดาภิเษก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมักจะใช้ 4, 8 หรือ 16 วงเล็บรถ ไดรเวอร์เมล็ดโดยครั้งที่ผ่านไปในรอบคัดเลือกโดยทั่วไป ในการแข่งวงเล็บโดยไม่ต้องฝ่าวงล้อม (เช่น NHRA การแข่งขัน Eliminator) การจับคู่อยู่บนพื้นฐานเท่าเมื่อเทียบกับดัชนีของพวกเขา (เร็วกว่าดัชนีสำหรับการเรียนจะดีกว่า) ในการแข่งวงเล็บกับการฝ่าวงล้อม (สต็อก, ซูเปอร์สต็อก แต่ยังเรียนซูเปอร์ NHRA ของ) ที่ใกล้เคียงกับดัชนีเป็นอย่างดี. ทางเลือกที่นิยมรูปแบบการคัดออกมาตรฐานเป็นรูปแบบสไตล์ชิคาโก (เรียกว่ารูปแบบสามรอบในออสเตรเลีย ) ตั้งชื่อตามชื่อ 30 ดอลลาร์สหรัฐ Dragstrip ในเมืองแกรีอินเดียที่พบกลางสัปดาห์ที่เข้าร่วมในรูปแบบนี้. [4] รถยนต์เข้ามามีส่วนร่วมทั้งหมดในหนึ่งรอบคัดเลือกและจากนั้นจะจับคู่รอบการกำจัด ทั้งสองครั้งที่เร็วที่สุดในหมู่ผู้ชนะจากรอบนี้มีส่วนร่วมในรอบชิงแชมป์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับองค์กรต่อไปครั้งที่สองที่เร็วที่สุดอาจจะเล่นที่สามแล้วที่ห้าและอื่น ๆ ในรอบปลอบใจ. [5]