A significant new protocol on force

A significant new protocol on forced labour was agreed last year, which promised to strengthen national laws and actions on protection of workers’ rights. However, many regressive policies related to migration and labour persist, according to the latest issue of the Anti-Trafficking Review, published by the Global Alliance Against Traffic in Women (GAATW).

The new issue of the Anti-Trafficking Review examines how the global community is addressing forced labour and trafficking. The journal questions whether recent efforts have done enough to stop exploitation at work.

“In 2014, governments across the globe committed to combat forced labour through a new international agreement, the International Labour Organisation Forced Labour Protocol,” says Bandana Pattanaik, GAATW’s International Coordinator, “There has been some progress in national policies and union activities, but in general governments have prioritised stemming migration over protection of workers’ rights.”

The International Labour Organisation estimates that there are almost 21 million people in the world today from whom forced labour is exacted. Authors of the journal analyse responses to this form of exploitation, including unions championing the protection of migrants’ labour rights, and governments enacting supply chain disclosure laws (for example in Brazil and the United States of America).

Many of the journal issue’s authors describe how regressive policies, such as the surprisingly widespread Kafala system of ‘tied’ visas for lower paid workers, are eroding these rights. This year, the United Kingdom affirmed a Kafala-type system for domestic workers. The new UK Modern Slavery Act 2015 retains the regressive visa system, which restricts domestic workers from changing employers or seeing redress when things go wrong.

Other authors look at forced labour and trafficking within the context of migration. Experts Hannah Lewis and Louise Waite for example stress that refugee and asylum-seeking situations are putting people in ‘hyper precarious’ situations and more at risk of exploitation. They argue that greater recognition of workers’ rights, particularly migrant workers, would reduce incidences of forced labour and human trafficking.

“Protecting rights of workers and providing them with avenues to demand a fair wage and decent working conditions, holding employers accountable, and advocating for systemic changes may help us address a range of exploitations including trafficking and forced labour,” said Pattanaik.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โพรโทคอลใหม่สำคัญบนแรงตกลงปี ซึ่งสัญญาว่า จะเสริมสร้างกฎหมายและการดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิแรงงาน อย่างไรก็ตาม นโยบายที่ถอยหลังมากมายที่เกี่ยวข้องกับการย้ายถิ่นและแรงงานยืนยัน ตามฉบับล่าสุดของสารนิเทศรีวิว เผยแพร่ โดยการโลกพันธมิตรกับจราจรในหญิง (GAATW)ปัญหาใหม่ของรีวิวพิทักษ์ตรวจสอบวิธีการจัดการกับแรงประชาคมโลก และการค้า สมุดรายวันคำถามว่า ความพยายามล่าได้พอที่จะหยุดแสวงหาผลประโยชน์ในการทำงาน"ในปี 2014 รัฐบาลทั่วโลกมุ่งมั่นในการต่อสู้กับแรงผ่านระหว่างประเทศข้อตกลงใหม่ นานาแรงงานองค์กรบังคับแรงงานโปรโตคอ กล่าวว่า ผ้าโพก Pattanaik ผู้ประสานงานนานาชาติของ GAATW "ได้มีความคืบหน้าในนโยบายแห่งชาติและกิจกรรมสหภาพบาง แต่โดยทั่วไป รัฐบาลมีทั้งเกิดการโยกย้ายมากกว่าการคุ้มครองสิทธิของแรงงาน"องค์กรแรงงานระหว่างประเทศประเมินว่ามีเกือบ 21 ล้านคนในโลกวันนี้จากคนที่บังคับแรงงานคือ exacted ผู้เขียนของสมุดรายวันการวิเคราะห์คำตอบแบบฟอร์มนี้การแสวงหา รวมทั้งสหภาพแรงงานสนับสนุนการป้องกันของผู้สิทธิแรงงาน และรัฐบาลออกกฎหมายเปิดเผยห่วงโซ่อุปทาน (ตัวอย่างเช่นในบราซิลและสหรัฐอเมริกา)หลายปัญหาสมุดรายวันผู้เขียนอธิบายนโยบายวิธีถอยหลัง เช่นระบบ Kafala แพร่หลายจู่ ๆ 'ผูก' วีซ่าสำหรับผู้ปฏิบัติงานรับค่าจ้างต่ำ จะกัดเซาะสิทธิเหล่านี้ ปีนี้ สหราชอาณาจักรยืนยันระบบชนิด Kafala สำหรับแรงงานในประเทศ การใหม่ UK สมัยทาสบัญญัติ 2015 ยังคงระบบถอยหลังวีซ่า ซึ่งจำกัดแรงงานในประเทศจากการเปลี่ยนนายจ้าง หรือเห็นการดำเนินเมื่อสิ่งที่ผิดไปเขียนดูที่บังคับใช้แรงงานและค้ามนุษย์ในบริบทของการโยกย้าย ผู้เชี่ยวชาญ Hannah Lewis และหลุยส์ Waite เช่นความเครียดที่ผู้ลี้ภัย และแสวงหาการลี้ภัยสถานการณ์กำลังย้ายคนใน ' hyper ล่อแหลม ' สถานการณ์และอื่น ๆ ที่เสี่ยงต่อการแสวงหาประโยชน์ พวกเขาทะเลาะกันการรับรู้มากขึ้นว่าสิทธิแรงงาน แรงงานข้ามชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะช่วยลดอุบัติการณ์ของการบังคับใช้แรงงานและค้ามนุษย์"ปกป้องสิทธิของแรงงาน และให้พวกเขา มีลู่ทางในการเรียกร้องค่าจ้างยุติธรรมและสภาพทำงานที่ดี ถือนายจ้างต้องรับผิดชอบ และชังสำหรับการเปลี่ยนแปลงระบบอาจช่วยเราอยู่ช่วงของ exploitations รวมถึงการค้ามนุษย์ และบังคับแรงงาน กล่าวว่า Pattanaik

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โปรโตคอลใหม่ที่สำคัญในการบังคับใช้แรงงานที่ตกลงกันเมื่อปีที่แล้วซึ่งสัญญาว่าจะสร้างความเข้มแข็งให้กฎหมายของประเทศและการดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิแรงงาน อย่างไรก็ตามนโยบายถอยหลังมากมายที่เกี่ยวข้องกับการย้ายถิ่นและแรงงานยังคงมีอยู่ตามฉบับล่าสุดของต่อต้านการค้ามนุษย์รีวิวเผยแพร่โดย บริษัท Global Alliance กับการจราจรในผู้หญิง (GAATW). ปัญหาใหม่ของทบทวนต่อต้านการค้าตรวจสอบวิธีการทั่วโลก ชุมชนเป็นที่อยู่การบังคับใช้แรงงานและการค้ามนุษย์ คำถามวารสารไม่ว่าจะเป็นความพยายามที่ผ่านมาได้ทำพอที่จะหยุดการแสวงหาผลประโยชน์ในการทำงาน. "ในปี 2014 รัฐบาลทั่วโลกมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับการบังคับใช้แรงงานผ่านข้อตกลงระหว่างประเทศใหม่องค์การแรงงานระหว่างประเทศแรงงานบังคับพิธีสาร" Bandana Pattanaik ประสานงานระหว่างประเทศ GAATW กล่าวว่า "มีความคืบหน้าในนโยบายระดับชาติและกิจกรรมของสหภาพแรงงาน แต่ในรัฐบาลทั่วไปได้จัดลำดับความสำคัญที่เกิดการอพยพย้ายถิ่นมากกว่าการป้องกันสิทธิของแรงงาน '." องค์การแรงงานระหว่างประเทศคาดการณ์ว่ามีเกือบ 21 ล้านคนในโลกวันนี้จากผู้บังคับใช้แรงงาน จะไขว่คว้า ผู้เขียนของวารสารวิเคราะห์การตอบสนองต่อรูปแบบของการแสวงหาผลประโยชน์นี้รวมทั้งสหภาพการต่อสู้เพื่อการคุ้มครองสิทธิแรงงานของแรงงานข้ามชาติและรัฐบาลตัวประกันกฎหมายเปิดเผยห่วงโซ่อุปทาน (ตัวอย่างเช่นในบราซิลและสหรัฐอเมริกา). หลายคนของผู้เขียนปัญหาวารสารอธิบาย วิธีถอยหลังนโยบายเช่นระบบ Kafala อย่างกว้างขวางที่น่าแปลกใจของ 'เชื่อมโยง' วีซ่าสำหรับแรงงานจ่ายที่ต่ำกว่าที่มีการกัดเซาะสิทธิเหล่านี้ ในปีนี้สหราชอาณาจักรยืนยันระบบ Kafala ชนิดสำหรับคนงานในประเทศ สหราชอาณาจักรใหม่โมเดิร์นทาสพระราชบัญญัติ 2015 ยังคงมีระบบวีซ่าถอยหลังที่ จำกัด คนงานในประเทศจากการเปลี่ยนนายจ้างหรือเห็นการแก้ไขเมื่อสิ่งผิดไป. เขียนคนอื่น ๆ มองไปที่การบังคับใช้แรงงานและการค้ามนุษย์ในบริบทของการย้ายถิ่น ผู้เชี่ยวชาญฮันนาห์ลูอิสและหลุยส์ไวท์เช่นความเครียดที่ผู้ลี้ภัยและลี้ภัยแสวงหาสถานการณ์จะวางคนที่อยู่ในสถานการณ์ที่ 'ล่อแหลมมากเกินไป' และอื่น ๆ ที่มีความเสี่ยงของการแสวงประโยชน์ พวกเขายืนยันว่าได้รับการยอมรับมากขึ้นของสิทธิแรงงานแรงงานข้ามชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะช่วยลดอุบัติการณ์ของการบังคับใช้แรงงานและการค้ามนุษย์. "การปกป้องสิทธิของคนงานและให้พวกเขามีลู่ทางที่จะเรียกร้องค่าจ้างที่เป็นธรรมและสภาพการทำงานที่ดีถือนายจ้างรับผิดชอบและเรียกร้อง สำหรับการเปลี่ยนแปลงระบบอาจช่วยให้เราอยู่ในช่วงของการเบียดเบียนรวมถึงการค้ามนุษย์และแรงงานบังคับ "Pattanaik กล่าวว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โปรโตคอลที่สำคัญใหม่ในการเกณฑ์แรงงานฯ เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งสัญญาที่จะเสริมสร้างกฎหมายแห่งชาติและการกระทำในการคุ้มครองสิทธิแรงงาน อย่างไรก็ตาม นโยบายถอยหลังหลายเกี่ยวข้องกับการย้ายถิ่นแรงงานคงอยู่ ตามฉบับล่าสุดของการป้องกันการค้ามนุษย์รีวิว , ตีพิมพ์โดยการจราจรผู้หญิงกับพันธมิตรทั่วโลก ( gaatw )ปัญหาใหม่ของการป้องกันการค้ามนุษย์ทบทวนวิธีการตรวจสอบชุมชนทั่วโลก ที่อยู่ในบังคับแรงงานและการค้ามนุษย์ วารสารคำถามว่า ความพยายามล่าสุดได้ทำ พอหยุดใช้งาน" ในปี 2014 , รัฐบาลทั่วโลกมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับแรงงานที่ถูกบังคับผ่านข้อตกลงนานาชาติใหม่ องค์กรแรงงานระหว่างประเทศบังคับระเบียบแรงงาน กล่าวว่า pattanaik ผ้าพันคอ , ผู้ประสานงานต่างประเทศ gaatw , " มีความคืบหน้าในนโยบายระดับชาติ และร่วมกิจกรรม แต่ในรัฐบาลทั่วไปมีการจัดลําดับความสําคัญที่เกิดมากกว่าการคุ้มครองสิทธิของคนงาน " .องค์กรแรงงานระหว่างประเทศประเมินว่ามีเกือบ 21 ล้านคนทั่วโลกในวันนี้จากคนที่บังคับแรงงานทำการ . ผู้เขียนวารสารวิเคราะห์การตอบสนองต่อรูปแบบของการแสวงประโยชน์ รวมถึงการต่อสู้ของสหภาพแรงงานการคุ้มครองสิทธิแรงงานข้ามชาติ " , และรัฐบาล enacting กฎหมายการเปิดเผยข้อมูลห่วงโซ่อุปทาน ( ตัวอย่างเช่นในบราซิลและสหรัฐอเมริกา )หลายของผู้เขียนวารสารฉบับอธิบายว่านโยบายถอยหลัง เช่น จู่ ๆอย่างกว้างขวาง kafala ระบบ " ผูก " วีซ่า ลดจ่ายคนงาน จะถูกกัดเซาะสิทธิเหล่านี้ ในปีนี้ , สหราชอาณาจักร สำหรับระบบประเภท kafala แรงงานภายในประเทศ สหราชอาณาจักรใหม่เป็นทาสสมัยใหม่ทำ 2015 รักษาระบบวีซ่าถอยหลัง ซึ่งจํากัดคนงานภายในประเทศจากการเปลี่ยนนายจ้างหรือเห็นแก้ไขเมื่อสิ่งผิดไปผู้เขียนมองแรงงานบังคับและการค้ามนุษย์ในบริบทของการย้ายถิ่น ผู้เชี่ยวชาญ Hannah Lewis และหลุยส์ เวตตัวอย่างเช่นความเครียดและการแสวงหาสถานการณ์ผู้ลี้ภัยลี้ภัยเอาคนในสถานการณ์ล่อแหลม " " ไฮเปอร์ และเพิ่มความเสี่ยงของการแสวงประโยชน์ พวกเขาโต้เถียงว่า การยอมรับมากขึ้นของสิทธิแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานข้ามชาติ จะลดอุบัติการณ์ของแรงงานที่ถูกบังคับ และการค้ามนุษย์" การปกป้องสิทธิของแรงงานและให้พวกเขามีลู่ทางที่จะเรียกร้องค่าจ้างที่ยุติธรรมและสภาพการทำงานที่ดี ถือ นายจ้างต้องรับผิดชอบ และสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงระบบอาจช่วยให้เราที่อยู่ช่วง exploitations ได้แก่ การค้าและการบังคับใช้แรงงาน กล่าวว่า pattanaik .