A Comparison of Diabetes Learning W

A Comparison of Diabetes Learning With and Without Interactive Multimedia to Improve Knowledge,Control,and Self-Care Among People With Diabetes inTaiwan
ABSTRACT Objective:Given the increased popularity of complementary and alternative medicine (CAM) and traditional Chinesemedicine(TCM),this study aimed to evaluate the effects of interactive media on self-directed learning in patients’ knowledge of diabetes and related CAM/TCM strategies ,the ability to control blood sugar levels, and self-care in people with diabetes. Design:An experimental study design was used.The experimental group received patient education through interactive multimedia about diabetes for 3 months, while the control group received a routine 3-month patient education.Sample:On completion, 60 subjects from Taiwan were evaluated— 30 in an experimental group and 30 in a control group.Measurements: Data were collected from both group satbaseline and at the completion of the patient education. The findings were then compared to evaluate the effects of the intervention on the subjects’ knowledge of diabetes, blood sugar control, and self-care. Results:The experimental group showed greater improvement in understanding diabetes than the control (t = 3.29,p < .001). There was no significant difference in control of blood sugarl evels (t = 1.72,p5.10) and self-care (F = 1.03, p = .32). Conclusions: The use of an interactive multimedia device to intervene in diabetes self-care was efective only in raising the subject s’ knowledge about the disease. Additionally, the subjects may need more time to implement more effective blood sugar control and self-care activities after receiving instruction.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การเปรียบเทียบของเบาหวานเรียนด้วยและไม่โต้ตอบมัลติมีเดียเพื่อ เพิ่มปรับปรุง ควบคุม และสุขภาพระหว่างคนกับโรคเบาหวาน inTaiwanวัตถุประสงค์บทคัดย่อ: ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นของการแพทย์เสริม และทางเลือก (CAM) และ Chinesemedicine โบราณ (TCM), การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลกระทบของสื่อแบบโต้ตอบในการเรียนรู้ด้วยตนเองในผู้ป่วยโรคเบาหวานความรู้ และที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ CAM/TCM ความสามารถในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และสุขภาพในผู้ที่มีโรคเบาหวาน ออกแบบ: ออกแบบการทดลองศึกษาใช้กลุ่มทดลองได้รับการศึกษาผู้ป่วยผ่านมัลติมีเดียแบบโต้ตอบเกี่ยวกับโรคเบาหวาน 3 เดือน ในขณะที่กลุ่มควบคุมได้รับการศึกษาผู้ป่วย 3 เดือนเป็นประจำตัวอย่าง: เมื่อเสร็จสมบูรณ์ มีประเมินวิชา 60 จากไต้หวัน — 30 30 ในกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองวัด: ข้อมูลถูกรวบรวม จากทั้งกลุ่ม satbaseline และของการศึกษาผู้ป่วย ผลการวิจัยได้แล้วเปรียบเทียบประเมินผลของการแทรกแซงของวิชาความรู้โรคเบาหวาน ระดับน้ำตาลในเลือด และสุขภาพ ผลลัพธ์: กลุ่มทดลองพบมากขึ้นปรับปรุงความเข้าใจโรคเบาหวานกว่าตัวควบคุม (t = 3.29, p < .001). มีไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในการควบคุมของ evels sugarl เลือด (t = 1.72, p5.10) และสุขภาพ (F = 1.03, p =.32). บทสรุป: การใช้ของอุปกรณ์มัลติมีเดียแบบโต้ตอบการแทรกแซงในสุขภาพโรคเบาหวานถูกราคา efective เฉพาะในเพิ่ม s เรื่อง ' ความรู้เกี่ยวกับโรคนี้ นอกจากนี้ หัวข้ออาจต้องเพิ่มเวลาการใช้มีประสิทธิภาพมากขึ้นระดับน้ำตาลในเลือดควบคุมสุขภาพกิจกรรมและหลังจากได้รับคำแนะนำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ของผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีและไม่มีแอคทีฟมัลติมีเดียเพื่อพัฒนาความรู้, การควบคุมและการดูแลตนเองของผู้คนที่มีโรคเบาหวานในไต้หวัน
บทคัดย่อวัตถุประสงค์: ได้รับความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการแพทย์ทางเลือก (CAM) และแบบดั้งเดิม Chinesemedicine (TCM) ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษานี้ เพื่อประเมินผลกระทบของสื่อปฏิสัมพันธ์ในการเรียนรู้ด้วยตนเองโดยตรงในความรู้ของผู้ป่วยโรคเบาหวานและ CAM ที่เกี่ยวข้อง / กลยุทธ์ TCM, ความสามารถในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและการดูแลตนเองในผู้ป่วยโรคเบาหวาน การออกแบบ: การออกแบบการศึกษาทดลอง used.The กลุ่มทดลองได้รับการศึกษาผู้ป่วยผ่านมัลติมีเดียแบบโต้ตอบเกี่ยวกับโรคเบาหวานเป็นเวลา 3 เดือนในขณะที่กลุ่มควบคุมได้รับเป็นประจำ 3 เดือนผู้ป่วย education.Sample: เสร็จ 60 อาสาสมัครจากประเทศไต้หวันเป็น evaluated- 30 ในกลุ่มทดลองและ 30 ในการควบคุม group.Measurements: เก็บรวบรวมข้อมูลจาก satbaseline ทั้งกลุ่มและเสร็จสิ้นการศึกษาผู้ป่วย ผลการวิจัยมาเปรียบเทียบเพื่อประเมินผลกระทบของการแทรกแซงในความรู้วิชาของโรคเบาหวานควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและการดูแลตนเอง ผลการศึกษา: กลุ่มทดลองแสดงให้เห็นว่าการปรับปรุงมากขึ้นในการทำความเข้าใจโรคเบาหวานกว่ากลุ่มควบคุม (t = 3.29, p <0.001) ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในการควบคุมของ evels sugarl เลือด (t = 1.72, p5.10) และการดูแลตนเอง (F = 1.03, p = 0.32) สรุป: การใช้งานของอุปกรณ์มัลติมีเดียแบบโต้ตอบที่จะเข้าไปแทรกแซงในโรคเบาหวานการดูแลตนเองเป็น efective เท่านั้นในการเพิ่มเรื่องของความรู้เกี่ยวกับโรค นอกจากนี้อาสาสมัครอาจต้องใช้เวลามากในการดำเนินกิจกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและการดูแลตนเองหลังจากที่ได้รับการเรียนการสอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเปรียบเทียบของโรคเบาหวานที่เรียนโดยไม่โต้ตอบมัลติมีเดีย เพื่อพัฒนาความรู้ การควบคุม และการดูแลตนเองในผู้ที่มีโรคเบาหวานมี intaiwan
บทคัดย่อ : ได้รับความนิยมที่เพิ่มขึ้นของยาเสริมและทางเลือก ( CAM ) และ chinesemedicine ดั้งเดิม ( TCM )การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของสื่อปฏิสัมพันธ์ในการเรียนรู้ด้วยตนเองในผู้ป่วยเบาหวาน และกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับความรู้ของแคม / TCM , ความสามารถในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และการดูแลตนเองในผู้ที่มีโรคเบาหวาน การออกแบบ : การออกแบบการทดลองพบว่า กลุ่มทดลองได้รับการศึกษาผู้ป่วยผ่านมัลติมีเดียแบบโต้ตอบเกี่ยวกับโรคเบาหวานเป็นเวลา 3 เดือนในขณะที่กลุ่มควบคุมได้รับตามปกติ 3 เดือนผู้ป่วยการศึกษา ตัวอย่าง : เมื่อ 60 คน จากไต้หวัน ได้แก่ - 30 ใน 30 ในกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม วัด : เก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่ม satbaseline ที่สมบูรณ์ของผู้ป่วย การศึกษาผลการวิจัยเปรียบเทียบเพื่อประเมินผลการทดลองในวิชาความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน ควบคุมน้ำตาลในเลือด และการดูแลตนเอง ผลลัพธ์ : กลุ่มทดลองมีการพัฒนามากขึ้นในความเข้าใจโรคเบาหวานมากกว่ากลุ่มควบคุม ( t = 3.29 , p < . 001 ) มีความแตกต่างในการควบคุม evels sugarl เลือด ( t = 1.72 , p5.10 ) และการดูแลตนเอง ( F = 1.03 , p = . 32 )สรุป : การใช้อุปกรณ์มัลติมีเดียแบบโต้ตอบที่จะแทรกแซงในการดูแลตนเองในโรคเบาหวานแต่ละเพิ่มวิชา ' ความรู้เกี่ยวกับโรค นอกจากนี้ ครูอาจต้องใช้เวลามากขึ้นที่จะใช้กิจกรรมการควบคุมน้ำตาลในเลือดและการมีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังจากได้รับการสอน