Waste-to-Energy (WtE) technologies

Waste-to-Energy (WtE) technologies seem to be an option to tackle the growing waste management
problems in developing Asia. This paper presents a quantitative assessment of the environmental and
economic attributes of two major WtE technologies: landfill gas to energy (LFG-to-energy) and incineration
in Thai cities. Net greenhouse gas (GHG) emissions, net fossil resource consumption and net lifecycle
cost (LCC) were used as the basic indicators for measuring performance of these two technologies
from a life cycle perspective. The assessment found that at the current efficiency level, both the LFG-toenergy
project and the incineration facility contribute to GHG mitigation and fossil resource savings as
compared to the Business as Usual (BAU) practice. However, the financial returns from these operations
are very low and insufficient to compensate the costs. The paper argues that substantial improvements of
WtE plants can be made by adopting proper management practices, enhancing the efficiencies of energy
production. Such upgrading would further reduce GHG emissions, increase fossil resource savings and
strengthen the financial performance to the benefit of local governments. The authors recognize the
potential of incorporating other treatment options along with WtE technologies, for moving towards
more sustainable waste management approaches like integrated waste management systems.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เสียพลังงาน (WtE) เทคโนโลยีที่ดูเหมือนจะ เป็นตัวเลือกเล่นงานจัดการขยะเพิ่มขึ้นปัญหาในการพัฒนาเอเชีย เอกสารนี้นำเสนอการประเมินเชิงปริมาณของการสิ่งแวดล้อม และลักษณะทางเศรษฐกิจของสองหลักเทคโนโลยี WtE: นำก๊าซพลังงาน (LFG พลังงาน) และเผาในเมืองไทย ปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ก๊าซเรือนกระจกสุทธิ ปริมาณสุทธิฟอสทรัพยากร และวงจรต้นทุน (LCC) ใช้เป็นตัวบ่งชี้พื้นฐานสำหรับการวัดประสิทธิภาพของเทคโนโลยีเหล่านี้สองจากมุมมองของวงจรชีวิต การประเมินผลพบว่าที่ระดับประสิทธิภาพปัจจุบัน ทั้ง LFG-toenergyโครงการและสถานที่ที่เผานำไปสู่การลด GHG และประหยัดทรัพยากรฟอสเป็นเมื่อเทียบกับธุรกิจตามปกติปฏิบัติ (เบา) อย่างไรก็ตาม ตัวแทนทางการเงินจากการดำเนินการเหล่านี้จะต่ำมาก และไม่เพียงพอที่จะชดเชยต้นทุน ที่พบที่กระดาษจนปรับปรุงWtE พืชสามารถทำได้ โดยการใช้วิธีบริหารจัดการที่เหมาะสม การเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานการผลิต การปรับรุ่นดังกล่าวจะลดการปล่อย GHG ประหยัดทรัพยากรฟอสเพิ่ม และเสริมสร้างประสิทธิภาพทางการเงินเพื่อประโยชน์ของท้องถิ่น ผู้เขียนรู้จักการศักยภาพของตัวเลือกการรักษาอื่น ๆ ด้วยเทคโนโลยี WtE ย้ายไปทางยิ่งยั่งยืนจัดการขยะวิธีเช่นระบบจัดการของเสียรวม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ของเสียเป็นพลังงาน (WtE)
เทคโนโลยีที่ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกในการแก้ไขปัญหาการจัดการของเสียที่เพิ่มขึ้นปัญหาในการพัฒนาเอเชีย บทความนี้นำเสนอการประเมินเชิงปริมาณของสิ่งแวดล้อมและคุณลักษณะทางเศรษฐกิจของสองเทคโนโลยี WtE ที่สำคัญ: ก๊าซฝังกลบให้เป็นพลังงาน (LFG เป็นพลังงาน) และการเผาในเมืองไทย ก๊าซเรือนกระจกสุทธิ (GHG), การใช้ทรัพยากรฟอสซิลสุทธิวงจรโดยรวมค่าใช้จ่าย(LCC) ถูกนำมาใช้เป็นตัวชี้วัดพื้นฐานสำหรับการวัดประสิทธิภาพการทำงานของทั้งสองเทคโนโลยีจากมุมมองของวงจรชีวิต การประเมินพบว่าอยู่ในระดับที่มีประสิทธิภาพในปัจจุบันทั้ง LFG-toenergy โครงการและสิ่งอำนวยความสะดวกการเผานำไปสู่การลดก๊าซเรือนกระจกและการประหยัดทรัพยากรฟอสซิลเป็นเมื่อเทียบกับธุรกิจตามปกตินี้ (BAU) การปฏิบัติ อย่างไรก็ตามผลตอบแทนทางการเงินจากการดำเนินงานเหล่านี้อยู่ในระดับต่ำมากและไม่เพียงพอที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายที่ กระดาษที่ระบุว่าการปรับปรุงที่สำคัญของพืช WtE สามารถทำได้โดยการกำหนดแนวทางการบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของพลังงานที่ผลิต การอัพเกรดดังกล่าวต่อไปจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, เพิ่มการประหยัดทรัพยากรฟอสซิลและเสริมสร้างประสิทธิภาพทางการเงินเพื่อประโยชน์ของรัฐบาลท้องถิ่น ผู้เขียนรู้จักศักยภาพของการรวมตัวเลือกการรักษาอื่น ๆ พร้อมกับเทคโนโลยี WtE เพื่อมุ่งไปสู่การจัดการขยะอย่างยั่งยืนมากขึ้นวิธีเช่นระบบการจัดการขยะแบบบูรณาการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ของเสียให้เป็นพลังงาน ( wte ) เทคโนโลยีที่ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่จะแก้ไขปัญหาการจัดการของเสีย
ปัญหาในการพัฒนาเอเชีย บทความนี้นำเสนอการประเมินเชิงปริมาณของสิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ คุณลักษณะของ wte
สองเทคโนโลยีหลัก : ก๊าซเป็นพลังงาน ( ด้านพลังงาน ) และเตาเผาขยะ
ในเมืองไทย การปล่อยก๊าซเรือนกระจก ( GHG ) , สุทธิสุทธิและฟอสซิล การบริโภคทรัพยากรค่าใช้จ่ายวงจร
สุทธิ ( LCC ) ถูกใช้เป็นฐานตัวชี้วัดสำหรับการวัดผลการปฏิบัติงานของทั้งสองเทคโนโลยี
จากวงจรชีวิตมุมมอง การประเมิน พบว่า ที่ระดับประสิทธิภาพในปัจจุบัน ทั้งด้าน toenergy
โครงการและการมีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือนกระจก และโรงงานประหยัดทรัพยากรซากดึกดำบรรพ์เป็น
เมื่อเทียบกับธุรกิจเป็นปกติ ( BAU ) ซ้อม อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนทางการเงินจากการดำเนินงาน
เหล่านี้ต่ำมาก และไม่เพียงพอที่จะชดเชยต้นทุน บทความนี้จะแสดงให้เห็นว่าการปรับปรุงที่สําคัญของ
wte พืช ทำได้โดยการใช้วิธีการจัดการที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตพลังงาน

เช่นการอัพเกรดต่อไปจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ,เพิ่มทรัพยากรซากดึกดำบรรพ์และประหยัด
เสริมสร้างประสิทธิภาพทางการเงินเพื่อประโยชน์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้เขียนรู้จักท่านอื่น
ศักยภาพของตัวเลือกการรักษาพร้อมกับเทคโนโลยี wte เพื่อมุ่งไปสู่การจัดการของเสียที่ยั่งยืนมากขึ้นวิธีการเช่นระบบการจัดการขยะครบวงจร