I’m pretty sure KPOP has been a hug

I’m pretty sure KPOP has been a huge part of many people lives including me. I’ve been addicted into checking out articles, reading news on what my idols are doing, and talking about KPOP to my friends. Of course I’ve been into the scene for more than 6 years already, but KPOP has been fading away from me year after year and I’ve finally realized that it isn’t all that great anymore through studying abroad in Korea.
I’ve been accepted to one of the top 3 schools in Korea (Yonsei University) and of course I know about Korean Culture not just through KPOP but historically and the social standards as well. Before coming here, I had expectations that I would go to all the concerts, and see many idols while I’m here without putting much effort, but I was wrong. 4 months since I’ve lived here and I still haven’t done a single thing related to KPOP except go to one free concert. I travel, explore, and try to have the best time of my life here by meeting new people around the world and making Korean friends. Of course if I want to, I can try to go see my favorite idols, but it’s something that hasn’t crossed my mind since I got here. I still listen to the music, but I’ve just learned to balance my life, and my interest has faded since coming to Korea.
Hanging around many Korean students, of course I already knew, but almost all of them are just like this. They listen to the music (actually K-HipHop is more popular here) but that’s just it, its just music not a form of lifestyle. They love American music just as much as we like KPOP. I also want to point out how many people fantasize and say how their idols are super hot, but when living here, I’ve realized they’re just average. You can find better looking people on the streets any day.
What I’m trying to say through all of this is that don’t make KPOP your whole life and stop imaging South Korea as your getaway place to all things KPOP. South Korea is just another country and I would never want to settle down and live here due to all the social standards and things I’ve been through as a foreigner. It is no Utopia and people would judge you if you come with that mindset. I know many people out there always talk about saying “I want to live in Korea or I want to have a Korean boyfriend” I advise you to stop thinking like that right now and start thinking about your own life/goals and future.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฉันรัก KPOP ได้รับส่วนใหญ่ของชีวิตผู้คนจำนวนมากรวมทั้งผม ฉันได้รับติดในการตรวจสอบบทความ อ่านข่าวอะไรสื่อของฉันจะทำ และพูดคุยเกี่ยวกับ KPOP เพื่อน แน่นอนผมเคยเข้าฉากมากกว่า 6 ปีแล้ว แต่ KPOP มีการเฟดจากฉันปี และฉันก็ได้รู้ว่า มันไม่ดีที่ผ่านการศึกษาต่างประเทศเกาหลีอีกฉันได้รับการยอมรับของโรงเรียน 3 ด้านบนในเกาหลี (ปฮอสมหาวิทยาลัย) และแน่นอนฉันรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเกาหลี ผ่าน KPOP ไม่เพียง แต่อดีตและมาตรฐานทางสังคมเช่น ก่อนมาที่นี่ ผมคาดว่า ผมจะไปคอนเสิร์ตทั้งหมด และดูสื่อต่าง ๆ ในขณะที่ฉันอยู่ที่นี่โดยไม่ต้องใส่ความพยายามมาก แต่ฉันไม่ถูกต้อง 4 เดือนเนื่องจากผมอยู่ที่นี่ และยังไม่ได้ทำเป็นสิ่งเดียวที่เกี่ยวข้องกับ KPOP ยกเว้นไปหนึ่งฟรีคอนเสิร์ต ผมเดินทาง สำรวจ และพยายามที่จะมีเวลาที่ดีสุดของชีวิตที่นี่ โดยประชุมคนใหม่ทั่วโลก และทำให้เพื่อนที่เกาหลี แน่นอนถ้าอยาก ลองไปดูสื่อที่ชื่นชอบของฉัน แต่มันเป็นสิ่งที่ไม่ข้ามใจของฉันตั้งแต่ ฉันได้ที่นี่ ผมยังฟังเพลง แต่ฉันได้เรียนรู้เพียงเพื่อสมดุลชีวิตของฉัน และฉันสนใจได้จางหายไปตั้งแต่มาเกาหลีรอบ ๆ นักเรียนเกาหลีจำนวนมาก แน่นอนฉันรู้แล้วว่า แต่เกือบทั้งหมดของพวกเขาเช่นนี้ จะฟังเพลง (จริง K HipHop เป็นนิยมมากขึ้นที่นี่) แต่เป็นเพียง เพลงเพียงความไม่รูปแบบของชีวิต พวกเขารักดนตรีอเมริกันเพียงเท่าที่เราชอบ KPOP ฉันยังต้องการชี้คน fantasize และพูดสื่ออย่างซุปเปอร์ร้อน แต่เมื่ออยู่ที่นี่ ผมได้รับรู้อยู่เพียงเฉลี่ย คุณสามารถหาคนดีกว่ามองบนท้องถนนทุกวันสิ่งที่ฉันกำลังพยายามพูดถึงทั้งหมดนี้เป็นที่ไม่ทำให้ KPOP ของชีวิตและหยุดถ่ายภาพเกาหลีเป็นพักผ่อนของคุณทำให้ทุกสิ่ง KPOP เกาหลีใต้เป็นประเทศเพียงหนึ่ง และจะไม่อยากจะลงหลักปักฐาน และมาตรฐานทางสังคมและสิ่งที่ผมเคยเจอเป็นชาวต่างชาติอยู่ เป็นยูโทเปียไม่ และคนจะตัดสินคุณถ้าคุณมี mindset ที่ ฉันรู้ว่า ออกมีหลายคนมักจะพูดว่า "ฉันต้องการอยู่ในเกาหลี หรืออยากจะมีแฟนเกาหลี" ผมแนะนำให้คุณหยุดคิดเช่นนั้นขณะนี้ และเริ่มคิด เกี่ยวกับชีวิต/เป้าหมายของคุณเอง และอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผมค่อนข้างมั่นใจว่า KPOP ได้รับส่วนใหญ่ของหลาย ๆ คนรวมทั้งผมยังมีชีวิตอยู่ ฉันได้รับการติดยาเสพติดเข้ามาในการตรวจสอบออกบทความอ่านข่าวเกี่ยวกับสิ่งที่ไอดอลของฉันกำลังทำและพูดคุยเกี่ยวกับ KPOP ให้เพื่อนของฉัน แน่นอนฉันได้รับในที่เกิดเหตุมานานกว่า 6 ปีแล้ว แต่ KPOP ได้รับการจางหายไปจากฉันทุกปีและฉันได้ในที่สุดก็รู้ว่ามันไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีอีกต่อไปผ่านการศึกษาในต่างประเทศในเกาหลี.
ฉัน ได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในด้านบน 3 โรงเรียนในเกาหลี (มหาวิทยาลัยยอนเซ) และแน่นอนฉันรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเกาหลีไม่เพียงผ่าน KPOP แต่ในอดีตและมาตรฐานทางสังคมได้เป็นอย่างดี ก่อนที่จะมาที่นี่ผมมีความคาดหวังว่าผมจะไปแสดงคอนเสิร์ตทั้งหมดและดูไอดอลจำนวนมากในขณะที่ฉันอยู่ที่นี่โดยไม่ต้องใส่ความพยายามมาก แต่ผมผิด 4 เดือนนับตั้งแต่ผมเคยอาศัยอยู่ที่นี่และผมยังไม่ได้ทำสิ่งเดียวที่เกี่ยวข้องกับ KPOP ยกเว้นไปที่หนึ่งฟรีคอนเสิร์ต ฉันเดินทางสำรวจและพยายามที่จะมีเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของฉันที่นี่โดยการประชุมคนใหม่ทั่วโลกและทำให้เพื่อนเกาหลี แน่นอนถ้าผมต้องการที่จะฉันจะพยายามที่จะไปดูไอดอลที่ชื่นชอบของฉัน แต่มันเป็นสิ่งที่ยังไม่ได้ข้ามใจของฉันตั้งแต่ฉันมาถึงที่นี่ ฉันยังคงฟังเพลง แต่ฉันได้เรียนรู้เพียงเพื่อความสมดุลของชีวิตของฉันและความสนใจของผมได้จางหายไปตั้งแต่มาถึงเกาหลี.
แขวนรอบนักเรียนเกาหลีจำนวนมากแน่นอนผมรู้แล้ว แต่เกือบทั้งหมดของพวกเขาเพียงเช่นนี้ พวกเขาฟังเพลง (ที่จริง K-ฮิปฮอปเป็นที่นิยมมากที่นี่) แต่นั่นเป็นเพียงมันเพลงเพียงแค่ไม่ได้รูปแบบของการดำเนินชีวิต พวกเขารักเพลงอเมริกันเพียงเท่าที่เราชอบ KPOP ฉันยังต้องการที่จะชี้ให้เห็นว่าหลายคนเพ้อฝันและบอกว่าไอดอลของพวกเขาสุดร้อน แต่เมื่ออยู่ที่นี่ผมได้ตระหนักว่าพวกเขากำลังเฉลี่ยเพียง คุณสามารถค้นหาที่ดีขึ้นมองผู้คนบนท้องถนนวันใด.
สิ่งที่ฉันพยายามที่จะพูดผ่านทั้งหมดนี้คือการที่ไม่ได้ทำ KPOP ทั้งชีวิตของคุณและหยุดการถ่ายภาพเกาหลีใต้เป็นสถานที่พักผ่อนของคุณไปยังทุกสิ่ง KPOP เกาหลีใต้เป็นเพียงประเทศอื่นและฉันจะไม่ต้องการที่จะปักหลักและอาศัยอยู่ที่นี่เนื่องจากทุกมาตรฐานทางสังคมและสิ่งที่ฉันเคยผ่านเป็นชาวต่างชาติ มันเป็นสุขารมณ์และคนจะตัดสินคุณถ้าคุณมาพร้อมกับความคิดที่ว่า ฉันรู้ว่าหลายคนออกมีมักจะพูดคุยเกี่ยวกับพูดว่า "ฉันต้องการที่จะอยู่ในประเทศเกาหลีหรืออยากจะมีแฟนเกาหลี" ผมแนะนำให้คุณหยุดคิดเหมือนที่เหมาะสมที่ในขณะนี้และเริ่มคิดเกี่ยวกับชีวิตของคุณเอง / เป้าหมายและอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฉันค่อนข้างแน่ใจว่าข้อความมีขนาดใหญ่ส่วนหนึ่งของหลายๆ คน ชีวิต รวมทั้งฉันด้วย ผมเคยติดในการตรวจสอบบทความ อ่านข่าวว่าไอดอลของฉันจะทำอะไรและพูดอะไรเชื่อเพื่อนของฉัน แน่นอน ผมเคยเข้าฉากมานานกว่า 6 ปี แล้วแต่เชื่อได้จางหายไปจากฉันปีและในที่สุดฉันก็ตระหนักว่ามันไม่ได้ดีทั้งหมดแล้วผ่านการศึกษาในต่างประเทศในเกาหลี .
ผมได้รับการยอมรับเป็นหนึ่งใน Top 3 โรงเรียนในเกาหลี ( Yonsei University ) และแน่นอนผมรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของเกาหลีไม่เพียง แต่ผ่าน KPOP แต่ในอดีตและ มาตรฐานสังคมได้เป็นอย่างดี ก่อนจะมาที่นี่ผมมีความคาดหวังว่าจะไปคอนเสิร์ตทั้งหมด และเห็นหลายไอดอล ในขณะที่ฉันที่นี่ ไม่ต้องพยายามมาก แต่ผมคิดผิด 4 เดือน ตั้งแต่ผมมาอยู่ที่นี่ และผมก็ยังไม่ได้ทำสักอย่างที่เชื่อ ยกเว้นไปดูคอนเสิร์ตฟรีหนึ่ง ผมเดินทาง , สำรวจ , และพยายามที่จะมีเวลาดีที่สุดของชีวิตฉันมาพบคนใหม่ทั่วโลกและทำให้เพื่อนเกาหลีแน่นอน ถ้าฉันต้องการ ฉันจะลองไปดูไอดอลคนโปรดของฉัน แต่มันไม่ได้อยู่ในใจของฉัน ตั้งแต่ผมมาที่นี่ ผมยังคงฟังเพลง แต่ฉันเพิ่งได้เรียนรู้เพื่อความสมดุลของชีวิตและความสนใจของฉันได้จางหายไปตั้งแต่มาเกาหลี .
แขวนอยู่รอบ ๆ นักเรียนเกาหลี มากมาย แน่นอน ผมรู้อยู่แล้ว แต่เกือบทั้งหมดของพวกเขามีเพียงแค่นี้พวกเขาฟังเพลง ( จริงๆแล้ว k-hiphop เป็นที่นิยมที่นี่ ) แต่ก็นั่นแหละ มันก็แค่ดนตรี ไม่ใช่รูปแบบของการดำเนินชีวิต พวกเขารักดนตรีอเมริกันเพียงเท่าที่เราชอบเชื่อ . ฉันยังต้องการที่จะชี้ให้เห็นว่าหลาย ๆคนคิดและพูดว่าไอดอลของพวกเขาเป็นซุปเปอร์ร้อน แต่เมื่อมาอยู่ที่นี่ ฉันตระหนักว่าพวกเขากำลังเฉลี่ย ท่านสามารถค้นหาดีกว่ามองผู้คนบนถนนใด ๆวัน
.สิ่งที่ฉันพยายามจะพูดผ่านทั้งหมดนี้คือ ว่า อย่าให้เชื่อมาตลอดชีวิต และหยุดภาพเกาหลีใต้เป็นสถานที่พักผ่อนของคุณเพื่อสิ่งที่เชื่อ . เกาหลีใต้เป็นอีกประเทศ และผมก็ไม่เคยต้องการที่จะปักหลักและใช้ชีวิตที่นี่เนื่องจากทุกสังคมมาตรฐานและสิ่งที่ฉันเคยผ่านที่เป็นชาวต่างชาติ มันไม่มียูโทเปียและผู้คนจะตัดสินคุณถ้าคุณมาด้วยความคิด .ผมรู้หลายๆคนมักพูดว่า " ผมต้องการที่จะอยู่ในเกาหลีหรือที่ฉันต้องการที่จะมีแฟนเกาหลี ฉันแนะนำให้คุณเลิกคิดแบบนี้ได้แล้ว และเริ่มคิดถึงเป้าหมายชีวิตของคุณเองและอนาคต