1.เรื่องราวของนางแก้วมณีอดีตนางฟ้าบนสวรรค์ที่ถูกสาปให้มาเกิดเป็นหญิงสาวชาวบ้านที่มีใบหน้าเป็นม้า(แสดงตามบท) . 2.วันหนึ่งพระปิ่นทองพระโอรสของท้าวภูวดลแห่งเมืองมิถิลาได้ออกมาเล่นว่าวด้านนอกพระราชวัง ว่าว (ทำเหมือนเล่นว่าวปกติ)พระปิ่นทองเกิดสายป่านขาดลอยไปตกที่ทุ่งนา นางแก้วมณีเห็นจึง(เดินมาเห็นแบบตกใจ) เก็บกลับไปไว้ที่บ้าน 
3.เมื่อพระปิ่นทองมาขอว่าวคืนนางแก้วได้ขอให้พระปิ่นทองรับตนเองไปเป็นพระมเหสี(พูดบทด้านล่าง) พระปิ่นทองจึงตอบไปแบบส่งเดชว่า
แก้วหน้าม้า: ท่านก็รับข้าไปเป็นพระมเหสีสิ: (ทำเป็นตื่นตัวนิดนึง)
พระปิ่นทอง: ก็ได้ๆข้าจะรับเจ้าไปเป็นพระมเหสีละกัน
 4.จนในที่สุดนางแก้วมณีก็ได้เข้าไปอยู่ในวังแต่ก็ต้องถูกกลั่นแกล้งต่าง ๆ นานา (พากษ์อย่างเดียว)
5.แต่นางก็ได้พระฤๅษีมาคอยช่วยเสมอ และพระฤๅษีนี้เองเป็นผู้ที่ถอดหน้าม้าและมอบเรือเหาะกับมีดโต้วิเศษไว้ให้(ให้แก้วมณีออกมาสลับกับแก้วหน้าม้า)
6.นางแก้วมณีจึงนั่งเรือเหาะไปขออาศัยอยู่ที่กระท่อมกับยายในป่าชานเมืองโรมวิถี พร้อมกับถอดรูปม้าออกกลายเป็นหญิงสาวแสนสวยชื่อมณีรัตนาะ (ให้วิ่งวนเหมือนนั่งเรือให้แก้วหน้าม้าวิ่งพอถึงกระท่อมให้เเก้วมณีออกมา)
 7.จนในที่สุดพระปิ่นทองก็ตกหลุมรักและอยู่กินด้วยกันช่วงหนึ่งจนมณีรัตนาท้อง พระปิ่นทองจึงมอบแหวนประจำพระองค์ไว้ให้ก่อนจากกัน(ให้พระปิ่นทองออกมาแล้วสวมแหวนให้แก้วมณีแล้วให้แก้วมณีออกมา)
 8.ระหว่างทางพระปิ่นทองได้สู้กับยักษ์ชื่อท้าวพาลราช ฝ่ายแก้วมณีเมื่อทราบความก็นั่งเรือเหาะมาช่วยเหลือจนชนะ และท้าวพาลราชเมื่อพ้ายแพ้ให้แก่พระปิ่นทอง ท้าวพาลราชจึงยกสร้อยสุวรรณ พระธิดาของตนให้เป็นเมียของพระปิ่นทอง (แสดงตามบทเหมือนมาสู้กันปกติ)
9.และนางแก้วมณีก็อุ้มลูกคือ พระปิ่นแก้วมาดักพระปิ่นทองที่เมือง(พูดบทด้านล่าง) พระปิ่นทองปฏิเสธนาง(ให้พูดบทด้านล่าง)แต่ก็จำนนด้วยหลักฐานคือแหวนประจำพระองค์(ให้พูดยทด้านล่าง) พระปิ่นทองจึงไล่แก้วหน้าม้าและลูกให้ไปอยู่ท้ายวัง(พูดบทด้านล่าง) หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดศึกยักษ์มาตีเมืองมิถิลา 
แก้วหน้าม้า: ท่านพี่ข้าพาพระปิ่นแก้วลูกของน้องกับท่านพี่มาหาเพคะ
พระปิ่นทอง: นี่ไม่ใช่ลูกของข้าเมียของข้ามียลโฉมที่สวยกว่าเจ้ามาก
แก้วหน้าม้า: แต่นี่คือแหวนที่ท่านพี่ให้ข้ามาเพื่อเป็นสัญญาไงเพคะ
พระปิ่นทอง: งั้นเจ้ากับลูกก็ไปอยู่ไปอยู่ท้ายวังละกัน
10.สร้อยสุวรรณ จึงออกอุบายให้ท้าวภูวดลมาขอร้องนางแก้วมณีให้ไปช่วย (พูดบทด้านล่าง)
สร้อยสุวรรณ: ท่านลองไปขอความช่วยเหลือจากนางแก้วมณีดีไหม
ท้าวภูดล: เอาอย่างนั้นก็ได้ข้าจะลองดู
ท้าวภูวดล: แก้วมณีโปรดช่วยข้าไปปราบศึกกับยักษ์ให้ข้าหน่อยนะ
แก้วหน้าม้า: ก็ได้ข้าจะช่วยท่าน
11.แก้วหน้าม้าออกรบจนชนะ (แสดงตามบท)
12.ต่อมาพระปิ่นทองเริ่มรู้ความจริง
ว่า แก้วหน้าม้านั้น แท้จิงแล้วคือนางมณีรัตนา (ให้ยืนสงสัยอยู่คนเดียวเหมือนนึกไปมา)
13.และงอนง้อขอคืนดีกับแก้วหน้าม้า (พูดตามบทด้านล่าง)
พระปิ่นทอง: ข้าขอโทษที่ข้าไม่รู้ว่าเจ้าคือแก้วมณีหญิงที่ข้ารักต่อจากนี้ข้าจะดูแลเจ้าและลูกเอง (จับมือแก้วหน้าม้า)
แก้วหน้าม้า: ไม่เป็นไรหรอกท่านพี่ข้าไม่เคยโกรธท่านพี่เลย
 14.พระปิ่นทองและพระปิ่นแก้วจึงขอร้องให้นางแก้วหน้าม้าถอดหน้าม้าของนางออก(พูดตามบทด้านล่าง)นางกลับ เป็นนางมณีรัตนาที่งดงามอย่างที่เคยเป็น
พระปิ่นทอง: เจ้าช่วยถอดรูปม้าของเจ้าออกได้มั้ย
พระปิ่นทอง: เจ้าช่างงดงามเสียจริงข้ารู้สึกผิดเหงือเกินที่ทำแบบนั้นกับเจ้า
แก้วมณี:ไม่เป็นไรหรอกท่านพี่ข้ารู้ว่าท่านไม่รู้ว่าข้าเป็นใครข้าไม่โกรธท่านเลยเพราะข้ารักท่านพี่
15.แล้วทุกคนก็ยอมรับให้นางมณีรัตนามาเป็นพระมเหสีของพระปิ่นทอง (ให้มณีรัตนายืนโอบไหล่กับกับพระปิ่นทอง)
16.นางมณีรัตนาและพระปิ่นทองก็ได้ครองรักกันอย่างมีความสุข พร้อมกับเลี้ยงดูพระปิ่นแก้วให้มีความสุขเช่นกัน (ยืนคู่กันโอบกันหรือซบไหล่ก็ได้)
End..
- [ ]