เมื่อหยดของเหลวลงบนผ้า โมเลกุลของน้ำจะเข้าไปแทรกตัวอยู่ช่องว่างของผ้า เมื่อแสง ตกกระทบไปบนผ้า แสงบางส่วนจะถูกส่องผ่านและเกิดการหักเหระหว่างรอยต่อของอากาศและน้ำ บางส่วนถูกดูดกลืนภายในตัวกลาง และแสงบางส่วนสะท้อนออกมาเข้าตาเรา ซึ่งแสงสะท้อนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรามองเห็นผ้าสีสว่างหรือเข้มขึ้น แสงสะท้อนที่เกิดขึ้นจะมีความเข้มแสงมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับกฎการหักเหของ สเนลล์ จากภาพ 5.1 จะเห็นได้ว่าหากแสงเดินทางจากตัวกลางที่มีดัชนีหักเหของแสงน้อยไปมากรังสีหักเหจะเบนเข้าหาเส้นปกติ ซึ่งทำให้แนวโน้มในการเกิดรังสีสะท้อนมีน้อยลง ความเข้มแสงที่วัดได้มีค่าน้อย จึงทำให้เรามองเห็นผ้ามีสีเข้มขึ้น
ภาพที่ 5.1 การสะท้อนระหว่างรอยต่อของผิวน้ำและอากาศ
ที่มา : http://wonderfuloptic.blogspot.com/2012/03/blog-post_06.html
จากผลการทดลองพบว่าความเข้มของแสงสะท้อนและแสงส่องผ่านที่วัดได้มีค่าน้อยลงเมื่อผ้ามีของเหลวที่มีค่าดัชนีหักเหมากแทรกตัวอยู่ แสดงให้เห็นว่า ปริมาณแสงที่ถูกดูดกลืนไว้ในตัวกลางนั้นมีค่ามากเนื่องจากปริมาณแสงทั้งหมด = ปริมาณแสงที่ถูกดูดกลืน + ปริมาณแสงสะท้อน + ปริมาณแสงส่องผ่าน
ดังนั้นปัจจัยที่ทำให้ผ้ามีสีเข้มขึ้นคือ 1. ความเข้มของรังสีสะท้อนที่วัดได้ หากดัชนีหักเหของตัวกลางมีค่ามาก จะทำให้ความเข้มของแสงสะท้อนมีค่าน้อย 2. ปริมาณแสงที่ถูกดูดกลืนเมื่อผ่านตัวกลางที่มีความหนาแน่นแตกต่างกัน หากตัวกลางมีความหนาแน่นมากแสงจะถูกดูดกลืนมากทำให้เรามองเห็นผ้ามีสีเข้มขึ้น