Second, there may be differences in

Second, there may be differences in the degree of price flexibility. In both industrialized economies and developing countries, these may vary across sectors and change over time. In the institutional context of industrialized countries, macroeconomics sought to focus on the implications of wage-rigidities. But in developing countries, where formal sector employment is a small proportion of employment in the economy as a whole, the rigidity of money wages, or real wages, is a less critical policy problem. In fact, the nature of price formation differs across sectors in these dualistic economies. In the agricultural sector, prices are determined largely by demand and supply through market-clearing. Indeed, government support prices for agriculture in many developing countries are attributable to this reality. In the non-agricultural sector, particularly manufacturing, prices are determined through mark-ups on a cost-plus basis. Moreover, in some developing countries wages in the organized sector are characterized by an indexation which imparts rigidity to real wages. In such price-wage interaction, the role of trade unions is often significant but not quite recognized. Obviously, generalizations are difficult. Yet, it can be said that agricultural prices are more flexible than industrial prices, and agriculture is typically more important in developing countries. Historically, oligopolies, with their associated price-rigidities, were more important in industrialized countries than they are now, but such oligopolies remain important in the manufacturing sector in many developing countries. On balance, it is plausible to argue that wages and prices are more flexible in developing countries than in industrialized economies. It is also reasonable to suggest that, insofar as there are wage-rigidities in both sets of countries, the underlying factors are different

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สอง อาจมีความแตกต่างในระดับของความยืดหยุ่นของราคา ในประเทศอุตสาหกรรมและประเทศกำลังพัฒนา เหล่านี้อาจแตกต่างกันภาค และเปลี่ยนช่วงเวลา ในบริบทของกลุ่มประเทศที่สถาบัน เศรษฐศาสตร์มหภาคขอเน้นผลกระทบของค่าจ้าง rigidities แต่ในประเทศกำลังพัฒนา การจ้างงานภาคการศึกษาสัดส่วนเล็ก ๆ ของการจ้างงานในเศรษฐกิจโดยรวม ความแข็งแกร่งของเงินค่าจ้าง ค่าจ้างแท้จริง เป็นปัญหานโยบายสำคัญน้อย ในความเป็นจริง ธรรมชาติของผู้แต่งราคาแตกต่างระหว่างภาคในประเทศเหล่านี้ dualistic ในภาคการเกษตร ราคาถูกกำหนด โดยอุปสงค์และอุปทานผ่านตลาดกู้เป็นส่วนใหญ่ แน่นอน ราคารัฐบาลสนับสนุนการเกษตรในประเทศกำลังพัฒนาอย่างนี้ความเป็นจริง ในภาคการเกษตรไม่ใช่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิต ราคาถูกกำหนดผ่าน ups หมายตามวิธีต้นทุนบวก นอกจากนี้ ในประเทศกำลังพัฒนาบาง ค่าจ้างในภาคการจัดมีลักษณะ โดยการทำดัชนีที่พื้นมีกลิ่นความแข็งแกร่งให้ค่าจ้างที่แท้จริง ในการโต้ตอบเช่นราคาค่าจ้าง บทบาทของสหภาพได้มักจะสำคัญ แต่ไม่ค่อนข้างรับรู้ อย่างชัดเจน generalizations ได้ยาก ยัง มันสามารถจะกล่าวว่า ราคาที่เกษตรมีความยืดหยุ่นกว่าราคาอุตสาหกรรม และเป็นประเทศกำลังพัฒนาโดยทั่วไปสำคัญมาก ประวัติ oligopolies มีการเชื่อมโยงราคา-rigidities สำคัญในประเทศอุตสาหกรรมมากกว่าพวกเขาเป็น แต่ oligopolies ดังกล่าวยังคงความสำคัญในภาคการผลิตในประเทศกำลังพัฒนา ดุล จึงรับมือเถียงว่าค่าจ้าง และราคามีความยืดหยุ่นมากขึ้นในประเทศกำลังพัฒนากว่าในประเทศอุตสาหกรรม ก็เหมาะสมที่จะแนะนำ insofar เนื่องจากมีค่าจ้าง rigidities ในทั้งสองชุดของประเทศ ปัจจัยพื้นฐานแตกต่างกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประการที่สองอาจจะมีความแตกต่างในระดับของความยืดหยุ่นราคา ทั้งในประเทศอุตสาหกรรมและประเทศกำลังพัฒนาเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปทั่วทุกภาคและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในบริบทสถาบันของประเทศอุตสาหกรรมมหภาคพยายามที่จะมุ่งเน้นไปที่ผลกระทบของการเข้มงวดค่าจ้าง แต่ในประเทศกำลังพัฒนาที่การจ้างงานภาคอย่างเป็นทางการส่วนเล็ก ๆ ของการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจที่เป็นทั้งความแข็งแกร่งของค่าจ้างเงินหรือค่าจ้างที่แท้จริงเป็นปัญหานโยบายที่สำคัญน้อย ในความเป็นจริงธรรมชาติของการก่อราคาแตกต่างกันไปทั่วทุกภาคในประเทศสติคเหล่านี้ ในภาคเกษตรราคาจะถูกกำหนดโดยส่วนใหญ่อุปสงค์และอุปทานในตลาดล้าง อันที่จริงราคาการสนับสนุนจากรัฐบาลเพื่อการเกษตรในประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากมีส่วนที่เป็นความเป็นจริงนี้ ในการผลิตนอกภาคเกษตรโดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตราคาถูกกำหนดผ่านเครื่องหมายอัพบนพื้นฐานต้นทุนบวก นอกจากนี้ในบางประเทศกำลังพัฒนาค่าจ้างในภาคจัดที่โดดเด่นด้วยการปรับซึ่งภูมิต้านทานความแข็งแกร่งให้กับค่าจ้างที่แท้จริง ในการมีปฏิสัมพันธ์ราคาค่าจ้างเช่นบทบาทของสหภาพการค้ามักจะเป็นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่ได้รับการยอมรับค่อนข้าง เห็นได้ชัดว่าภาพรวมเป็นเรื่องยาก แต่ก็อาจกล่าวได้ว่าราคาสินค้าเกษตรจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นกว่าราคาอุตสาหกรรมและการเกษตรโดยทั่วไปจะมีความสำคัญมากขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา อดีต oligopolies กับเข้มงวดราคาที่เกี่ยวข้องของพวกเขามีความสำคัญมากขึ้นในประเทศอุตสาหกรรมกว่าที่พวกเขาอยู่ในขณะนี้ แต่ oligopolies ดังกล่าวยังคงมีความสำคัญในภาคการผลิตในประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมาก กับความสมดุลก็เป็นไปได้ที่จะเถียงว่าค่าจ้างและราคาจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในประเทศกำลังพัฒนากว่าในประเทศอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีเหตุผลที่จะชี้ให้เห็นว่าตราบเท่าที่มีค่าจ้างเข้มงวดในทั้งสองชุดของประเทศปัจจัยพื้นฐานที่แตกต่างกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประการที่สอง อาจจะมีความแตกต่างกันในระดับของความยืดหยุ่นของราคา ทั้งในประเทศอุตสาหกรรมและประเทศเศรษฐกิจพัฒนา เหล่านี้อาจแตกต่างกันไป ทั่วทุกภาค และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในบริบทของสถาบันในประเทศอุตสาหกรรม อะไรรึเปล่า ขอเศรษฐศาสตร์มหภาคเพื่อมุ่งเน้นผลกระทบของ rigidities ค่าจ้าง แต่ในการพัฒนาประเทศที่การจ้างงานภาคที่เป็นทางการมีขนาดเล็กสัดส่วนของการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจโดยรวมแล้ว ความแข็งแกร่งของค่าจ้าง เงิน หรือ ค่าจ้างที่แท้จริง เป็นนโยบายสำคัญน้อยกว่าอะไรรึเปล่าครับ ในความเป็นจริง ธรรมชาติของการเกิดราคาแตกต่าง ทั่วทุกภาคในประเทศระบบทวินิยมเหล่านี้ ในภาคเกษตร ราคา ถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทานส่วนใหญ่ผ่านการล้างตลาด แน่นอนรัฐบาลสนับสนุนราคา เพื่อการเกษตรในประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากมีข้อมูลความจริงนี้ได้ ในภาคนอกภาคเกษตรโดยเฉพาะการผลิตในราคาที่ถูกกำหนดโดยเครื่องหมาย Ups บนต้นทุนบวกพื้นฐาน นอกจากนี้ ในบางประเทศที่พัฒนาค่าจ้างในการจัดภาค มีลักษณะเป็นพลังไฟฟ้าลดลงซึ่ง imparts ความแข็งแกร่งเพื่อค่าจ้างที่แท้จริงในราคาค่าจ้างระหว่างบทบาทของสหภาพแรงงานมักจะเป็นสําคัญ แต่ไม่ค่อยรู้จัก เห็นได้ชัดว่า มาจากการเป็นยาก ยังสามารถกล่าวว่า ราคาสินค้าเกษตรมีความยืดหยุ่นมากกว่าราคา อุตสาหกรรม และการเกษตร โดยทั่วไปที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ ในอดีต สิ่ง กับ ราคา rigidities เกี่ยวข้องของพวกเขา ,สำคัญที่สุดในประเทศอุตสาหกรรมกว่าพวกเขาอยู่ในขณะนี้ , แต่สิ่งยังคงสำคัญในภาคการผลิตในประเทศที่พัฒนามาก บนความสมดุล มันเป็นไปได้ที่จะโต้แย้งว่าค่าจ้างและราคามีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการพัฒนาประเทศมากกว่าในประเทศอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังเหมาะสมที่จะชี้ให้เห็นว่าตราบเท่าที่มี rigidities ค่าจ้างในทั้งสองชุดของประเทศ ภายใต้ปัจจัยต่าง