Adrien-Marie Legendre did not like

Adrien-Marie Legendre did not like to talk about his personal life. His colleague Simeon Poisson wrote:
Our colleague has often expressed the desire that, in speaking of him, it would only be the matter of his works, which are, in fact, his entire life. (From MacTutor Biography)
He was born September 15, 1752 in France. He may have been born in Toulouse but from a very early time, his family lived in Paris. His family was wealthy and he attended the College Mazarin in Paris. His area of focus was mathematics and physics.

In 1775, he became a lecturer at the Ecole Militaire based on the recommendation of the well known mathematician Jean D'Alembert. One of his fellow lecturers at the Ecole Militaire was Pierre-Simon Laplace who would later become very well known himself.

Legendre's reputation was made when he was able to win the Berlin Academy Prize in 1782. The Berlin Academy had proposed a very difficult problem that involved calculating the projectory path of a cannon ball undergoing air resistance. He later wrote an influential paper on the force of attraction between two confocal ellipsoids. In January of 1783, he was appointed as an associate to the French Academy of Sciences.

Legendre proceeded to do influential investigations of celestrial mechanics, number theory, and elliptic functions. In number theory, his work includes an important result on the quadratic reciprocity of residues and arithmetic progressions of prime numbers. Both of these results were later superceded by Carl Friedrich Gauss's work on quadratic reciprocity of residues and Johann Dirichlet's work on arithmetic progressions of primes. In 1787, he was elected to the Royal Society of London.

After the French Revolution of 1793, Legendre lost most of his fortune. In 1794, he published his Elements of Geometry which became the leading elementary text on geometry at the time. In this work, he attempted to make the proofs behind Euclid's Elements clearer and better organized.

In 1801, Gauss criticized Legendre's results on quadratic reciprocity and claimed that he himself had invented the correct method. It is clear that Legendre was not happy with Gauss's words but in 1808, when Legendre came out with the next version of his textbook on number theory, he included Gauss's proof instead of his own.

In 1824, Legendre refused to support the government's candidate for the National Institute. As a result of his refusal, he lost his pension and lived his remaining years close to poverty.

In 1830, he offered his proof for Fermat's Last Theorem n = 5 which was based on the work done by Dirichlet and also the proof by Sophie Germain.

Legendre was fascinated by Euclid's parallel postulate and for many years attempted to provide a proof. He refused to believe in the existence of non-Euclidean geometries which were first proposed by Nikolai Ivanovich Lobechevsky in 1829.

Legendre died on January 10, 1833. He had made significant achievements in geometry, differential equations, calculus, function theory, number theory, and statistics.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อาเดรียง-มารีเลอฌ็องดร์ไม่ชอบพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัว เพื่อนร่วมงานของเขาเผ่าสิเมโอนปัวเขียน:เพื่อนร่วมงานของเรามักจะได้แสดงความปรารถนาที่ ในการพูดของเขา มันเท่านั้นจะเป็นเรื่องผลงานของเขา ซึ่งมี ในความเป็นจริง ตลอดชีวิต (จากประวัติ MacTutor)เขาเกิดวันที่ 15 กันยายน 1752 ในฝรั่งเศส เขาอาจมีการเกิดในตูลูส ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ครอบครัวอยู่ในปารีส ครอบครัวมั่งคั่ง และเขาเข้าร่วมมาซารินวิทยาลัยในปารีส เขาตั้งมามีวิชาคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ใน 1775 แอดเด เขาเป็นอาจารย์ Militaire Ecole ตามคำแนะนำของนักคณิตศาสตร์รู้จัก Jean D'Alembert หนึ่งในอาจารย์ของเขาเพื่อนที่ Ecole Militaire Pierre Simon ลาปลาสซึ่งจะเป็นมากไม่รู้จักตัวเองได้ทำชื่อเสียงของเลอฌ็องดร์เมื่อเขาชนะรางวัลออสการ์เบอร์ลินใน 1782 ออสการ์เบอร์ลินได้เสนอปัญหายากที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณเส้นทาง projectory ของลูกปืนใหญ่ระหว่างความต้านทานของอากาศ เขาภายหลังเขียนเป็นกระดาษที่มีอิทธิพลในบังคับของสถานที่ท่องเที่ยวระหว่างสอง confocal ellipsoids ในเดือน 1783 มกราคม เขาได้รับเป็นการรศกับสถาบันวิทยาศาสตร์ฝรั่งเศสเลอฌ็องดร์ครอบครัวต้องสืบสวนมีอิทธิพล celestrial กลศาสตร์ ทฤษฎีจำนวน และฟังก์ชัน elliptic งานของเขารวมถึงผลลัพธ์สำคัญบน reciprocity กำลังสองตกค้างและการก้าวหน้าเลขคณิตจำนวนเฉพาะในทฤษฎีจำนวน นอกจากนี้ทั้งผลลัพธ์เหล่านี้ในภายหลังถูก superceded โดยงาน Carl ฟรีดริชเกาส์ reciprocity กำลังสองของตกและงานโยฮันน์ Dirichlet ก้าวหน้าเลขคณิตของโรงแรมไพรม์ 1787 เขาได้รับเลือกให้สังคมรอยัลลอนดอนหลังจากการปฏิวัติฝรั่งเศสของ 1793 เลอฌ็องดร์สูญหายของมรดกของเขา ใน 1794 เขาเผยแพร่ของเขาองค์ประกอบของรูปทรงเรขาคณิตซึ่งกลายเป็นข้อความระดับประถมศึกษาชั้นนำในเรขาคณิตในเวลา ในงานนี้ เขาพยายามที่จะให้หลักฐานหลังของยุคลิดองค์ประกอบชัดเจน และดีเป็นระเบียบใน 1801 เกาส์วิพากษ์วิจารณ์ผลลัพธ์ของเลอฌ็องดร์บน reciprocity กำลังสอง และอ้างว่า เขาเองได้คิดค้นวิธีที่ถูกต้อง เป็นที่ชัดเจนว่า ไม่มีความสุขกับคำของเกาส์เลอฌ็องดร์ แต่ใน 1808 เมื่อเลอฌ็องดร์ออกมากับรุ่นถัดไปของหนังสือของเขาเกี่ยวกับทฤษฎีจำนวน เขารวมของเกาส์พิสูจน์แทนตนใน 1824 เลอฌ็องดร์ปฏิเสธการสนับสนุนผู้สมัครของรัฐบาลสำหรับ สถาบันแห่งชาติ จากการปฏิเสธของเขา เขาหายเขาเพนชั่น และอาศัยที่เหลืออยู่ของเขาปีใกล้กับความยากจนใน 1830 เขาเสนอหลักฐานของเขาสำหรับ n ทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มา = 5 ซึ่งใช้ในงานที่ทำ โดย Dirichlet และข้อพิสูจน์ โดยโซฟีนี่เลอฌ็องดร์หลง postulate ขนานของยุคลิด และหลายปีพยายามที่จะให้หลักฐานได้ เขาปฏิเสธที่จะเชื่อในการดำรงอยู่ของรูปทรงเรขาคณิตที่ไม่ใช่ Euclidean ซึ่งถูกเสนอครั้งแรก โดยนิโคไลแห่ง Ivanovich Lobechevsky ใน 1829เลอฌ็องดร์เสียชีวิตในวันที่ 10 มกราคม 1833 เขาได้ทำความสำเร็จที่สำคัญในเรขาคณิต สมการเชิงอนุพันธ์ แคลคูลัส ฟังก์ชันทฤษฎี ทฤษฎีจำนวน และสถิติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เอเดรียน มาเรีย legendre ไม่ชอบที่จะพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเขา เพื่อนร่วมงานของเขาสิเมโอนปัวซอ wrote :
เพื่อนร่วมงานของเรามักจะแสดงความปรารถนาว่า การพูดของเค้า มันก็จะเป็นเพียงเรื่องของผลงานของเขา ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ชีวิตของเขา ( จาก mactutor ชีวประวัติ )
เค้าเกิด 15 กันยายน 1752 ในฝรั่งเศส เขาอาจจะเกิดในบราซิล แต่จากเวลาเร็วจริงๆครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ในปารีส ครอบครัวเขาร่ำรวย และเขาเข้าเรียนที่วิทยาลัย มาซาแรงในปารีส พื้นที่ของเขาโฟกัส คณิตศาสตร์และฟิสิกส์

ใน 1775 เขาได้กลายมาเป็นอาจารย์ที่กล์ มิลิแตร์ตามคำแนะนำของที่รู้จักกันดีนักจีน d'alembert . หนึ่งในอาจารย์ของเขาเพื่อนที่กล์ มิลิแตร์เป็นปิแอร์ไซมอนลาปลาซที่ภายหลังจะกลายเป็นที่รู้จักกันดีในตัวเอง

ชื่อเสียง legendre ทำเมื่อเขาสามารถชนะรางวัลเบอร์ลิน Academy ใน 1782 . โรงเรียนเบอร์ลินได้เสนอปัญหาที่ยากมากที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณเส้นทาง projectory ของแคนนอน บอล การต้านทานอากาศ หลังจากนั้นเขาก็เขียนกระดาษมีอิทธิพลต่อแรงดึงดูดระหว่างสองด้วย ellipsoids . ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1771 ,เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นพันธมิตรกับโรงเรียนภาษาฝรั่งเศสวิทยาศาสตร์

legendre ก็ทำอำนาจการสืบสวนของ celestrial กลศาสตร์ ทฤษฎีจำนวน และฟังก์ชันเชิงวงรี . ในทฤษฎีจำนวน ผลงานของเขารวมถึงผลสำคัญต่อส่วนกลับกำลังสองของสารตกค้างและคณิตศาสตร์การก้าวหน้าของจำนวนเฉพาะทั้งของผลลัพธ์เหล่านี้ครอบคลุมทั้งหมดโดยคาร์ลฟรีดริชเกาส์ในภายหลังงานส่วนกลับกำลังสองของสารตกค้างโยฮันน์ ดีริชเลต์ทำงานคณิตศาสตร์การก้าวหน้าของไพร์ม ใน 1787 เขาได้รับเลือกให้ราชสมาคมแห่งลอนดอน .

หลังจากการปฏิวัติฝรั่งเศสที่ legendre , สูญเสียมากที่สุดของมรดกของเขา ใน 1794 ,เขาได้รับการตีพิมพ์ของเขาองค์ประกอบของเรขาคณิตซึ่งกลายเป็นผู้นำระดับข้อความในเรขาคณิตในเวลา ในงานนี้ เขาพยายามที่จะให้หลักฐานอันหลังยูคลิดเป็นองค์ประกอบที่ชัดเจนและเป็นระเบียบมากขึ้น

ใน 1801 N วิพากษ์วิจารณ์ legendre , ผลในการแลกเปลี่ยนกำลังสอง และอ้างว่าตัวเขาเองมีการคิดค้นวิธีการที่ถูกต้องมันเป็นที่ชัดเจนว่า legendre ไม่พอใจกับคำพูดของเกาส์ แต่ใน 1808 เมื่อ legendre ออกมากับรุ่นถัดไปของหนังสือของเขาในทฤษฎีตัวเลข เขารวมเกาส์พิสูจน์แทนของเขาเอง

ใน 1824 legendre , ปฏิเสธที่จะสนับสนุนผู้สมัครของรัฐบาลสถาบันแห่งชาติ ผลของการปฏิเสธของเขา เขาสูญเสียเงินบำนาญของเขา และใช้ชีวิตที่เหลือของเขาปีใกล้

ใน 1830 , ความยากจนเขาเสนอ เขาพิสูจน์ทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มาต์ n = 5 ซึ่งขึ้นอยู่กับผลงานดีริชเลต์และยังมีการพิสูจน์โดยโซฟี Germain .

legendre หลงใหลของยูคลิดขนานสัจพจน์และหลายปีพยายามที่จะให้พิสูจน์ เขาปฏิเสธที่จะเชื่อในการดำรงอยู่ขององค์กรที่มีคุณภาพที่เสนอครั้งแรกโดยนิโคไล วาโนวิช lobechevsky ใน 1829 .

legendre เสียชีวิตวันที่ 10 มกราคม 1833 . เขาได้พบความสำเร็จในเรขาคณิต สมการเชิงอนุพันธ์ แคลคูลัส ทฤษฎีฟังก์ชันทฤษฎี

ตัวเลขและสถิติ