ประเทศญี่ปุ่น มีแนวโน้มที่จะเป็นครอบครัวเดี่ยว เช่นเดียวกับประเทศในแถบยุโรปและอเมริกา ที่มีเฉพาะคู่สามีภรรยา สามีภรรยากับบุตรที่ยังไม่แต่งงาน หรือบิดา-มารดาคนใดคนหนึ่งกับบุตรที่ยังโสดนั้น มีสูงถึง 60% ของครอบครัวทั้งหมด ครอบครัวที่ประกอบด้วยสมาชิก 5 คน จากอดีตถึงปี ค.ศ.1940 นั้นค่อยๆลดลงทุกปี โดยในปี ค.ศ.1993 เหลือเพียง 2.8 หรือ 3 คนเท่านั้น
กล่าวได้ว่าครอบครัวที่ประกอบด้วย สามี ภรรยา บุตร 1 หรือ 2 คน นั้นนับเป็นโครงสร้างทางครอบครัวที่พบได้ทั่วไปในสังคมญี่ปุ่นปัจจุบัน
ครอบครัวสมัยก่อนสงครามและระหว่างสงคราม
ภาพวิถีชีวิตชาวญี่ปุ่น
ครอบครัวชาวญี่ปุ่นโดยทั่วไปสมัยก่อนสงครามนั้น เป็นครอบครัวที่ประกอบด้วยสมาชิก 3 รุ่น คือบิดามารดา บุตร และหลาน อาศัยอยู่รวมกัน โดยมีสามีซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ขาดในฐานะหัวหน้าครอบครัว ส่วนภรรยานั้นจะอยู่บ้านมีหน้าที่ดูแลปรนนิบัติรับใช้สามี และบิดามารดาของสามี ตลอดจนทำงานบ้านเลี้ยงลูกทุกอย่าง สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็น “ผู้อยู่ในบ้าน” (kanai) ในช่วงระหว่างสงครามที่ประสบปัญหาขาดแคลนเสบียงอาหารนั้น ภรรยาจะเป็นผู้ดูแลบ้านแทนสามีที่ไปรับราชการทหาร ตลอดจนพยายามจัดหาเสบียงอาหารต่าง ๆ โดยไม่ทำให้สามีต้องมีความกังวล ลักษณะดังกล่าวนี้คือเอกลักษณ์ของสถาบันครอบครัวแบบญี่ปุ่น
ครอบครัวสมัยสงครามและปัจจุบัน
ภาพลักษณ์ของ “สามีผู้ยิ่งใหญ่“ ในอดีต เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จากผู้ถือสิทธิผูกขาดการเป็นผู้นำในทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นกฎเกณฑ์ภายในบ้าน เรื่องการศึกษา การแต่งงานของบุตรนั้นได้หมดไป สามีที่มีเหตุผลยอมรับฟังความคิดเห็นของภรรยา และบุตร เริ่มมีเพิ่มมากขึ้นในสังคมปัจจุบัน ขณะเดียวกันสถานภาพของภรรยา ก็มีมากขึ้นถึงกับมีคำที่นิยมกล่าวกันอยู่ระยะหนึ่งว่า สมัยหลังสงคราม สิ่งที่มีความแข็งแกร่งขึ้น คือสตรีกับถุงเท้า ลักษณะของภรรยาในยุคปัจจุบัน จะสามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองได้ในฐานะที่เท่าเทียมกับสามี โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะมีสิทธิ์ขาดเหนือสามีมากขึ้นในส่วนที่เกี่ยวกับการศึกษาของบุตร ผลจากการที่สถานภาพของภรรยาสูงขึ้นดังกล่าว เหตุการณ์ที่พบเห็นได้ทั่วไปต่อมาคือ “สงครามระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้“ ลูกสะใภ้เริ่มมีความคิดเห็นและจุดยืนเป็นของตนเอง ทำให้เกิดการขัดแย้งกับแม่สามีอยู่เสมอ สามีจึงตกอยู่ในสภาพคนกลางที่ต้องรับการปะทะระหว่างภรรยากับมารดาของตนเอง
นอกจากนั้นการแพร่หลายของผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ทำให้เวลาที่ใช้ในการทำงานบ้านลดน้อยลง ประกอบกับจำนวนบุตรที่มีน้อยทำให้เวลาในการเลี้ยงดูบุตรสั้นลงด้วย ด้วยเหตุนี้แม่บ้าน 1ใน 2 คนที่ออกไปแสวงหาคุณค่าในการดำรงชีวิต ด้วยการออกไปทำงานนอกบ้าน จึงมีเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน
ประเด็นเรื่องสิทธิผูกขาดการบริหารการเงินภายในบ้าน ครอบครัวทางยุโรปและอเมริกา สามีจะเป็นผู้ที่จัดการเรื่องรายรับรายจ่ายภายในครอบครัว ส่วนภรรยามีหน้าที่รับเฉพาะค่าใช้จ่ายที่จำเป็นเท่านั้น แต่ในประเทศญี่ปุ่น หลังสงครามเป็นต้นมา ภรรยาสามารถบริหารระบบคลังภายในครอบครัวได้แบบเบ็ดเสร็จ ตั้งแต่เงินเดือนของสามี การจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน การเก็บออม การดูแลทรัพย์สิน การสรรหาเงินก้อน เพื่อการสร้างบ้านของตนเอง