The results of this study indicate

The results of this study indicate that simple microwave
technology can be used to convert grass type biomass to
sugars without the use of expensive enzymes. Sulphuric acid
concentration is important to ensure that residual sugars in
the biomass are not degraded during the treatment. Cofermentation
of pentose and hexose fermenting organisms
resulted in a high ethanol yield. The final ethanol yield
per hectare of sweet sorghum bagasse planted will determine
the ethanol yield per hectare that can be obtained in any
particular agricultural area of the world. Sweet sorghum
grown on marginal land can produce biomass as high as
35 metric tonne ha
1 while that grown on irrigated land can
produce up to 130 tonne ha
1. Ethanol can thus be produced
on marginal land at 0.252 m3 tonne
1 biomass. The ethanol
yield per hectare depends on whether irrigation was used or
not. Water is becoming a scares commodity and if an integrated
food and energy bio-refinery is to become a reality, the
use of marginal land without irrigation would be the best
option of securing feedstock for food and energy production

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลการศึกษานี้บ่งชี้ว่า ไมโครเวฟง่ายสามารถใช้เทคโนโลยีการแปลงชีวมวลชนิดหญ้าไปน้ำตาล โดยการใช้เอนไซม์ที่มีราคาแพง กรดซัลฟุริกสมาธิเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าส่วนที่เหลือจากน้ำตาลในชีวมวลจะไม่ลดลงในระหว่างการรักษา Cofermentationpentose และเฮกโซส fermenting สิ่งมีชีวิตส่งผลให้ผลผลิตเป็นเอทานอลสูง ผลผลิตสุดท้ายเอทานอลต่อ hectare ของข้าวฟ่างหวาน ปลูกชานอ้อยจะกำหนดผลผลิตเอทานอลต่อ hectare ที่สามารถได้รับในเฉพาะพื้นที่การเกษตรของโลก ข้าวฟ่างหวานปลูกในกำไรที่ดินสามารถผลิตชีวมวลสูงtonne 35 วัดฮา 1 ขณะที่ปลูกในชลประทานที่ดินสามารถผลิตถึง 130 tonne ฮา 1 จึงสามารถผลิตเอทานอลกำไรเบื้องต้นบนที่ดินที่ 0.252 m3 tonne ชีวมวล 1 เอทานอลผลตอบแทนต่อ hectare ขึ้นอยู่กับว่าใช้ชลประทาน หรือไม่ น้ำกลายเป็น โภคภัณฑ์ scares และ ถ้าการบูรณาการอาหารและพลังงานชีวภาพกลั่นจะกลายเป็น จริง การใช้ที่ดินกำไรไม่ มีการชลประทานจะดีสุดตัวเลือกการรักษาความปลอดภัยของวัตถุดิบสำหรับการผลิตอาหารและพลังงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าไมโครเวฟง่าย
สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ในการแปลงพลังงานชีวมวลชนิดหญ้า
น้ำตาลโดยไม่ต้องใช้เอนไซม์ที่มีราคาแพง กรด
ความเข้มข้นเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำตาลที่เหลือใน
ชีวมวลจะไม่สลายตัวในระหว่างการรักษา Cofermentation
ของ pentose และสิ่งมีชีวิตหมัก hexose
ส่งผลให้ผลผลิตเอทานอลสูง ผลผลิตเอทานอลเป็นครั้งสุดท้าย
ต่อเฮกตาร์ของข้าวฟ่างหวานชานอ้อยที่ปลูกจะเป็นตัวกำหนด
ผลผลิตเอทานอลต่อเฮกตาร์ที่สามารถหาได้ใน
พื้นที่การเกษตรโดยเฉพาะอย่างยิ่งของโลก ข้าวฟ่างหวาน
ที่ปลูกในที่ดินชายขอบสามารถผลิตชีวมวลสูงถึง
35 ฮ่าตัน 1 ในขณะที่ปลูกในที่ดินในเขตชลประทานสามารถ
ผลิตได้ถึง 130 ตันต่อเฮกตาร์ 1 เอทานอลสามารถจึงมีการผลิต
ในที่ดินชายขอบที่ 0.252 m3 ตัน 1 ชีวมวล เอทานอล
ให้ผลตอบแทนต่อไร่ขึ้นอยู่กับว่าการชลประทานถูกนำมาใช้หรือ
ไม่ น้ำจะกลายเป็นกลัวสินค้าโภคภัณฑ์และหากรวม
อาหารและพลังงานชีวภาพโรงกลั่นที่จะกลายเป็นความจริง,
การใช้ที่ดินชายขอบโดยไม่ต้องชลประทานจะดีที่สุด
ตัวเลือกในการรักษาความปลอดภัยของวัตถุดิบในการผลิตอาหารและพลังงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า เทคโนโลยีไมโครเวฟ
ง่ายสามารถใช้แปลงหญ้าประเภทชีวมวล

น้ำตาล โดยไม่ต้องใช้เอนไซม์ที่แพง กรดความเข้มข้นเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่า

น้ำตาลตกค้างในชีวมวลจะไม่ย่อยสลาย ระหว่างการรักษา cofermentation
ของเพนโทสเฮกโซสหมักและสิ่งมีชีวิต
( ให้ผลผลิตเอทานอลสูงสุดท้ายต่อเฮกแตร์ผลผลิตเอทานอลจากข้าวฟ่างหวาน

ไว้จะเป็นตัวกำหนดผลผลิตต่อเฮกตาร์ เอทานอลที่สามารถได้รับในการใด ๆโดยเฉพาะ
พื้นที่การเกษตรของโลก
ข้าวฟ่างหวานที่ปลูกในส่วนที่ดินสามารถผลิตมวลชีวภาพสูงที่สุดเท่าที่
35 ตันเมตริกฮา
1 ขณะที่ปลูกบนที่ดินชลประทานสามารถ
ผลิตได้ถึง 130 ตัน ฮา
1 เอทานอลจึงสามารถผลิตบนที่ดินที่ขอบ
0252 ลบ . ม. ต่อ
1 ชีวมวล เอทานอล
ผลผลิตต่อเฮกตาร์ ขึ้นอยู่กับว่าน้ำที่ใช้หรือ
ไม่ น้ำจะกลายเป็นกลัวและถ้ารวมสินค้าอาหารและพลังงานชีวภาพ
โรงกลั่นจะกลายเป็นความเป็นจริง
ใช้ขอบที่ดิน โดยไม่ต้องชลประทานจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการรักษาความปลอดภัยของอาหาร
วัตถุดิบสำหรับการผลิตพลังงาน