Last year, real GDP in Thailand is

Last year, real GDP in Thailand is estimated to have decline by more than 8%.
It is important for a return of confidence that the economy should begin to recover in 1999.
Many factors make recovery difficult, such as the NPL problem, large excess capacities in the
economy and sluggish export performance. Because of this the government decided to put
together a major fiscal stimulus package, which was announced on 30 March 1999. The
package included a reduction in value added tax (from 10% back to the pre-crisis level of
7%), a reduction in personal income tax for the lowest bracket, a reduction in excise tax on
bunker oil and price reduction for electricity and LPG, and a Baht 53 billion increase in
government expenditure financed by external borrowing (partly through the Miyazawa fund).
The fiscal stimulus package is expected to lead to an increase in fiscal deficit of about Baht
134 billion over the next two years.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปี real GDP ในประเทศไทยมีประมาณได้ลดลงกว่า 8% มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการกลับมาของความมั่นใจว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวในปี 1999 ปัจจัยที่ทำให้การกู้คืน เช่นปัญหา NPL ใหญ่เกินกำลังในการ เศรษฐกิจและการส่งออกซบเซา ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจึงตัดสินใจใส่ ด้วยกันสำคัญทางการเงินกระตุ้น ซึ่งวันที่ 30 2542 มีนาคม การ แพคเกจรวมลดลงในมูลค่าเพิ่มภาษี (จาก 10% กลับสู่ระดับก่อนวิกฤต 7%), การลดภาษีเงินได้ส่วนบุคคลสำหรับยึดต่ำ การลดภาษีสรรพสามิต บังเกอร์ลดน้ำมันและราคาไฟฟ้า LPG และการเพิ่มขึ้น 53 พันล้านบาทใน รายจ่ายของรัฐบาลทุน โดยกู้ยืมภายนอก (บางส่วนผ่านกองทุน Miyazawa) กระตุ้นทางการเงินคาดว่าจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของดุลเกี่ยวกับบาท พันล้าน 134 ปีสอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปีที่ผ่านมาของ GDP ที่แท้จริงในประเทศไทยคาดว่าจะมีการลดลงมากกว่า 8%.
มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการกลับมาของความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวในปี 1999
มีปัจจัยหลายอย่างทำให้การกู้คืนที่ยากลำบากเช่นปัญหา NPL ส่วนเกินขนาดใหญ่ ขีดความสามารถใน
ทางเศรษฐกิจและการส่งออกที่ซบเซา ด้วยเหตุนี้รัฐบาลตัดสินใจที่จะนำ
มารวมกันเป็นแพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญซึ่งได้ประกาศวันที่ 30 มีนาคม 1999
แพคเกจรวมถึงการลดลงของมูลค่าเพิ่มภาษี (จาก 10% กลับไปที่ระดับก่อนวิกฤตของ
7%) ลดลง ภาษีรายได้ส่วนบุคคลสำหรับวงเล็บต่ำสุดในการลดภาษีสรรพสามิตใน
น้ำมันเตาและการลดราคาสำหรับการผลิตไฟฟ้าและก๊าซหุงต้มและเพิ่มขึ้น 53000000000 บาท
ใช้จ่ายของรัฐบาลทุนโดยการกู้ยืมเงินภายนอก (บางส่วนผ่านกองทุนมิยาซา).
แพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดว่าจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของการขาดดุลการคลังของประมาณบาท
134,000,000,000 ในช่วงสองปีข้างหน้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปีล่าสุด , real GDP ของไทยคาดว่าจะลดลงมากกว่า 8%มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการกลับมาของความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวในปี 1999ปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้การกู้คืนได้ยาก เช่น ปัญหาสินเชื่อที่ใหญ่เกินความสามารถในเศรษฐกิจและการส่งออกที่ซบเซา ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงตัดสินใจที่จะใส่กันเป็นแพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญ ซึ่งได้มีการประกาศในวันที่ 30 มีนาคม 2542 ที่แพคเกจรวมถึงการลดภาษีมูลค่าเพิ่มจากร้อยละ 10 กลับสู่ระดับก่อนวิกฤต7 % ) , การลดลงของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับวงเล็บที่สุด การลดอัตราภาษีสรรพสามิตในน้ำมันเตาและลดราคาค่าไฟฟ้าและก๊าซหุงต้ม และ 53 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นรายจ่ายของรัฐบาลทุนโดยการกู้ยืมเงินจากภายนอก ( บางส่วนผ่านกองทุนมิยาซาว่า )แพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจที่คาดว่าจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของการขาดดุลการคลังของบาท134 ล้านกว่าสองปีถัดไป