การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบความเชื่อด้านสุขภาพในการป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีของนักศึกษาระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยของรัฐจังหวัดพิษณุโลก การวิจัยครั้งนี้ศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ นักศึกษาในมหาวิทยาลัยของรัฐทั้งหมด 3 มหาวิทยาลัย ซึ่งได้กลุ่มตัวอย่างมหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนาวิทยาเขตพิษณุโลก รวม 395 คน ผู้วิจัยเก็บข้อมูลด้วยตนเองในระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน 2559 ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม จำนวน 25 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสหสัมพันธ์
ผลการวิจัยพบว่าการรับรู้ ด้านแรงจูงใจด้านการป้องกันในการติดเชื้อเอชไอวีมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาคือ ด้านการรับรู้ความรุนแรงของการติดเชื้อเอชไอวี ด้านการรับรู้ถึงประโยชน์ของการรักษาและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีด้านการรับรู้โอกาสเสี่ยงของการติดเชื้อเอชไอวีและ ด้านการรับรู้ต่ออุปสรรคของการติดเชื้อเอชไอวีตามลำดับโดยมี (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.44, 4.43, 4.39, 4.31และ4.23) ตาลำดับ ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ คู่ที่มีความสัมพันธ์สูงสุด เป็นคู่ความสัมพันธ์เชิงบวก คือ ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพศ รองลงมาคือ ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างระดับการศึกษา ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างสถานที่พักอาศัย และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างอาศัยอยู่กับใคร กับรูปแบบความเชื่อด้านสุขภาพ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.01 (ค่า r เท่ากับ .696,.170, .072 และ035) ตามลำดับ