an almost stagnant risk of death wi

an almost stagnant risk of death within the first weeks of life is a reality in sub-Saharan Africa [1]. Recent reports found an annual rate of reduction in neonatal mortality from 40.5/1000 in 2000 to 35/1000 in 2010 [1]. Efforts have been made to identify interventions that are safe, affordable, acceptable and can be scaled up in order to effectively reduce early child morbidity and mortality [2]. Exclusive breastfeeding has been identified as one such intervention. In 2006 delayed and non-exclusive breastfeeding were described as major risk factors for neonatal deaths in a large cohort from a vitamin A trial in Ghana (ObaapaVitA trial) [3]. Furthermore, there was an increased risk of dying from infectious diseases in partially breastfed and even in predominantly breastfed newborns compared to those that only received breast milk [4]. Early and exclusive breastfeeding is recommended by stakeholders [5] and is described as the best option with respect to immunological and nutritional values [6]. The three public health early infant feeding pillars include a) initiating breastfeeding as early as possible, and not later than 1 hour after birth, b) exclusive breastfeeding that includes avoiding pre-lacteal feeds, and c) giving the colostrum to the child [5].

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความเสี่ยงนิ่งเกือบตายภายในสัปดาห์แรกของชีวิตคือความเป็นจริงใน sub-Saharan Africa [1] รายงานล่าสุดพบอัตราประจำปีของการลดอัตราการเสียชีวิตของทารกแรกเกิดจาก 40.5 / 1000 ในปี 2000 เพื่อ 35/1000 ในปี 2010 [1] มีความพยายามที่จะระบุการแทรกแซงที่มีความปลอดภัยราคาไม่แพงที่ยอมรับและสามารถปรับขนาดขึ้นเพื่อให้มีประสิทธิภาพลดการเจ็บป่วยเด็กปฐมวัยและการตาย [2] เลี้ยงลูกด้วยนมพิเศษที่ได้รับการระบุว่าเป็นหนึ่งการแทรกแซงดังกล่าว ในปี 2006 ล่าช้าและให้นมบุตรไม่ผูกขาดถูกอธิบายว่าเ​​ป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับการเสียชีวิตของทารกแรกเกิดในหมู่ขนาดใหญ่จากวิตามินทดลองในประเทศกานา (ทดลอง ObaapaVitA) [3] นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นของการตายจากโรคติดเชื้อในบางส่วนที่กินนมแม่และแม้แต่ในทารกแรกเกิดที่กินนมแม่ส่วนใหญ่เมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับเพียงเต้านม [4] เลี้ยงลูกด้วยนมในช่วงต้นและพิเศษแนะนำโดยผู้มีส่วนได้เสียได้ [5] และอธิบายว่าเ​​ป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเกี่ยวกับค่าภูมิคุ้มกันและโภชนาการ [6] สามเสาหลักด้านสุขภาพของประชาชนให้นมทารกต้นรวม) เริ่มต้นการเลี้ยงลูกด้วยนมที่เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้และไม่เกิน 1 ชั่วโมงหลังจากที่เกิดข) เลี้ยงลูกด้วยนมพิเศษที่รวมถึงการหลีกเลี่ยงการฟีดก่อนให้น้ำนมและ c) ให้นมน้ำเหลืองให้กับเด็ก [5 ]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกือบไม่เสี่ยงตายภายในสัปดาห์แรกของชีวิตคือ ความเป็นจริงใน ซับซาฮาแอฟริกา [ 1 ] รายงานล่าสุดพบว่า มีอัตราการเกิดการตายจาก 40.5/1000 ในปี 2000 ถึง 35 / 1 [ 1 ] ) ความพยายามได้รับการทำที่จะระบุการแทรกแซงที่ปลอดภัยมากได้และสามารถปรับขนาดขึ้น เพื่อลดการเจ็บป่วยและอัตราการตายของเด็กปฐมวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ [ 2 ] การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้รับการระบุว่าเป็นกิจกรรมหนึ่งเช่น ใน 2549 ล่าช้า และการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ไม่ได้ถูกอธิบายไว้เป็นปัจจัยเสี่ยงหลักสำหรับการตายการเกิดในที่หมู่คนขนาดใหญ่จากวิตามินเอที่ใช้ในกานา ( obaapavita ทดลอง ) [ 3 ] นอกจากนี้มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการตายจากโรคติดเชื้อในบางส่วน และแม้แต่ในเด่นกินนมแม่ ทารกกินนมแม่ เมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับนมแม่ [ 4 ] ในวัยเด็กและการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นแนะนำโดยผู้มีส่วนได้เสีย [ 5 ] และอธิบายเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดด้วยความเคารพและรักษาคุณค่าทางโภชนาการ [ 6 ]สามทางสาธารณสุขก่อนให้อาหารทารกเสารวม ) เริ่มต้นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้เร็วที่สุด และไม่เกิน 1 ชั่วโมงหลังคลอด , B ) การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ซึ่งรวมถึงการหลีกเลี่ยงก่อน lacteal ฟีด , และ C ) การให้นมน้ำเหลืองในเด็ก [ 5 ]