7. Increased BullyingThe use of tec

7. Increased Bullying
The use of technology has caused an increase in bullying and escalated the degree of severity. Kids are no longer able to escape their tormentors once they reach the safety of their own homes. Bullies infiltrate the security of their victims’ homes through online avenues. It is also easier to get more kids involved in bullying because people are more likely to say things online that they wouldn’t say in person. The increase in cyber-bullying has also led to an increase in teen suicides.
8. Lack of Privacy
The internet has stripped the world of privacy. Long gone are the days of having an unlisted telephone number and staying offline to keep your information safe from prying eyes. With a few flicks on a keyboard the average person can find anyone’s address and contact information. For those with more sinister intentions, the use of phishing, viruses and hacking helps to find any information they wish to obtain. Plus, people have no sense of privacy online. They don’t think twice about tweeting every move they make, freely giving out their location on Google Map and putting their entire life story on Facebook.
9. Higher Level of Deceit
On the flip side of having no privacy, people use the internet to deceive others. Most people don’t dig too deeply when doing a search on someone to check them out. By creating a few false profiles, people are able to pretend to be whomever they want. People are being “catfished” on dating sites. Hell, you could be talking to someone on the FBI’s top ten most wanted list and not realize it until you see them getting arrested on the news.
10. Warped Sense of Reality
Using the internet as an escape from real life is very easy to do. In real life you only speak to a few people each day, there’s no Photoshop or avatar for the reflection in your mirror, bills must be paid and saying smartass things is frowned upon. However, online you are a freaking rock star! You have enough “friends” to form a small country, you look great in your pics or you have a kickass avatar, plus you get rewards or points for saying clever things (more if the clever thing is also mean-spirited). Unfortunately we must live in the real world whether we like it or not.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

7. เพิ่ม Bullyingการใช้เทคโนโลยีได้ทำให้เกิดการเพิ่ม bullying และเลื่อนระดับของความรุนแรง เด็กจะไม่สามารถหนี tormentors ของพวกเขาเมื่อพวกเขาเข้าถึงความปลอดภัยของบ้านของตนเอง Bullies แทรกซึมความปลอดภัยของบ้านของเหยื่อ avenues ออนไลน์ ก็ยังง่ายต่อการรับเด็กเพิ่มเติมเกี่ยวข้องใน bullying เพราะคนมีแนวโน้มว่าสิ่งออนไลน์ที่พวกเขาจะไม่บอกคน เพิ่มไซเบอร์ bullying มีนำขึ้นอัตวินิบาตกรรมวัยรุ่น8. ขาดความเป็นส่วนตัวอินเทอร์เน็ตได้ปล้นโลกของความเป็นส่วนตัว หายไปนานเป็นวันที่มีหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่แสดง และพักแบบออฟไลน์เพื่อให้ข้อมูลของคุณปลอดภัยจาก prying ตา มีกี่ตวัดบนแป้นพิมพ์ คนเฉลี่ยสามารถหาของทุกคนที่อยู่และติดต่อข้อมูล สำหรับผู้ที่มีความตั้งใจมากกว่าอนาจาร การใช้ฟิชชิ่ง ไวรัส และแฮ็คช่วยในการค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้รับ พลัส คนได้รู้สึกความเป็นส่วนตัวออนไลน์ พวกเขาไม่คิดว่า สองเกี่ยวกับรับย้ายทุกที่พวกเขาทำการ tweeting อิสระให้ตำแหน่งที่ตั้งบนแผนที่ และใส่เรื่องราวชีวิตทั้งชีวิตของพวกเขาใน Facebook9. สูงระดับของหลอกลวงในความเป็นส่วนตัวไม่มี คนใช้อินเทอร์เน็ตหลอกลวงผู้อื่น คนส่วนใหญ่ไม่ขุดลึกเกินไปเมื่อทำการค้นหาคนตรวจสอบพวกเขาออก โดยสร้างประวัติเท็จกี่ คนสามารถจะทำให้ whomever พวกเขาต้องการ คนกำลัง "catfished" บนเว็บไซต์หาคู่ Hell คุณอาจจะพูดคุยกับบุคคลใน 10 อันดับของ FBI สุดต้องราย และไม่ทราบจนกว่าคุณเห็นการจับกุมในข่าว10. ความจริง warpedใช้อินเทอร์เน็ตเป็นการหลบหนีจากชีวิตจริงเป็นเรื่องง่ายมากที่จะทำ ในชีวิตจริงคุณเพียงพูดกี่คนแต่ละวัน มีไม่มี Photoshop หรืออวตารสำหรับสะท้อนในกระจกของคุณ ต้องจ่ายตั๋ว และบอกสิ่ง smartass เป็น frowned เมื่อ อย่างไรก็ตาม ออนไลน์คุณเป็นดาวหินซมัน พอ "เพื่อน" เพื่อประเทศขนาดเล็ก คุณดูดีในภาพของคุณ หรือคุณมีอวตาร kickass พร้อมรับรางวัลหรือคะแนนในการกล่าวสิ่งที่ฉลาด (เพิ่มเติมว่าสิ่งฉลาดยังน่า) แต่เราต้องอาศัยอยู่ในโลกจริงว่าเราชอบมัน หรือไม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

7. เพิ่มข่มขู่
การใช้เทคโนโลยีได้ก่อให้เกิดการเพิ่มขึ้นของการข่มขู่และเพิ่มระดับของความรุนแรง เด็กจะไม่สามารถที่จะหลบหนีเขี้ยวเล็บของพวกเขาเมื่อพวกเขามาถึงความปลอดภัยของบ้านของตัวเอง รังแกแทรกซึมเข้าไปในการรักษาความปลอดภัยของบ้านของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของพวกเขาผ่านช่องทางออนไลน์ นอกจากนี้ยังง่ายที่จะได้รับมากขึ้นเด็กมีส่วนร่วมในการกลั่นแกล้งเพราะคนมีแนวโน้มที่จะพูดสิ่งที่ออนไลน์ที่พวกเขาจะไม่พูดในคน การเพิ่มขึ้นของการข่มขู่ไซเบอร์ยังได้นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของการฆ่าตัวตายของวัยรุ่น.
8 ขาดความเป็นส่วนตัว
อินเทอร์เน็ตได้ปล้นโลกของความเป็นส่วนตัว ยาวไปเป็นวันที่มีหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่แสดงและการเข้าพักแบบออฟไลน์เพื่อเก็บข้อมูลของคุณปลอดภัยจาก prying ตา ด้วยการตวัดไม่กี่บนแป้นพิมพ์ที่คนทั่วไปสามารถหาที่อยู่ของทุกคนและข้อมูลการติดต่อ สำหรับผู้ที่มีความตั้งใจที่น่ากลัวมากขึ้นการใช้งานของฟิชชิ่งไวรัสและแฮ็คช่วยในการค้นหาข้อมูลใด ๆ ที่พวกเขาต้องการที่จะได้รับ นอกจากนี้คนที่มีความรู้สึกของความเป็นส่วนตัวออนไลน์ไม่มี พวกเขาไม่ได้คิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับ tweeting ย้ายพวกเขาทำทุกอย่างอิสระให้ออกจากตำแหน่งของพวกเขาบน Google แผนที่และวางเรื่องราวในชีวิตของพวกเขาทั้งบน Facebook.
9 ระดับที่สูงขึ้นของการหลอกลวง
บนพลิกด้านของการมีความเป็นส่วนตัวไม่มีคนใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อหลอกลวงคนอื่น ๆ คนส่วนใหญ่ไม่ได้ขุดลึกเกินไปเมื่อทำค้นหาใครสักคนที่จะตรวจสอบพวกเขาออก โดยการสร้างโปรไฟล์ปลอมไม่กี่คนสามารถที่จะหลอกว่าเป็นคนใดคนหนึ่งที่พวกเขาต้องการ คนที่ถูก "catfished" ในเว็บไซต์หาคู่ นรกคุณอาจจะพูดคุยกับคนในสิบอันดับแรกของเอฟบีไอรายการที่ต้องการมากที่สุดและได้ตระหนักถึงมันจนกว่าคุณจะเห็นพวกเขาได้รับการจับในข่าว.
10 เหยความรู้สึกของความเป็นจริง
การใช้อินเทอร์เน็ตเป็นที่หลบหนีจากชีวิตจริงเป็นเรื่องง่ายมากที่จะทำ ในชีวิตจริงคุณจะพูดคุยกับคนไม่กี่คนในแต่ละวันไม่มี Photoshop หรือประจำตัวสำหรับการสะท้อนในกระจกของคุณจะต้องมีค่าใช้จ่ายและพูดสิ่ง smartass ขมวดคิ้ว อย่างไรก็ตามออนไลน์คุณเป็นดาวหินเลว! คุณมีพอ "เพื่อน" ในรูปแบบของประเทศขนาดเล็กที่คุณดูดีในภาพของคุณหรือคุณมี avatar kickass บวกคุณจะได้รับผลตอบแทนหรือคะแนนสำหรับการพูดสิ่งที่ฉลาด (มากขึ้นถ้าสิ่งที่ฉลาดก็ยังหมายถึงคะนอง) แต่น่าเสียดายที่เราต้องอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

7 . เพิ่มแกล้ง
ใช้เทคโนโลยีได้ก่อให้เกิดการเพิ่มขึ้นในการกลั่นแกล้งและทำให้ระดับของความรุนแรง เด็กจะไม่สามารถหนี tormentors ของพวกเขาเมื่อพวกเขาถึงความปลอดภัยของบ้านของตนเอง อันธพาลที่แทรกซึมเข้าไปในความปลอดภัยของเหยื่อของพวกเขาผ่านทางช่องทางออนไลน์มันยังง่ายต่อการรับเด็กเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการกลั่นแกล้ง เพราะคนเรามีแนวโน้มที่จะพูดสิ่งที่ออนไลน์ที่พวกเขาจะไม่พูดในคน เพิ่มกลั่นแกล้งไซเบอร์ยังได้นําไปเพิ่มในวัยรุ่นฆ่าตัวตาย .
8 ขาดความเป็นส่วนตัว
อินเทอร์เน็ตมีความเป็นส่วนตัวถูกปลดได้หายไปนานวันมีเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่แสดง และอยู่แบบออฟไลน์เพื่อเก็บข้อมูลของคุณปลอดภัยจาก prying ตา กับบางตวัดคีย์บอร์ดคนเฉลี่ยสามารถหาที่อยู่ของทุกคนและข้อมูลการติดต่อ สำหรับผู้ที่มีความตั้งใจมากกว่าน่ากลัว การใช้ฟิชชิ่ง , ไวรัสและการแฮ็คช่วยค้นหาข้อมูลใด ๆที่พวกเขาต้องการที่จะได้รับ บวกกับคนไม่มีความรู้สึกของความเป็นส่วนตัวออนไลน์ . พวกเขาไม่คิดว่าสองครั้งเกี่ยวกับ tweeting ย้ายทุก พวกเขาให้อิสระให้ตำแหน่งบนแผนที่ Google และเก็บเรื่องราวชีวิตของพวกเขาทั้งใน Facebook .
9 ระดับของการหลอกลวง
อีกด้านหนึ่งของมีความเป็นส่วนตัว ผู้คนใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อหลอกลวงผู้อื่น คนส่วนใหญ่ไม่ขุดลึกเกินไปเมื่อกำลังค้นหาใครสักคนเพื่อตรวจสอบพวกเขาออกโดยการสร้างโปรไฟล์ปลอม ไม่กี่ คน สามารถเป็นใครก็ได้ที่พวกเขาต้องการ คนถูก " catfished " ออกเดทเว็บไซต์ นรก , คุณสามารถพูดคุยกับบางคนในด้านบนสิบรายการของเอฟบีไอต้องการตัวมากที่สุด และไม่ตระหนักถึงมันจนกว่าคุณจะเห็นพวกเขาถูกจับในข่าว
10 เปลี่ยนความรู้สึกของความเป็นจริง
ใช้อินเทอร์เน็ตในการหลบหนีจากชีวิตที่แท้จริงเป็นเรื่องง่ายที่จะทำในชีวิตจริง คุณเพียง แต่พูดกับคนไม่กี่คนในแต่ละวัน ไม่มี Photoshop หรือ avatar เพื่อสะท้อนในกระจกของคุณ ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่าย และบอกว่า บ้าเรื่องขมวดคิ้ว อย่างไรก็ตาม ออนไลน์คุณเป็นร๊อคสตาร์เลย ! คุณมีเพื่อนพอ " " รูปแบบของประเทศเล็ก ๆ เธอดูดีมากเลยในรูปของคุณหรือคุณมีเกรียนโคตรอวตารบวกที่คุณได้รับรางวัล หรือ คะแนน พูดจาฉลาดมากขึ้น ( ถ้าสิ่งฉลาดที่ยังหมายถึงวิญญาณ ) แต่น่าเสียดายที่เราต้องอยู่ในโลกของความเป็นจริง ไม่ว่าเราจะชอบมันหรือไม่