top-and-go traffic is a frequently

top-and-go traffic is a frequently observed phenomenon in congested highway traffic, but it has not been accurately modeled in existing traffic models. Car-following models based on kinematic flow theory cannot model stop-and-go traffic. Other approach assumed traffic states deviating from the equilibrium curve in the fundamental diagram, and the transitions between them, but no explanation was provided on the reason for the existence of different states. There is a need to understand the mechanism of stop-and-go traffic in terms of generation, propaga-tion and dissipation in order to accurately model traffic dynamics. We propose an asymmetric traffic theory and explain the stop-and-go traffic phenomenon in light of the developed theory. The proposed theory is verified using individual vehicle trajectories from two freeway sites in California, US, collected as part of the Next Generation Simulation (NGSIM) project.1. Introduction Stop-and-go traffic is a frequently observed phenomenon in congested traffic and its understanding and modeling is important for modeling the formation and propagation of traffic jams and estimating congestion impacts. However, the mechanism of the generation and evolution of the stop-and-go traffic in time-space have not been well understood yet. This lack of understanding on traffic phenomenon is due to data limitations and theory deficiency. In order to reveal the detail mechanism of stop-and-go traffic, large quantities of microscopic data on individual vehicle trajectories on congested freeways are required. But, acquisition and analyses of sufficient amount of trajectory data is very expensive and time consuming. Recently, the NGSIM (Next Generation SIMulation, 2006) database became available which provides a unique opportunity to study microscopic driver behavior and develop improved traffic flow models grounded on experimental ob-servations. The traditional macroscopic traffic flow theory of LWR (Lighthill and Whitham 1955; Richards 1956) has shown good agreement with experimental ob-servations in congested traffic at a macroscopic level, but it cannot satisfactorily explain the mechanism of stop-and-go traffic. Recently, Nagel and Nelson (2005)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การจราจรด้านบน และไปเป็นปรากฏการณ์ที่พบบ่อยในหลวง congested แต่มันได้ไม่ได้อย่างถูกต้องจำลองในแบบจำลองการจราจรที่มีอยู่ รุ่นรถดังต่อไปนี้ตามทฤษฎีของไหลจลน์ไม่รุ่นจราจรหยุด และไป วิธีอื่น ๆ ถือว่าอเมริกาจราจร deviating จากเส้นโค้งสมดุลในไดอะแกรมพื้นฐาน และการเปลี่ยนระหว่างพวกเขา แต่ไม่อธิบายให้เหตุผลการดำรงอยู่ของรัฐต่าง ๆ ใน ไม่จำเป็นต้องเข้าใจกลไกของการจราจรหยุด และไปสร้าง propaga สเตรชัน และกระจายในสั่งการ dynamics จราจรแบบจำลองได้อย่างถูกต้อง เราเสนอทฤษฎีการจราจร asymmetric และอธิบายปรากฏการณ์การจราจรหยุด และไปเมื่อทฤษฎีพัฒนา ทฤษฎีที่เสนอคือตรวจสอบการใช้ยานพาหนะแต่ละ trajectories จากสองฟรีเวย์ไซต์ในแคลิฟอร์เนีย เรารวบรวมไว้เป็นส่วนหนึ่งของ project.1 จำลองรุ่นถัดไป (NGSIM) การจราจรหยุด และไปแนะนำเป็นปรากฏการณ์ที่พบบ่อยในการเข้าชม congested และความเข้าใจ และสร้างโมเดลมีความสำคัญต่อการกำเนิดและการแพร่กระจายของการจราจรติดขัดในการสร้างโมเดล และการประเมินผลกระทบที่แออัด อย่างไรก็ตาม กลไกของการสร้างและวิวัฒนาการของการจราจรหยุด และไปในเวลาว่างมีไม่ถูกดีเข้าใจได้ การขาดความเข้าใจในปรากฏการณ์ทางจราจรถูกจำกัดข้อมูลและทฤษฎีขาด ข้อมูลกล้องจุลทรรศน์บนยานพาหนะแต่ละ trajectories บน congested freeways จำนวนมากไม่จำเป็นเพื่อเปิดเผยกลไกรายละเอียดของการหยุด และไปจราจร แต่ วิเคราะห์ข้อมูลวิถีจำนวนเพียงพอและซื้อเป็นราคาแพงมาก และใช้เวลานาน ล่าสุด NGSIM (ถัดไปสร้างการจำลอง 2006) เป็นฐานข้อมูลว่างที่ให้โอกาสที่จะศึกษาลักษณะการทำงานของโปรแกรมควบคุมด้วยกล้องจุลทรรศน์ และพัฒนาแบบจำลองกระแสจราจรปรับปรุงสูตรใน ob servations ทดลอง ทฤษฎีกระแสจราจรแบบ macroscopic LWR (Lighthill และ Whitham 1955 ริชาร์ด 1956) ได้แสดงข้อตกลงที่ดีกับ ob servations ทดลองในแออัดการจราจรในระดับ macroscopic แต่มันไม่ผ่านอธิบายกลไกของการจราจรหยุด และไป ล่าสุด Nagel และเนลสัน (2005)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ด้านบนและไปเข้าชมเป็นปรากฏการณ์ที่สังเกตเห็นบ่อยครั้งในการจราจรทางหลวงแออัด แต่ก็ยังไม่ได้รับการสร้างแบบจำลองในรูปแบบที่ถูกต้องจราจรที่มีอยู่ รถรุ่นดังต่อไปนี้บนพื้นฐานของทฤษฎีการไหลจลนศาสตร์ไม่สามารถจำลองหยุดและไปเข้าชม วิธีการอื่น ๆ สันนิษฐานว่ารัฐจราจรเบี่ยงเบนไปจากเส้นโค้งสมดุลในแผนภาพพื้นฐานและการเปลี่ยนระหว่างพวกเขา แต่ไม่มีคำอธิบายที่ถูกจัดให้อยู่กับเหตุผลสำหรับการดำรงอยู่ของรัฐที่แตกต่างกัน มีความจำเป็นที่จะเข้าใจกลไกของการหยุดและการเดินทางการจราจรในแง่ของรุ่น propaga-และการกระจายเพื่อให้ถูกต้องการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจราจรเป็น เราเสนอทฤษฎีการจราจรไม่สมมาตรและอธิบายหยุดและไปปรากฏการณ์การจราจรในแง่ของทฤษฎีการพัฒนา ทฤษฎีที่นำเสนอมีการยืนยันการใช้ไบร์ทรถบุคคลจากสองเว็บไซต์ฟรีเวย์ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐที่เก็บรวบรวมเป็นส่วนหนึ่งของการจำลองรุ่นต่อไป (NGSIM) project.1 บทนำหยุดและไปเข้าชมเป็นปรากฏการณ์ที่สังเกตเห็นบ่อยครั้งในการจราจรแออัดและความเข้าใจและการสร้างแบบจำลองของมันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างแบบจำลองการสร้างและการขยายพันธุ์ของการจราจรติดขัดและการประเมินผลกระทบต่อความแออัด แต่กลไกของการสร้างและการวิวัฒนาการของหยุดและการเดินทางเข้าชมในเวลาพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับยังไม่เข้าใจกันดี การขาดความเข้าใจเกี่ยวกับปรากฏการณ์การจราจรเพราะนี่คือข้อ จำกัด ของข้อมูลและการขาดทฤษฎี เพื่อที่จะเปิดเผยรายละเอียดของกลไกการหยุดและไปการจราจรข้อมูลจำนวนมากด้วยกล้องจุลทรรศน์ในลูกทีมของแต่ละบุคคลรถบนทางด่วนจะต้องแออัด แต่การเข้าซื้อกิจการและการวิเคราะห์ของจำนวนเงินที่เพียงพอของข้อมูลเส้นทางการเคลื่อนที่มีราคาแพงมากและใช้เวลานาน เมื่อเร็ว ๆ นี้ NGSIM (รุ่นถัดไปจำลอง, 2006) ฐานข้อมูลกลายเป็นใช้ได้ซึ่งมีโอกาสที่จะศึกษาพฤติกรรมของคนขับด้วยกล้องจุลทรรศน์และการพัฒนารูปแบบการจราจรที่ดีขึ้นอยู่บนการทดลองอบ-servations ทฤษฎีการจราจรเปล่าแบบดั้งเดิมของ LWR (Lighthill และ Whitham 1955; ริชาร์ด 1956) ได้แสดงให้เห็นข้อตกลงที่ดีกับการทดลองอบ-servations ในการจราจรแออัดในระดับมหภาค แต่มันไม่สามารถอธิบายที่น่าพอใจกลไกของการหยุดและไปเข้าชม เมื่อเร็ว ๆ นี้และแจคกี้เนลสัน (2005)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บนและไปเข้าชมเป็นบ่อยๆ สังเกตปรากฏการณ์ในการจราจรบนทางหลวงที่แออัด แต่ก็ยังไม่แม่นแบบในการจราจรแบบที่มีอยู่ รถตามรุ่น ตามแบบจำลองทฤษฎีจลน์ไม่ได้ไหลหยุด และไปชม วิธีการอื่น ๆถือว่าการจราจรรัฐเบี่ยงเบนออกจากดุลยภาพเส้นโค้งในแผนภาพพื้นฐาน และช่วงการเปลี่ยนภาพระหว่างพวกเขาแต่ไม่มีคำอธิบายให้เหตุผลสำหรับการดำรงอยู่ของรัฐที่แตกต่างกัน มีความต้องการที่จะเข้าใจกลไกการหยุด และไปชมในแง่ของรุ่น propaga tion และความร้อนเพื่อให้ถูกต้องแบบพลวัตของการจราจร เราเสนอทฤษฎีการจราจรไม่สมมาตร และอธิบายและหยุดไปชมปรากฏการณ์ในแง่ของการพัฒนาทฤษฎีได้เสนอทฤษฎีคือการตรวจสอบการใช้รถแต่ละวิถีจากทางด่วน 2 จุด ใน แคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ รวบรวมเป็นส่วนหนึ่งของจำลองรุ่นถัดไป ( ngsim ) โครงการ 1 .บทนำและหยุดไปจราจรเป็นบ่อย สังเกตปรากฏการณ์ในการจราจรแออัดและความเข้าใจและแบบจำลองของสำคัญและประเมินผลกระทบความแออัดแบบการสร้างและการเผยแพร่ของการจราจรติดขัด อย่างไรก็ตาม กลไกของการสร้างและการวิวัฒนาการของการจราจรในเวลาหยุดและไปไม่ได้เข้าใจได้ดีเลยครับขาดความเข้าใจในปรากฏการณ์การจราจรเนื่องจากข้อ จำกัด ของข้อมูลและขาดทฤษฎี เพื่อเปิดเผยรายละเอียดของกลไกการหยุดและไปการจราจรขนาดใหญ่ปริมาณของข้อมูลในแต่ละวิถีทางรถแออัดทางด่วนจะต้อง แต่ การได้มาและวิเคราะห์ปริมาณที่เพียงพอของข้อมูลเส้นทางที่แพงมาก และเสียเวลา เมื่อเร็วๆ นี้การ ngsim ( รุ่นถัดไปจำลอง , 2006 ) ฐานข้อมูลเป็นใช้ได้ ซึ่งมีโอกาสที่จะศึกษาพฤติกรรมคนขับกล้องจุลทรรศน์และการพัฒนาปรับปรุงการไหลของการจราจรใน servations OB ในรุ่นทดลอง แบบการไหลของการจราจรทางทฤษฎีและ lwr ( lighthill วิเทิ่ม 1955 ;ริชาร์ด 1956 ) ได้แสดงดี ข้อตกลงกับ โอบี servations การจราจรแออัดในการทดลองในระดับที่มองเห็นด้วยตาเปล่า แต่มันไม่สามารถอธิบายกลไกต่างๆของหยุด และไปชม เมื่อเร็วๆ นี้ นาเกล และเนลสัน ( 2005 )