3.1. Effect of carrot matrix and pi

3.1. Effect of carrot matrix and piece position on endogenous enzyme
activity
The initial temperature of carrot samples (carrot mash and carrot
pieces) and treatment medium (phosphate buffer) was standardised
by pre-conditioning at 10 °C to attain an isothermal condition prior to
PEF treatment. In this study, PEF treatments were conducted at temperatures
below 25 °C to ensure the final temperature of carrots and medium
after treated with PEF at varying pulse frequencies did not exceed
25 °C. The results have shown that both the semi-solid (carrot mash)
and solid (carrot pieces) food matrices resulted in different effects on
AAO and POD inactivation. It was found that carrot mash (semi-solid
matrix) had higher residual AAO and POD activity (20 to 30% increment)
as compared to intact carrot pieces (solid matrix) when treated
with an electric field strength of 0.8 kV/cm and specific energy input
of less than 50 kJ/kg (Fig. 2). Previous work on PEF-treated apple and
orange juice has also shown increase in polyphenoloxidase and
pectinmethylestease activity, respectively (Van Loey, Verachtert, &
Hendrickx, 2002). The activation of enzyme activity is probably due to
cell permeabilisation effect of PEF that release intracellular or “free” enzymes
to the liquid portion (juice and phosphate buffer); thus lead to
increase in residual enzyme activity detected in carrot mash sample.
Consequently, most of the endogenous enzymes in the semi-solid matrix
(carrot mash) system would be easily extracted due to enhancement
of PEF-induced electroporation. This phenomenon was not
observed with carrot pieces. Treating the whole carrot could have limits
or protects the release of enzymes, possibly due to high cellular integrity.
Additionally, the lower conductivity of the solid carrot pieces of approximately
b 1 mS/cm (Palaniappan & Sastry, 1991) has hindered
the charged molecules to conduct the applied pulse electric current
within the rigid cell walls. Thus the energy input applied on carrot
pieces will give less impact on plant cells and enzymes due to higher
resistance. A contradictory phenomenon was observed when PEF treatment
was applied to carrot mash system due to higher conductivity of
approximately 7.8 mS/cm surrounding the suspended plant cells.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3.1. ผลของแครอทเมตริกซ์และชิ้นส่วนตำแหน่งบนเอนไซม์ endogenousกิจกรรมอุณหภูมิเริ่มต้นอย่างแครอท (ผสมแครอทและแครอทชิ้น และรักษาปานกลาง (ฟอสเฟตบัฟเฟอร์) เป็นแบบโดยปรับที่ 10 ° C ก่อนจะบรรลุเงื่อนไขการ isothermal ก่อนรักษา PEF ในการศึกษานี้ รักษา PEF ได้ดำเนินการที่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 ° C เพื่อให้อุณหภูมิสุดท้ายของแครอทและกลางหลังจากรักษา ด้วย PEF ที่ชีพจรความถี่ที่แตกต่างกัน ไม่เกิน25 องศาเซลเซียส ผลลัพธ์ได้แสดงที่ทั้งแบบกึ่งของแข็ง (ผสมแครอท)และเมทริกซ์ผลในลักษณะพิเศษที่แตกต่างกันบนอาหารแข็ง (แครอทชิ้น)AAO และฝักยกเลิกการเรียก พบว่าผสมแครอท (กึ่งของแข็งเมตริกซ์) มีราคาสูงเหลือ AAO และฝักกิจกรรม (เพิ่มขึ้น 20-30%)เมื่อเทียบกับชิ้นแครอทเหมือนเดิม (เมทริกซ์แข็ง) เมื่อรับการรักษาด้วยความแรงสนามไฟฟ้าเป็น 0.8 kV/cm และเฉพาะพลังงานที่ป้อนของน้อยกว่า 50 kJ/kg (Fig. 2) แอปเปิ้ลถือว่า PEF งานก่อนหน้า และน้ำส้มได้แสดงขึ้นใน polyphenoloxidase และกิจกรรม pectinmethylestease ตามลำดับ (เลยรถตู้ Verachtert, &Hendrickx, 2002) การเรียกใช้ของเอนไซม์อาจเป็นเนื่องผล permeabilisation เซลล์ของ PEF ที่ปล่อยเอนไซม์ intracellular หรือ "ฟรี"กับส่วนของเหลว (น้ำและฟอสเฟตบัฟเฟอร์); จึง ทำให้เพิ่มเอนไซม์ที่เหลือที่ตรวจพบในตัวอย่างผสมแครอทดังนั้น ส่วนใหญ่เอนไซม์ endogenous ในเมตริกซ์กึ่งแข็ง(ผสมแครอท) ระบบจะถูกแยกได้เนื่องจากการปรับปรุงของ PEF เกิด electroporation ปรากฏการณ์นี้ไม่สังเกต ด้วยแครอทชิ้น รักษาแครอททั้งไม่มีขีดจำกัดหรือปกป้องของเอนไซม์ อาจเป็นเพราะความสมบูรณ์ของเซลล์สูงขึ้นนอกจากนี้ นำล่างชิ้นแครอทแข็งของประมาณบี 1 mS/cm (คณะ & Sastry, 1991) มีผู้ที่ขัดขวางโมเลกุลที่คิดค่าธรรมเนียมการใช้พัลส์ไฟฟ้าปัจจุบันภายในผนังเซลล์ที่แข็ง ดังนั้น การป้อนพลังงานใช้กับแครอทชิ้นจะให้ผลกระทบน้อยกว่าเซลล์พืชและเอนไซม์เนื่องสูงต้านทาน ปรากฏการณ์ความขัดแย้งถูกสังเกตเมื่อรักษา PEFใช้ระบบผสมแครอทเนื่องจากนำสูงของประมาณ 7.8 mS/cm รอบเซลล์พืชระงับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3.1 ผลของเมทริกซ์แครอทและตำแหน่งชิ้นเอนไซม์ภายนอกกิจกรรมอุณหภูมิเริ่มต้นของตัวอย่างแครอท(บดแครอทแครอทชิ้น) กลางและขนาดย่อมรักษา (ฟอสเฟตบัฟเฟอร์) เป็นมาตรฐานโดยก่อนปรับอากาศที่10 องศาเซลเซียสเพื่อให้บรรลุเงื่อนไข isothermal ก่อนที่จะมีการรักษาPEF . ในการศึกษานี้การรักษา PEF ได้ดำเนินการที่อุณหภูมิต่ำกว่า25 องศาเซลเซียสเพื่อให้แน่ใจว่าอุณหภูมิสุดท้ายของแครอทและกลางหลังรับการรักษาด้วยPEF ที่แตกต่างกันชีพจรความถี่ไม่เกิน25 ° C ผลที่ได้แสดงให้เห็นว่าทั้งกึ่งของแข็ง (บดแครอท) และของแข็ง (ชิ้นแครอท) การฝึกอบรมอาหารส่งผลให้เกิดผลกระทบที่แตกต่างกันในAAO และใช้งาน POD มันก็พบว่าบดแครอท (กึ่งของแข็งเมทริกซ์) มี AAO ที่เหลือที่สูงขึ้นและกิจกรรม POD (20-30% เพิ่มขึ้น) เมื่อเทียบกับชิ้นแครอทเหมือนเดิม (เมทริกซ์แข็ง) เมื่อได้รับการรักษาด้วยความแรงของสนามไฟฟ้า0.8 kV / cm และเฉพาะเจาะจง เข้าพลังงานน้อยกว่า50 กิโลจูล / กิโลกรัม (รูปที่. 2) การทำงานก่อนหน้านี้แอปเปิ้ล PEF รับการรักษาและน้ำส้มยังได้แสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นของพอลีฟีนและกิจกรรมpectinmethylestease ตามลำดับ (Van เลย, Verachtert และHendrickx, 2002) กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์อาจจะเกิดจากการที่เซลล์ permeabilisation ผลของ PEF ที่ปล่อยเซลล์หรือ "ฟรี" เอนไซม์ในส่วนที่เป็นของเหลว(น้ำผลไม้และฟอสเฟตบัฟเฟอร์); จึงนำไปสู่การเพิ่มขึ้นในการทำงานของเอนไซม์ที่เหลือตรวจพบในตัวอย่างบดแครอท. ดังนั้นส่วนใหญ่ของเอนไซม์ภายนอกในเมทริกซ์กึ่งของแข็ง(บดแครอท) ระบบจะถูกสกัดได้ง่ายเนื่องจากการเพิ่มประสิทธิภาพของelectroporation PEF ที่เกิดขึ้น ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้ถูกตั้งข้อสังเกตที่มีชิ้นแครอท การรักษาแครอททั้งอาจมีข้อ จำกัดหรือปกป้องการเปิดตัวของเอนไซม์ที่อาจจะเป็นเพราะความสมบูรณ์ของโทรศัพท์มือถือสูง. นอกจากนี้การนำล่างของชิ้นแครอทของแข็งประมาณข 1 mS / cm (Palaniappan และ Sastry 1991) ได้ขัดขวางโมเลกุลเรียกเก็บเพื่อดำเนินการชีพจรใช้กระแสไฟฟ้าภายในผนังเซลล์แข็ง ดังนั้นพลังงานที่ใช้ในแครอทชิ้นจะให้ผลกระทบน้อยลงในเซลล์พืชและเอนไซม์ที่สูงขึ้นอันเนื่องมาจากความต้านทาน ปรากฏการณ์ขัดแย้งพบว่าเมื่อรักษา PEF ถูกนำไปใช้กับระบบบดแครอทเนื่องจากการสูงขึ้นของการนำประมาณ 7.8 mS / cm รอบเซลล์พืชที่ถูกระงับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3.1 . ผลของแมทริกซ์และแครอทชิ้นตำแหน่งเอนไซม์

ภายในอุณหภูมิเริ่มต้นของตัวอย่างแครอท ( แครอทบดแครอท
ชิ้น ) และสื่อการรักษา ( ฟอสเฟตบัฟเฟอร์ ) คือมาตรฐาน
โดยก่อนปรับ 10 ° C เพื่อให้บรรลุเงื่อนไขอุณหภูมิก่อน
PEF รักษา ในการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาอุณหภูมิ
PEFด้านล่าง 25 ° C เพื่อให้แน่ใจว่าอุณหภูมิสุดท้ายของแครอทขนาดกลาง
หลังการใช้ PEF พัลส์ความถี่ที่แตกต่างกันไม่เกิน
25 องศา พบว่า ทั้งกึ่งแข็ง ( บดแครอท )
และของแข็ง ( แครอท ) เมทริกซ์อาหารก่อให้เกิดผลที่แตกต่างกันบน
aao และฝักใช้งาน . พบว่า มันบด แครอท
( กึ่งแข็งเมทริกซ์ ) ได้สูงกว่าส่วนที่เหลือ aao และฝักกิจกรรม ( 20 ถึง 30% เพิ่ม )
เมื่อเทียบกับแครอทชิ้นเหมือนเดิมของแข็ง ( Matrix ) เมื่อปฏิบัติ
ด้วยสนามไฟฟ้าแรง 0.8 กิโล / ซม. เฉพาะพลังงานใส่
น้อยกว่า 50 kJ / kg ( รูปที่ 2 ) ผลงานที่ผ่านมาใน PEF ถือว่า Apple และ
น้ำส้มได้แสดงเพิ่มขึ้นในโพลีฟีนอลอ ซิเดสและ
กิจกรรม pectinmethylestease ตามลำดับเลย ( รถตู้ ,verachtert &
, เฮนดริก , 2002 ) การกระตุ้นกิจกรรมของเอนไซม์อาจเนื่องจาก
เซลล์ permeabilisation ผลของ PEF ปล่อยภายในหรือ " ฟรี " เอนไซม์
กับส่วนของเหลว ( น้ำและฟอสเฟตบัฟเฟอร์ ) ; จึงนำไปสู่
เพิ่มเอนไซม์ที่เหลือที่ตรวจพบในตัวอย่างบดแครอท
ดังนั้นส่วนใหญ่ของเอนไซม์ที่พบใน
เมตริกซ์กึ่งแข็ง( มันบด แครอท ) ระบบจะสามารถสกัดได้ง่ายเนื่องจากการกระตุ้นของ PEF electroporation
. ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้
สังเกตกับชิ้นแครอท รักษาแครอททั้งหมดอาจมีขีดจํากัด
หรือปกป้องปล่อยเอนไซม์ อาจเนื่องจากความสมบูรณ์สูงมือถือ .
นอกจากนี้ ราคา conductivity ของของแข็งชิ้นแครอทประมาณ
b 1 mS / cm ( & sastry พาลาเนียบพัน ,1991 ) ได้ถูกขัดขวาง
ประจุโมเลกุลที่จะนำใช้ชีพจรไฟฟ้าปัจจุบัน
ภายในผนังเซลล์แข็ง ดังนั้นค่าพลังงานที่ใช้ในชิ้นแครอท
จะให้ผลน้อยกว่าในเซลล์พืช และ เอนไซม์ เนื่องจากความต้านทานสูง

ปรากฏการณ์ขัดแย้ง สังเกตการใช้ PEF เมื่อ
แครอทบดระบบเนื่องจากสูงกว่าค่า
ประมาณ 78 ms / cm รอบระงับเซลล์พืช .