Meanwhile the Dutch shamelessly exp

Meanwhile the Dutch shamelessly exploited the Indonesians. In 1830 the Dutch introduced the Kultuurstelsel (cultural system). Indonesian farmers were forced to put aside 20% of their land to grow crops for export. They were paid only a nominal sum by the Dutch government for them. Indonesians were forced to grow coffee, indigo, tea, pepper, cinnamon and sugar. As a result of this measure rice production was reduced.

However in 1870 the Dutch switched to a free market system. The Dutch governments monopoly on sugar and other commodities was ended. Private plantations were created. However the Indonesians were not necessarily better off. Now they were employed as coolies on the great plantations.

In the early 20th century the Dutch decided to treat the Indonesians more fairly. They introduced what they called the ethical policy. This meant building schools and spending money on health care, sanitation and irrigation. However the new policy had little effect on the lives of most Indonesians.

It did however mean that a least some Indonesians became highly educated and familiar with western ideas such as liberalism and socialism. As a result in the early 20th century nationalist movements were formed in Indonesia. They began clamouring for independence.

Then in 1940 the Germans occupied Holland. In 1942 the Japanese invaded Indonesia. The last Dutch troops surrendered on 8 March 1942. At first the Indonesians welcomed the Japanese as liberators. However they soon grew disillusioned. The Japanese were brutal and they ruthlessly exploited Indonesia's resources.

Yet when the Japanese were losing the war they started to favour Indonesian independence, hoping to make the Indonesians their allies.

Japan surrendered on 15 August 1945. Young Indonesian nationalists were determined to assert the countries independence before the Dutch could return. A group of them kidnapped two nationalist leaders Sukarno and Hatta. On 17 August Sukarno declared Indonesian independence. He became the first president and Hatta became vice-president.

However the Dutch were not willing to let Indonesia go so easily. At first British troops landed in Indonesia. They tried to remain neutral although there were armed clashes between the British and Indonesians in places.

However by November 1946 the British were gone and the Dutch had landed many men in Indonesia. In November the Indonesians and Dutch signed the Linggajati agreement. The Dutch recognized the new republic, but only in Java and Sumatra. They still claimed the rest of Indonesia. Furthermore the agreement stated that the republic would join a federal union with Holland in 1949.

Not surprisingly neither side were happy with the agreement. The Dutch built up their strength in an attempt to retake all of Indonesia. In the summer of 1947 they invaded the independent areas. However they were forced to withdraw, partly because of Indonesian resistance and partly because of strong international condemnation (especially by the USA).

In December 1948 the Dutch tried to retake Indonesia. This time the Indonesians turned to guerrilla warfare and they were successful. The Dutch faced strong condemnation from powers like the USA and they realized they could not win the war. Finally on 2 November 1949 the Dutch agreed to recognize Indonesian independence. Their troops withdrew in December 1949.

MODERN INDONESIA

At first independent Indonesia was a parliamentary democracy. However in February 1957 President Sukarno introduced a new political system, which he called 'Guided Democracy'. The power of parliament was reduced and his own power was greatly increased. His opponents formed a separate 'parliament' called the PRRC (the Revolutionary Government of the Republic of Indonesia). However the army remained loyal to Sukarno and he stayed in power.

Meanwhile in October 1957 the army took over the remaining Dutch companies in Indonesia. As a result the army grew wealthy.

Then in the early 1960s the economy faltered. There was very rapid inflation.

In September 1965 the Communists attempted a coup in Indonesia. They murdered a number of generals. They also seized strategic points in Jakarta. However General Suharto quickly took action. The coup was crushed. Suharto was granted powers by President Sukarno to restore order. After the coup Suharto arrested and executed a large number of communists.

However Sukarno lost support and on 11 March 1966 he signed over his presidential powers to Suharto. From 1966 Suharto ruled as a dictator (although there were elections held every five years democracy was a facade). However Suharto brought stability and under him the economy of Indonesia recovered.

From the 1960s reserves of oil in Indonesia were exploited. After 1973 Indonesians benefited from the high price of oil. Agriculture also became far more productive.

However most Indonesians remained poor and in 1997 Indonesia was hit by a financial crisis. As a result the economy contracted. Ind

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในขณะเดียวกัน ชาวดัตช์ shamelessly ติดที่อินโดนีเซีย ใน 1830 นำ Kultuurstelsel (ระบบวัฒนธรรม) ชาวอินโดนีเซียที่ถูกบังคับให้วางทิ้งไว้ 20% ของที่ดินปลูกพืชสำหรับการส่งออก พวกเขาชำระเงินผลรวมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยรัฐบาลดัตช์สำหรับพวกเขา อินโดนีเซียถูกบังคับให้ปลูกกาแฟ indigo ชา พริกไทย อบเชย และน้ำตาล ข้าววัดนี้ผล ผลิตลดลงอย่างไรก็ตาม ในค.ศ. 1870 ดัตช์สลับกับระบบตลาดเสรี สิ้นสุดการผูกขาดรัฐบาลดัตช์ในน้ำตาลและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ สร้างสวนส่วนตัว อย่างไรก็ตาม อินโดนีเซียที่ถูกไม่จำเป็นต้องดีกว่า ตอนนี้ พวกเขาถูกจ้างเป็น coolies ในสวนดีในต้นศตวรรษที่ 20 ชาวดัตช์ตัดสินใจในการรักษาชาวที่ค่อนข้างมาก พวกเขานำสิ่งที่พวกเขาเรียกว่านโยบายจริยธรรม นี้หมายถึง การสร้างโรงเรียนและใช้จ่ายเงินในการดูแลสุขภาพ สุขาภิบาล และชลประทาน อย่างไรก็ตาม นโยบายใหม่มีผลเพียงเล็กน้อยในชีวิตของอินโดนีเซียส่วนใหญ่ไม่แต่หมายความ ว่า มีน้อยบางอินโดนีเซียกลายเป็นคุ้นเคยกับความคิดตะวันตกเช่นเสรีนิยมและสังคมนิยม และมีการศึกษาสูง ดังนั้น ในต้นศตวรรษที่ 20 ชาตินิยมเคลื่อนไหวได้เกิดขึ้นในอินโดนีเซีย พวกเขาเริ่ม clamouring อิสระที่เหมาะสมจากนั้น ในปี 1940 เยอรมันครอบครองฮอลแลนด์ ในปี 1942 ญี่ปุ่นบุกอินโดนีเซีย กองทหารดัตช์ครั้งสุดท้ายราวบน 8 1942 มีนาคม ครั้งแรก ที่ชาวญี่ปุ่นเป็น liberators รับการต้อนรับ อย่างไรก็ตาม เร็ว ๆ นี้เรื่อย ๆ disillusioned ญี่ปุ่นไม่ได้โหดร้าย และโหดเหี้ยมที่พวกเขาใช้ประโยชน์ทรัพยากรของอินโดนีเซียแต่ เมื่อญี่ปุ่นกำลังสูญเสียในสงครามที่พวกเขาเริ่มจะชอบเอกราชอินโดนีเซีย หวังว่าจะได้ที่ชาวพันธมิตรของพวกเขาญี่ปุ่นยอมแพ้ในวันที่ 15 สิงหาคมค.ศ. 1945 หนุ่มนักชาตินิยมอินโดนีเซียกำหนดยืนยันเอกราชประเทศก่อนที่ชาวดัตช์สามารถกลับได้ กลุ่มของพวกเขาลักพาตัวผู้นำชาตินิยมสองซูการ์โนและฮัตตา 17 สิงหาคม ซูการ์โนประกาศเอกราชของอินโดนีเซีย เขาได้กลายเป็นประธานาธิบดี และฮัตตาเป็น รองประธานอย่างไรก็ตาม ชาวดัตช์ก็ไม่ยินดีที่จะให้อินโดนีเซียไปได้ ที่ทหารอังกฤษครั้งแรกในอินโดนีเซีย พวกเขาพยายามที่จะอยู่เป็นกลางแม้ว่าจะมีอาวุธปะทะกันระหว่างอังกฤษและอินโดนีเซียในสถานอย่างไรก็ตาม โดย 1946 พฤศจิกายน อังกฤษได้หายไป และดัตช์มีที่ดินที่ผู้ชายหลายคนในอินโดนีเซีย ในพฤศจิกายน ชาวและดัตช์ลงนามข้อตกลง Linggajati ชาวดัตช์ยอมรับสาธารณรัฐใหม่ แต่ในชวาและสุมาตรา นอกจากนี้พวกเขายังอ้างว่า ส่วนเหลือของอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ข้อตกลงระบุว่า ประเทศจะเข้าร่วมสหภาพสหพันธ์กับฮอลแลนด์ในปี 1949ไม่น่าแปลกใจไม่มีความสุขกับข้อตกลง ชาวดัตช์สร้างความแข็งแรงของพวกเขาในความพยายามที่ซ่อมของอินโดนีเซียทั้งหมด ในฤดูร้อนของ พวกเขาบุกพื้นที่อิสระ อย่างไรก็ตาม พวกเขาถูกบังคับให้ถอน ส่วนหนึ่งเนื่อง จากความต้านทานที่อินโดนีเซีย และบางส่วน เพราะลงโทษประเทศที่แข็งแกร่ง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกา)ธันวาคม 1948 พยายามซ่อมอินโดนีเซียดัตช์ ขณะนี้อินโดนีเซียที่กลายเป็นกองโจรสงครามและพวกเขาประสบความสำเร็จ ชาวดัตช์ต้องเผชิญกับการลงโทษที่แข็งแกร่งจากอำนาจเช่นสหรัฐอเมริกา และพวกเขาตระหนักว่า พวกเขาไม่สามารถชนะสงคราม สุดท้าย บน 2 1949 พฤศจิกายน ดัตช์ยอมรับรู้จักเอกราชอินโดนีเซีย กองทัพถอนตัวใน 1949 ธันวาคมอินโดนีเซียที่ทันสมัยที่อินโดนีเซียอิสระแรกถูกประชาธิปไตยรัฐสภา อย่างไรก็ตาม ใน 1957 กุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีซูการ์โนแนะนำทางการเมืองระบบใหม่ ซึ่งเขาเรียกว่า 'แนะนำประชาธิปไตย' ลดลงอำนาจของรัฐสภา และอำนาจของเขาเองเพิ่มขึ้นอย่างมาก คู่แข่งของเขาเกิดขึ้นแยกต่างหาก 'รัฐสภา' เรียกว่า PRRC (รัฐบาลปฏิวัติของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย) อย่างไรก็ตามกองทัพยังคงภักดีกับซูการ์โน และเขาอยู่ในอำนาจในขณะเดียวกันในปี 1957 ตุลาคม กองทัพมาบริษัทดัตช์ที่เหลืออยู่ในอินโดนีเซีย ดังนั้น กองทัพเติบโตร่ำรวยจากนั้น ในช่วงต้นทศวรรษ 1960 เศรษฐกิจพูดตะกุกตะกัก มีเงินเฟ้ออย่างรวดเร็วมากใน 1965 กันยายน คอมมิวนิสต์พยายามรัฐประหารในประเทศอินโดนีเซีย พวกเขาฆ่าจำนวนนายพล นอกจากนี้พวกเขายังยึดจุดยุทธศาสตร์ในจาการ์ตา อย่างไรก็ตาม ซูฮาร์โตทั่วไปอย่างรวดเร็วเอาการกระทำ การรัฐประหารถูกบด ซูฮาร์โตได้รับอำนาจ โดยประธานาธิบดีซูการ์โนเพื่อ หลังจากการรัฐประหาร ซูฮาร์โตถูกจับกุม และดำเนินการของคอมมิวนิสต์อย่างไรก็ตามซูการ์โนหายไปสนับสนุน และบน 11 1966 มีนาคม เขาลงนามไปพลังของเขาประธานาธิบดีซูฮาร์โต จาก 1966 ซูฮาร์โตปกครองเป็นผู้ชี้ขาด (แม้ว่าจะมี การเลือกตั้งจัดขึ้นทุก ๆ ห้าปีประชาธิปไตยเป็นแบบ) อย่างไรก็ตามซูฮาร์โตนำความมั่นคง และภายใต้เขา กู้เศรษฐกิจของอินโดนีเซียปริมาณสำรองน้ำมันในอินโดนีเซียได้ใช้ประโยชน์จากปี 1960 หลังจากปีค.ศ. 1973 อินโดนีเซียได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันสูง การเกษตรก็กลายเป็นมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างไรก็ตามอินโดนีเซียส่วนใหญ่ยังคงยากจน และในปี 1997 อินโดนีเซียประสบวิกฤตทางการเงิน ดังนั้น เศรษฐกิจทำสัญญา Ind

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในขณะเดียวกันชาวดัตช์ลงคอเอาเปรียบอินโดนีเซีย ใน 1830 ดัตช์แนะนำ Kultuurstelsel (ระบบทางวัฒนธรรม) เกษตรกรอินโดนีเซียถูกบังคับให้ใส่กัน 20% ของที่ดินของพวกเขาเพื่อปลูกพืชเพื่อการส่งออก พวกเขาได้รับเงินเพียงเล็กน้อยรวมโดยรัฐบาลดัตช์สำหรับพวกเขา อินโดนีเซียจะถูกบังคับให้เติบโตฟฟี่ช็อป, คราม, ชา, พริกไทยอบเชยและน้ำตาล อันเป็นผลมาจากการผลิตข้าววัดนี้ก็ลดลง.

อย่างไรก็ตามในปี 1870 ชาวดัตช์เปลี่ยนไปเป็นระบบตลาดเสรี รัฐบาลดัตช์ผูกขาดในน้ำตาลและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ก็จบลง สวนส่วนตัวที่ถูกสร้างขึ้น อย่างไรก็ตามอินโดนีเซียไม่จำเป็นต้องดีกว่า ตอนนี้พวกเขาได้รับการว่าจ้างให้เป็น coolies ในพื้นที่เพาะปลูกที่ดี.

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ชาวดัตช์ตัดสินใจที่จะรักษาอินโดนีเซียเป็นธรรมมากขึ้น พวกเขาแนะนำให้รู้จักกับสิ่งที่พวกเขาเรียกว่านโยบายจริยธรรม นี่หมายความว่าอาคารเรียนและการใช้จ่ายเงินในการดูแลสุขภาพอนามัยและการชลประทาน อย่างไรก็ตามนโยบายใหม่มีผลเพียงเล็กน้อยต่อชีวิตของชาวอินโดนีเซียมากที่สุด.

อย่างไรก็ตามมันก็หมายความว่าอย่างน้อยบางส่วนอินโดนีเซียกลายเป็นอย่างสูงที่มีการศึกษาและมีความคุ้นเคยกับความคิดตะวันตกเช่นเสรีนิยมและสังคมนิยม ผลที่ตามมาในศตวรรษที่ 20 ต้นขบวนการชาตินิยมกำลังก่อตัวขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย พวกเขาเริ่มเรียกร้องความเป็นอิสระ.

จากนั้นในปี 1940 ที่เยอรมันยึดครองฮอลแลนด์ ในปี 1942 ญี่ปุ่นบุกอินโดนีเซีย ทหารดัตช์สุดท้ายยอมจำนนที่ 8 มีนาคม 1942 ในตอนแรกอินโดนีเซียยินดีญี่ปุ่นรวมหัว แต่ไม่ช้าพวกเขาเริ่มสนใจ ญี่ปุ่นโหดร้ายและพวกเขาโหดเหี้ยมใช้ประโยชน์ทรัพยากรของอินโดนีเซีย.

แต่เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงครามพวกเขาเริ่มที่จะชอบความเป็นอิสระของอินโดนีเซียหวังที่จะทำให้อินโดนีเซียพันธมิตรของพวกเขา.

ญี่ปุ่นยอมจำนนที่ 15 สิงหาคม 1945 อินโดนีเซียหนุ่มได้รับการพิจารณาที่จะยืนยันประเทศ ก่อนที่จะเป็นอิสระชาวดัตช์จะกลับมา กลุ่มของพวกเขาถูกลักพาตัวผู้นำทั้งสองชาติและซูการ์โนฮัตตา ที่ 17 สิงหาคมซูการ์โนประกาศเอกราชของอินโดนีเซีย เขากลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกและ Hatta กลายเป็นรองประธาน.

อย่างไรก็ตามชาวดัตช์ไม่เต็มใจที่จะให้อินโดนีเซียไปได้อย่างง่ายดาย ที่ทหารอังกฤษคนแรกที่ลงจอดในอินโดนีเซีย พวกเขาพยายามที่จะอยู่เป็นกลางแม้ว่าจะมีการปะทะกันระหว่างกองทัพอินโดนีเซียอังกฤษและในสถานที่.

อย่างไรก็ตามในเดือนพฤศจิกายน 1946 อังกฤษก็หายไปและชาวดัตช์มีที่ดินหลายคนในอินโดนีเซีย ในเดือนพฤศจิกายนอินโดนีเซียและเนเธอร์แลนด์ได้ลงนามในข้อตกลง Linggajati ชาวดัตช์ได้รับการยอมรับสาธารณรัฐใหม่ แต่เฉพาะในชวาและสุมาตรา พวกเขายังคงอ้างว่าส่วนที่เหลือของประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนี้ข้อตกลงดังกล่าวระบุว่าสาธารณรัฐจะเข้าร่วมเป็นพันธมิตรของรัฐบาลกลางกับฮอลแลนด์ในปี 1949

ไม่น่าแปลกใจทั้งสองฝ่ายมีความสุขกับข้อตกลงดังกล่าว ชาวดัตช์สร้างขึ้นแรงของพวกเขาในความพยายามที่จะเอาทั้งหมดของอินโดนีเซีย ในฤดูร้อนของปี 1947 ที่พวกเขาบุกเข้ามาในพื้นที่ที่เป็นอิสระ อย่างไรก็ตามพวกเขาถูกบังคับให้ถอนตัวส่วนหนึ่งเป็นเพราะความต้านทานอินโดนีเซียและส่วนหนึ่งเป็นเพราะการลงโทษระหว่างประเทศที่แข็งแกร่ง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกา).

ในเดือนธันวาคม 1948 ดัตช์พยายามที่จะเอาคืนอินโดนีเซีย เวลานี้ชาวอินโดนีเซียหันไปสงครามกองโจรและพวกเขาก็ประสบความสำเร็จ ชาวดัตช์ที่ต้องเผชิญกับการลงโทษที่แข็งแกร่งจากอำนาจเช่นสหรัฐอเมริกาและพวกเขาตระหนักว่าพวกเขาไม่สามารถชนะสงคราม สุดท้ายที่ 2 พฤศจิกายน 1949 ดัตช์ตกลงที่จะรับรู้ถึงความเป็นอิสระของอินโดนีเซีย กองกำลังของพวกเขาถอนตัวออกในเดือนธันวาคม 1949

MODERN อินโดนีเซีย

ตอนแรกที่เป็นอิสระอินโดนีเซียเป็นระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา อย่างไรก็ตามในกุมภาพันธ์ 1957 ประธานาธิบดีซูการ์โนเปิดตัวระบบการเมืองใหม่ซึ่งเขาเรียกว่า 'Guided ประชาธิปไตย' อำนาจของรัฐสภาที่ลดลงและพลังของตัวเองได้รับการเพิ่มขึ้นอย่างมาก ฝ่ายตรงข้ามของเขาที่เกิดขึ้นแยก 'รัฐสภา' เรียกว่า PRRC (คณะรัฐบาลของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย) อย่างไรก็ตามกองทัพยังคงจงรักภักดีต่อซูการ์โนและเขาอยู่ในอำนาจ.

ในขณะเดียวกันในตุลาคม 1957 กองทัพเข้ามาส่วนที่เหลืออีกดัตช์ บริษัท ในอินโดนีเซีย เป็นผลให้กองทัพเติบโตร่ำรวย.

จากนั้นในช่วงต้นทศวรรษ 1960 เศรษฐกิจสะดุด มีอัตราเงินเฟ้ออย่างรวดเร็วมากเป็น.

ในเดือนกันยายน 1965 คอมมิวนิสต์พยายามทำรัฐประหารในประเทศอินโดนีเซีย พวกเขาถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมากนายพล พวกเขายังยึดจุดยุทธศาสตร์ในกรุงจาการ์ตา อย่างไรก็ตามนายพลซูฮาร์โตได้อย่างรวดเร็วเอาการกระทำ ที่ทำรัฐประหารถูกบด ซูฮาร์โตได้รับอำนาจจากประธานาธิบดีซูการ์โนเพื่อเรียกคืนสินค้า หลังรัฐประหารซูฮาร์โตจับกุมและดำเนินการเป็นจำนวนมากของคอมมิวนิสต์.

อย่างไรก็ตามซูการ์โนสูญเสียการสนับสนุนและ 11 มีนาคม 1966 เขาเซ็นสัญญากว่าอำนาจประธานาธิบดีซูฮาร์โตของเขาไป 1966 จากซูฮาร์โตในฐานะผู้ปกครองเผด็จการ (แม้ว่าจะมีการเลือกตั้งที่จัดขึ้นทุกห้าปีประชาธิปไตยซุ้ม) อย่างไรก็ตามซูฮาร์โตนำเสถียรภาพและภายใต้เขาทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียที่กู้คืน.

จากปี 1960 ปริมาณสำรองน้ำมันในอินโดนีเซียถูกเอาเปรียบ 1973 หลังอินโดนีเซียได้รับประโยชน์จากราคาที่สูงของน้ำมัน เกษตรก็กลายเป็นห่างไกลมีประสิทธิผลมากขึ้น.

อย่างไรก็ตามชาวอินโดนีเซียส่วนใหญ่ยังคงไม่ดีและในปี 1997 อินโดนีเซียได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงิน เป็นผลให้เศรษฐกิจหดตัว Ind

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขณะที่ชาวดัตช์ไม่ใช้ี ในปี ค.ศ. 1830 ดัตช์แนะนำ kultuurstelsel ( ระบบวัฒนธรรม ) เกษตรกรชาวอินโดนีเซียถูกบังคับให้ใส่ไว้ 20% ของที่ดินเพื่อปลูกพืชเพื่อการส่งออก พวกเขาจ่ายเพียงค่าผลรวม โดยรัฐบาลของพวกเขา ชาวอินโดนีเซียถูกบังคับให้ปลูกกาแฟ , คราม , ชา , พริกไทย , อบเชยและน้ำตาล ผลของมาตรการนี้ผลผลิตข้าวลดลงอย่างไรก็ตามในปี 1870 ชาวดัตช์เปลี่ยนระบบตลาดฟรี การผูกขาดของรัฐบาลดัตช์ในน้ำตาลและสินค้าอื่น ๆ ก็สิ้นสุดลง สวนส่วนตัวที่ถูกสร้างขึ้น อย่างไรก็ตาม อินโดนีเซียอาจไม่จำเป็นต้องดีกว่า ตอนนี้พวกเขาถูกจ้างมาเป็นกุลีบนต้นไม้ใหญ่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ชาวดัตช์ ตัดสินใจที่จะรักษาีให พวกเขาแนะนำสิ่งที่พวกเขาเรียกว่านโยบายจริยธรรม นี้หมายถึงการสร้างโรงเรียนและการใช้จ่ายเงินในการดูแลสุขภาพ สุขอนามัย และชลประทาน อย่างไรก็ตาม นโยบายใหม่ ไปมีผลต่อชีวิตของชาวอินโดนีเซียส่วนใหญ่มันไม่ แต่หมายความว่า อย่างน้อยบางอินโดนีเซียกลายเป็นการศึกษาสูงและคุ้นเคยกับความคิดตะวันตกเช่นเสรีนิยมและสังคมนิยม ผลในต้นศตวรรษที่ 20 ขบวนการชาตินิยมขึ้นในอินโดนีเซีย เขาเริ่มเรียกร้องเพื่อเอกราชแล้วใน 2483 เยอรมันยึดครองฮอลแลนด์ ในปี 1942 ญี่ปุ่นบุกอินโดนีเซีย สุดท้ายทหารดัตช์ยอมจำนนในวันที่ 8 มีนาคม 1942 ที่แรกที่ีต้อนรับเป็นภาษาญี่ปุ่นรวมหัว . แต่ในไม่ช้าพวกเขาก็ไม่สนหรอก ญี่ปุ่นโหดและพวกเขาอย่างไร้ความปราณีจากอินโดนีเซียของทรัพยากรแต่เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงคราม พวกเขาเริ่มที่จะโปรดปรานความเป็นอิสระของอินโดนีเซีย หวังที่จะให้อินโดนีเซียพันธมิตรของพวกเขาญี่ปุ่นยอมแพ้ในวันที่ 15 สิงหาคม 1945 หนุ่มชาวอเมริกาได้รับการพิจารณาเพื่อยืนยันประเทศความเป็นอิสระก่อนที่ชาวดัตช์จะกลับ กลุ่มของพวกลักพาตัวสองผู้นำชาตินิยมและซูการ์โนฮัตตา . ในวันที่ 17 สิงหาคม ซูการ์โนอินโดนีเซียประกาศเอกราช . เขากลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกและฮัตตากลายเป็นรองประธานอย่างไรก็ตาม ดัช ไม่เต็มใจที่จะให้อินโดนีเซียไปอย่างง่ายดาย ที่ทหารอังกฤษแรกที่ดินในประเทศอินโดนีเซีย พวกเขาพยายามจะยังคงเป็นกลางแม้ว่าจะมีอาวุธปะทะกันระหว่างอังกฤษและอินโดนีเซียในสถานที่อย่างไรก็ตามโดยพฤศจิกายน 1946 อังกฤษหายไปและชาวดัตช์ที่จอดกี่คนในอินโดนีเซีย ในเดือนพฤศจิกายนและอินโดนีเซียลงนามข้อตกลง linggajati ดัตช์ . ดัตช์ยอมรับประเทศใหม่ แต่เฉพาะในเกาะชวาและสุมาตรา พวกเขายังอ้างว่าส่วนที่เหลือของอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ข้อตกลงดังกล่าวระบุว่า จีนจะเข้าร่วมสหภาพสหพันธ์กับฮอลแลนด์ในปี 1949ไม่น่าแปลกใจที่ทั้งสองฝ่ายมีความสุขกับข้อตกลง ดัตช์สร้างความแข็งแกร่งของพวกเขาในความพยายามที่จะยึดคืนทั้งหมดของอินโดนีเซีย ในฤดูร้อนของ พ.ศ. 2490 พวกเขาบุกพื้นที่อิสระ อย่างไรก็ตามพวกเขาถูกบังคับให้ถอย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความต้านทานของอินโดนีเซีย และส่วนหนึ่งเป็นเพราะการลงโทษระหว่างประเทศที่แข็งแกร่ง ( โดยเฉพาะอเมริกา )ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1948 ชาวดัตช์พยายามยึดอินโดนีเซีย เวลานี้อินโดนีเซียกลายเป็นสงครามกองโจรและพวกเขาประสบความสำเร็จ ดัตช์เผชิญแรงลงโทษจากพลังเช่นอเมริกาและพวกเขาคิดว่า พวกเขาสามารถชนะสงคราม ในที่สุดเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2492 ชาวดัตช์ตกลงที่จะรับรู้ความเป็นอิสระอินโดนีเซีย ทหารถอนกำลังในเดือนธันวาคม 1949 .อินโดนีเซียยุคใหม่ตอนแรกอิสระอินโดนีเซียคือ ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา อย่างไรก็ตาม ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 ประธานาธิบดีซูการ์โนนำระบบการเมืองใหม่ซึ่งเขาเรียกว่า " แนวทางประชาธิปไตย " อำนาจของรัฐสภาก็ลดลง และพลังของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก คู่แข่งของเขาในรูปแบบที่แยก " รัฐสภา " เรียก prrc ( รัฐบาลปฏิวัติของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ) อย่างไรก็ตาม กองทัพยังคงซื่อสัตย์กับซูการ์โนและเขาอยู่ในอำนาจขณะที่ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2500 กองทัพยึดที่เหลือ ดัตช์ บริษัทใน อินโดนีเซีย เป็นผลให้กองทัพเติบโตมั่งคั่งแล้วในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 เศรษฐกิจสะดุด มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วมากในกันยายน 2508 คอมมิวนิสต์พยายามรัฐประหารในอินโดนีเซีย พวกเขาฆ่าหมายเลขของนายพล . พวกเขายังยึดจุดกลยุทธ์ในจาการ์ตา อย่างไรก็ตาม พลเอกซูฮาร์โต ได้อย่างรวดเร็วจับการกระทำ การปฏิวัติแหลก ซูฮาร์โตได้รับอำนาจโดยประธานาธิบดีซูการ์โน เรียกคืนเพื่อ หลังรัฐประหาร ซูฮาร์โตถูกจับและดำเนินการเป็นจำนวนมากของคอมมิวนิสต์อย่างไรก็ตามซูการ์โนเสียสนับสนุน และในวันที่ 11 มีนาคม 2509 เขาได้อำนาจเขาประธานาธิบดีซูฮาร์โต้ . ในปี 1966 เป็นเผด็จการซูฮาร์โตปกครอง ( แม้ว่าจะมีการเลือกตั้งจัดขึ้นทุกๆ 5 ปี ประชาธิปไตย คือ ซุ้ม ) อย่างไรก็ตามซูฮาร์โตนำความมั่นคงและเศรษฐกิจของอินโดนีเซียภายใต้เขากู้คืนมาได้จากปี 1960 ที่สำรองน้ำมันในอินโดนีเซีย ถูกเอาเปรียบ หลังปี 2516 ชาวอินโดนีเซียได้ประโยชน์จากราคาสูงของน้ำมัน เกษตรยังเป็น ห่างไกลมากขึ้นอย่างไรก็ตาม ชาวอินโดนีเซียส่วนใหญ่ยังคงยากจนและในปี 1997 อินโดนีเซียถูกตีโดยวิกฤตการณ์ทางการเงิน เป็นผลให้เศรษฐกิจหดตัว . IND