AbstractThe aims of this study were

Abstract
The aims of this study were to characterize an enterococci bacteriocinogenic strain and to evaluate its antimicrobial activity regarding its potential use for fish preservation. The bacterium, isolated from Odontesthes platensis in the Patagonian region of Argentine was identified as Enterococcus mundtii by means of biochemical test and 16S rDNA gene phylogenetic analyses. Furthermore, the gene that codifies mundticin KS was detected by PCR techniques. The bacteriocin was able to inhibit Gram positive and negative bacteria. In particular at pH 5.50, it was able to control the growth of fish bacterial flora. Construction of isobolograms and value of fractional inhibitory concentrations index showed that its use together with chitosan and sodium lactate (SL) exerted a synergic action on the inhibition of Listeria innocua, Shewanella putrefaciens and the psychrophilic flora isolated from fish. The use of the mentioned mixture of antimicrobials promoted strong changes on L. innocua and S. putrefaciens cellular components as shown by differential scanning calorimetry. Results suggest that the combination of the bacteriocin with chitosan and SL would be useful to reduce the amount of antimicrobials added to foods and to prevent the growth of spoilage bacteria and pathogenic microorganisms, such as Listeria monocytogenes.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้มีลักษณะสายพันธุ์ bacteriocinogenic enterococci และประเมินผลการศึกษาฤทธิ์ต้านจุลชีพของตนเกี่ยวกับการใช้ศักยภาพในการเก็บรักษาปลา แบคทีเรียที่แยกได้จาก Odontesthes platensis ในภูมิภาค Patagonian อาร์เจนตินาถูกระบุว่าเป็น Enterococcus mundtii โดยใช้วิธีการทดสอบทางชีวเคมีและยีน 16S rDNA Phylogenetic วิเคราะห์ นอกจากนี้ยีนที่ codifies mundticin KS ถูกตรวจพบโดยเทคนิค PCR bacteriocin ก็สามารถที่จะยับยั้งแบคทีเรียแกรมบวกและลบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ pH 5.50 มันก็สามารถที่จะควบคุมการเจริญเติบโตของปลาพืชแบคทีเรีย การก่อสร้างของ isobolograms และความคุ้มค่าของเศษส่วนดัชนีความเข้มข้นยับยั้งการแสดงให้เห็นว่าการใช้งานร่วมกับไคโตซานและโซเดียมแลคเตท (SL) กระทำการกระทำ synergic ในการยับยั้งเชื้อ Listeria innocua, putrefaciens Shewanella และพืช psychrophilic ที่แยกจากปลา การใช้ส่วนผสมของยาต้านจุลชีพที่กล่าวถึงการเลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างมากต่อลิตร innocua และ S. putrefaciens ส่วนประกอบโทรศัพท์มือถือที่แสดงโดย scanning calorimetry ค่า ผลการชี้ให้เห็นว่าการรวมกันของแบคที่มีไคโตซานและ SL จะเป็นประโยชน์ในการลดปริมาณของยาต้านจุลชีพเพิ่มอาหารและเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียเน่าเสียและจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคเช่นเชื้อ Listeria monocytogenes

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษามาตรฐานสายพันธุ์ bacteriocinogenic และประเมินฤทธิ์ต้านจุลชีพของเกี่ยวกับการใช้ศักยภาพของการรักษาปลา แบคทีเรียที่แยกได้จาก odontesthes platensis ใน patagonian ภูมิภาคของอาร์เจนตินาที่ถูกระบุว่าเป็นเอ็นเทโรค็อกคัส mundtii โดยวิธีการทดสอบยีน 16S rDNA และทางชีวเคมี ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูล นอกจากนี้ยังพบว่า ยีนที่ประมวล mundticin KS ที่ตรวจพบโดยเทคนิค PCR การต่อก็สามารถยับยั้งแบคทีเรีย แกรมบวก และลบ โดยเฉพาะเมื่อ นี้ มันก็สามารถที่จะควบคุมการเจริญเติบโตของปลาแบคทีเรียฟลอร่า สร้าง isobolograms และค่าของเศษส่วน พบว่า มีค่าดัชนีสามารถใช้ร่วมกับไคโตซานและโซเดียมแลคเตท ( SL ) นั่นเอง การกระทำซึ่งทำงานร่วมกันในการยับยั้งแบคทีเรียที่เป็นพิษ innocua shewanella , putrefaciens และไซโครฟิลิกพืชที่แยกได้จากปลา การใช้ส่วนผสมของยาดังกล่าวในการเปลี่ยนแปลงแรง . innocua และ S . putrefaciens ส่วนประกอบของเซลล์ที่แสดงโดย ดิฟเฟอเรนเชียลสแกนนิง พบว่า การรวมกันของต่อด้วยไคโตซานและ SL จะเป็นประโยชน์ในการลดปริมาณของยาเสริมอาหาร และเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์และแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการเน่าเสีย เช่น วงแหวนแวนอัลเลน .