The city of Pompeii was an ancient

The city of Pompeii was an ancient Roman town-city near modern Naples in the Italian region of Campania, in the territory of the comune of Pompeii. Pompeii, along with Herculaneum and many villas in the surrounding area, was mostly destroyed and buried under 4 to 6 m (13 to 20 ft) of ash and pumice in the eruption of Mount Vesuvius in 79 AD.

Researchers believe that the town was founded in the seventh or sixth century BC by the Osci or Oscans. It came under the domination of Rome in the 4th century BC, and was conquered and became a Roman colony in 80 BC after it joined an unsuccessful rebellion against the Roman Republic. By the time of its destruction, 160 years later, its population was estimated at 11,000 people, and the city had a complex water system, an amphitheatre, gymnasium, and a port.

The eruption destroyed the city, killing its inhabitants and burying it under tons of ash. Evidence for the destruction originally came from a surviving letter by Pliny the Younger, who saw the eruption from a distance and described the death of his uncle Pliny the Elder, an admiral of the Roman fleet, who tried to rescue citizens. The site was lost for about 1,500 years until its initial rediscovery in 1599 and broader rediscovery almost 150 years later by Spanish engineer Rocque Joaquin de Alcubierre in 1748.[1] The objects that lay beneath the city have been preserved for centuries because of the lack of air and moisture. These artifacts provide an extraordinarily detailed insight into the life of a city during the Pax Romana. During the excavation, plaster was used to fill in the voids in the ash layers that once held human bodies. This allowed one to see the exact position the person was in when he or she died.

Pompeii has been a tourist destination for over 250 years. Today it has UNESCO World Heritage Site status and is one of the most popular tourist attractions in Italy, with approximately 2.5 million visitors every year.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมืองปอมเปอีเป็นเมืองโบราณที่โรมัน เมืองใกล้เนเปิลส์ที่ทันสมัยในแคว้น Campania ในดินแดน comune ของปอมเปอีอิตาลี ปอมเปอี เฮอร์คิวเลเนียมและวิลล่าในบริเวณโดยรอบ ถูกทำลายเป็นส่วนใหญ่ และฝังอยู่ภายใต้ 4-6 เมตร (13-20 ฟุตของเถ้าภูเขาไฟ)ในการปะทุของภูเขาไฟวิสุเวียสในโฆษณา 79นักวิจัยเชื่อว่า เมืองก่อตั้ง ในเจ็ด หรือหกศตวรรษ BC โดย Osci หรือ Oscans ได้มาภายใต้การปกครองของโรมในก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 4 และถูกเอาชนะ และกลายเป็น อาณานิคมโรมันในพ.ศ. 80 หลังจากเข้าร่วมการกบฏไม่สำเร็จกับสาธารณรัฐโรมัน การทำลายของ 160 ปี ประชากรได้ประมาณที่ 11000 คน และเมืองมีระบบน้ำซับซ้อน มีอัฒจันทร์ โรงยิม และพอร์ตThe eruption destroyed the city, killing its inhabitants and burying it under tons of ash. Evidence for the destruction originally came from a surviving letter by Pliny the Younger, who saw the eruption from a distance and described the death of his uncle Pliny the Elder, an admiral of the Roman fleet, who tried to rescue citizens. The site was lost for about 1,500 years until its initial rediscovery in 1599 and broader rediscovery almost 150 years later by Spanish engineer Rocque Joaquin de Alcubierre in 1748.[1] The objects that lay beneath the city have been preserved for centuries because of the lack of air and moisture. These artifacts provide an extraordinarily detailed insight into the life of a city during the Pax Romana. During the excavation, plaster was used to fill in the voids in the ash layers that once held human bodies. This allowed one to see the exact position the person was in when he or she died.Pompeii has been a tourist destination for over 250 years. Today it has UNESCO World Heritage Site status and is one of the most popular tourist attractions in Italy, with approximately 2.5 million visitors every year.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมืองปอมเปอีเป็นเมืองโรมันโบราณเมืองเนเปิลส์ใกล้ที่ทันสมัยในภูมิภาคของอิตาลี Campania ในดินแดนของกันของปอมเปอีที่ ปอมเปอีพร้อมกับแฮร์และวิลล่าจำนวนมากในพื้นที่โดยรอบถูกทำลายเป็นส่วนใหญ่และฝังอยู่ใต้ 4-6 เมตร (13-20 ฟุต) และเถ้าถ่านภูเขาไฟในการปะทุของภูเขาไฟวิสุเวียใน 79 AD. นักวิจัยเชื่อว่าเมืองที่ได้ก่อตั้งขึ้น ในศตวรรษที่สิบเจ็ดหรือหกปีก่อนคริสตกาลโดย Osci หรือ Oscans มันมาอยู่ภายใต้การปกครองของกรุงโรมในศตวรรษที่ 4 และก็เอาชนะและกลายเป็นอาณานิคมของโรมันใน 80 BC หลังจากที่เข้าร่วมการปฏิวัติไม่ประสบความสำเร็จกับสาธารณรัฐโรมัน เมื่อถึงเวลาแห่งการทำลายล้างของมัน 160 ปีต่อมาประชากรประมาณ 11,000 คนและเมืองมีระบบน้ำที่ซับซ้อนอัฒจันทร์, โรงยิม, และพอร์ต. ระเบิดทำลายเมืองฆ่าคนที่อาศัยอยู่และฝังไว้ใต้ ตันของเถ้า หลักฐานสำหรับการทำลายเดิมมาจากจดหมายที่รอดตายจากพลิน้องที่เห็นการระเบิดจากระยะไกลและอธิบายการตายของลุงของเขาเฒ่าพลิที่พลเรือเอกของกองทัพเรือโรมันที่พยายามที่จะช่วยเหลือประชาชน เว็บไซต์ก็หายไปประมาณ 1,500 ปีจนกระทั่งค้นพบครั้งแรกใน 1599 และการค้นพบที่กว้างเกือบ 150 ปีต่อมาโดยวิศวกรสเปน Rocque Joaquin de Alcubierre ใน 1748. [1] วัตถุที่วางอยู่ใต้เมืองได้รับการรักษามานานหลายศตวรรษเพราะขาด ของอากาศและความชื้น สิ่งประดิษฐ์เหล่านี้มีความเข้าใจรายละเอียดเป็นพิเศษเข้ามาในชีวิตของเมืองในช่วงสันติภาพโรมัน ในระหว่างการขุดค้นพลาสเตอร์ถูกใช้ในการกรอกข้อมูลลงในช่องว่างในชั้นเถ้าที่จัดขึ้นครั้งเดียวร่างกายมนุษย์ นี้ได้รับอนุญาตอย่างใดอย่างหนึ่งที่จะเห็นตำแหน่งที่แน่นอนคนที่อยู่ในเมื่อเขาหรือเธอจะเสียชีวิต. ปอมเปอีได้รับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมานานกว่า 250 ปี วันนี้มีสถานะยูเนสโกมรดกและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมมากที่สุดในประเทศอิตาลีที่มีประมาณ 2.5 ล้านคนในแต่ละปี