Waste poses a threat to public heal

Waste poses a threat to public health and the environment if it is not stored, collected, and disposed of properly. The perception of waste as an unwanted material with no intrinsic value has dominated attitudes towards disposal. This study investigates the domestic waste practices, waste disposal, and perceptions about waste and health in an urban community.
METHODS:
The study utilised a mixed-method approach. A cross-sectional survey questionnaire and in-depth interview were used to collect data. A total of 364 household heads were interviewed in the survey and six key informants were interviewed with the in-depth interviews.
RESULTS:
The results of the study revealed that 93.1% of households disposed of food debris as waste and 77.8% disposed of plastic materials as waste. The study also showed that 61.0% of the households disposed of their waste at community bins or had waste picked up at their homes by private contractors. The remaining 39.0% disposed of their waste in gutters, streets, holes and nearby bushes. Of those who paid for the services of private contractors, 62.9% were not satisfied with the services because of their cost and irregular collection. About 83% of the respondents were aware that improper waste management contributes to disease causation; most of the respondents thought that improper waste management could lead to malaria and diarrhoea. There was a general perception that children should be responsible for transporting waste from the households to dumping sites.
CONCLUSION:
Proper education of the public, the provision of more communal trash bins, and the collection of waste by private contractors could help prevent exposing the public in municipalities to diseases.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เสียโพสท่าเป็นภัยคุกคามต่อสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมถ้ามันไม่เก็บ รวบรวม และตัดจำหน่ายได้อย่างถูกต้อง รับรู้ของเสียที่เป็นวัสดุไม่พึงประสงค์กับค่า intrinsic ได้ครอบงำทัศนคติขายทิ้ง การศึกษานี้ตรวจสอบปฏิบัติภายในประเทศเสีย กำจัดขยะ การรับรู้เกี่ยวกับขยะและสุขภาพในชุมชนการเมืองวิธีการ:การศึกษาใช้วิธีการแบบวิธีผสม เหลวแบบสำรวจแบบสอบถามและสัมภาษณ์เชิงลึกที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล จำนวนครัวเรือนหัว 364 ถูกสัมภาษณ์ในแบบสำรวจ และคุณค่าหลักหกถูกสัมภาษณ์ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกผลลัพธ์:ผลการศึกษาเปิดเผยว่า 93.1% ของครัวเรือนขายทิ้งเศษอาหารเป็นขยะ และ 77.8% ตัดจำหน่ายวัสดุพลาสติกเป็นขยะ การศึกษาพบว่า 61.0% ของครัวเรือนการตัดจำหน่ายของเสียในชุมชนช่อง หรือมีขยะรับที่บ้านของพวกเขาโดยส่วนตัวผู้รับเหมา 39.0% เหลือกำจัดของเสีย ในราง ถนน หลุม และใกล้เคียง กับพุ่มไม้ ผู้ที่ชำระค่าบริการของผู้รับเหมาส่วนตัว 62.9% ได้ไม่พอใจกับบริการของทุนและคอลเลกชันไม่สม่ำเสมอ ประมาณ 83% ของผู้ตอบไม่ทราบว่า การจัดการขยะไม่เหมาะสมรวมโรค causation ส่วนใหญ่ผู้ตอบคิดว่า จัดการไม่เหมาะสมเสียอาจทำให้ท้องเสียและโรคมาลาเรีย มีความรู้ทั่วไปว่า เด็กควรจะรับผิดชอบการขนส่งขยะจากครัวเรือนในการถ่ายโอนข้อมูลเว็บไซต์สรุป:การศึกษาของประชาชน จัดหาถังขยะชุมชนมากขึ้น และการรวบรวมขยะโดยผู้รับเหมาส่วนตัวสามารถช่วยป้องกันไม่ให้เปิดเผยประชาชนในอำเภอกับโรค

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เสียเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อมถ้ามันไม่ได้เก็บรวบรวมและกำจัดอย่างถูกต้อง การรับรู้ของเสียที่เป็นวัสดุที่ไม่พึงประสงค์โดยไม่มีมูลค่าที่แท้จริงได้ครอบงำทัศนคติต่อการกำจัด การศึกษานี้ศึกษาการปฏิบัติของเสียภายในประเทศการกำจัดของเสียและการรับรู้เกี่ยวกับของเสียและสุขภาพในชุมชนเมือง.
วิธีการ:
การศึกษาใช้วิธีการผสมวิธี แบบสอบถามตัดขวางและให้สัมภาษณ์ในเชิงลึกถูกนำมาใช้ในการเก็บข้อมูล รวมของ 364 หัวหน้าครัวเรือนถูกสัมภาษณ์ในการสำรวจและหกข้อมูลสำคัญถูกสัมภาษณ์ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก.
ผลการศึกษา:
ผลการศึกษาพบว่า 93.1% ของครัวเรือนกำจัดเศษอาหารเป็นของเสียและ 77.8% ทิ้งวัสดุพลาสติก เป็นของเสีย การศึกษายังพบว่า 61.0% ของผู้ประกอบการกำจัดขยะของพวกเขาที่ถังขยะชุมชนหรือเสียได้เลือกขึ้นที่บ้านของพวกเขาโดยผู้รับเหมาเอกชน ส่วนที่เหลืออีก 39.0% การกำจัดขยะในท่อระบายน้ำถนนหลุมและพุ่มไม้ที่ใกล้เคียง ของบรรดาผู้ที่จ่ายค่าบริการของผู้รับเหมาเอกชน 62.9% ไม่พอใจกับการให้บริการเนื่องจากค่าใช้จ่ายและการเก็บรวบรวมความผิดปกติของพวกเขา เกี่ยวกับ 83% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีความตระหนักว่าการจัดการของเสียที่ไม่เหมาะสมก่อให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างโรค ส่วนใหญ่ของผู้ตอบแบบสอบถามคิดว่าการจัดการของเสียที่ไม่เหมาะสมอาจนำไปสู่โรคมาลาเรียและโรคอุจจาระร่วง มีการรับรู้โดยทั่วไปว่าเด็กควรจะรับผิดชอบในการขนส่งของเสียจากครัวเรือนที่จะทิ้งเว็บไซต์.
สรุป:
การศึกษาที่เหมาะสมของประชาชน, การจัดหาถังขยะถังขยะชุมชนมากขึ้นและรวบรวมของเสียโดยผู้รับเหมาเอกชนจะช่วยป้องกันไม่ให้เปิดเผยสาธารณะ ในเขตเทศบาลโรค

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ของเสียที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม ถ้ามันไม่ได้เก็บรวบรวม และกำจัดอย่างถูกต้อง การรับรู้ของของเสียที่เป็นวัสดุที่ไม่พึงประสงค์กับมูลค่าที่แท้จริงได้ครอบงำทัศนคติต่อการจัดการ งานวิจัยนี้ศึกษาปฏิบัติ ในส่วนของเสีย และการรับรู้เกี่ยวกับขยะและสุขภาพในชุมชนเขตเมือง .

วิธีการ :การศึกษาใช้วิธีผสม จึงได้สำรวจ แบบสอบถาม และการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ทั้งหมด 364 ครัวเรือนในการสำรวจและสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลหลักจำนวน 6 ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก

ผล : ผลของการศึกษา พบว่า ร้อยละ 93.1 ครัวเรือนทิ้งเศษอาหาร เศษ และ 778 % ทิ้งวัสดุพลาสติกเป็นขยะ การศึกษายังพบว่า ร้อยละ 61.0 ครัวเรือนทิ้งขยะที่ถังขยะในชุมชน หรือมีปริมาณการเลือกขึ้นที่บ้าน โดยผู้รับเหมาเอกชน เหลือ 39.0 % กำจัดของเสียของพวกเขาในราง , ถนน , หลุมและพุ่มไม้ใกล้ๆ ของผู้ที่จ่ายสำหรับการบริการของผู้รับเหมาเอกชน 629 % ไม่พอใจกับการบริการของต้นทุน และไม่เป็นระเบียบ เพราะคอลเลกชันของพวกเขา ประมาณ 83 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามทราบว่า การจัดการขยะที่ก่อให้เกิดสาเหตุโรค ส่วนใหญ่ของผู้ตอบแบบสอบถามคิดว่าการจัดการของเสียที่ไม่เหมาะสมอาจนำไปสู่โรคมาลาเรีย และอุจจาระร่วง