Cambodia has experienced strong eco

Cambodia has experienced strong economic growth over the last decade. Cambodian GDP grew at an average annual rate of over 8% between 2000 and 2010 and over 7% since 2011. The tourism, garment, construction and real estate, and agriculture sectors accounted for the bulk of growth. Around 600,000 people, the majority of whom are women, are employed in the garment and footwear sector. An additional 500,000 Cambodians are employed in the tourism sector, and a further 50,000 people in construction. In 2005, exploitable oil deposits were found beneath Cambodia's territorial waters, representing a potential revenue stream for the government, if commercial extraction becomes feasible. Some of the deposits are located within the so-called overlapping claimed areas with Thailand. However, an unresolved border dispute with Thailand has so far prevented development in those areas. Mining also is attracting some investor interest and the government has touted opportunities for mining bauxite, gold, iron and gems. The tourism industry has continued to grow rapidly with foreign arrivals exceeding 2 million per year since 2007 and reaching around 4.5 million visitors in 2014. Cambodia, nevertheless, remains one of the poorest countries in Asia and long-term economic development remains a daunting challenge, inhibited by endemic corruption, limited educational opportunities, high income inequality, and poor job prospects. As of 2012, approximately 2.66 million people live on less than $1.20 per day, and 37% of Cambodian children under the age of 5 suffer from chronic malnutrition. More than 50% of the population is less than 25 years old. The population lacks education and productive skills, particularly in the impoverished countryside, which also lacks basic infrastructure. The Cambodian Government has been working with bilateral and multilateral donors, including the Asian Development Bank, the World Bank and IMF, to address the country's many pressing needs; more than 30% of the government budget comes from donor assistance. A major economic challenge for Cambodia over the next decade will be fashioning an economic environment in which the private sector can create enough jobs to handle Cambodia's demographic imbalance. Following the 2013 national elections, the government announced a variety of economic and business reforms. The government is also moving forward with new legislation to meet the 2015 deadline for the Association of Southeast Asian Nations (ASEAN) Economic Community.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กัมพูชามีประสบการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกว่าทศวรรษ กัมพูชา GDP เติบโตที่มีอัตรารายปีเฉลี่ยมากกว่า 8% ระหว่าง 2000 และ 2010 และกว่า 7% ตั้งแต่ 2011 การท่องเที่ยว เสื้อผ้า ก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ และภาคเกษตรคิดเป็นจำนวนมากเจริญเติบโต ประมาณ 600000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เป็นลูกจ้างในภาคตัดเย็บเสื้อผ้าและรองเท้า พนักงานชาวกัมพูชา 500000 มีเพิ่มเติมในภาคการท่องเที่ยว และเป็น 50000 คนในการก่อสร้าง ในปี 2005 ฝากน้ำมัน exploitable พบใต้กัมพูชาของน่านน้ำ แสดงเป็นกระแสรายได้รัฐบาล ถ้าแยกพาณิชย์เป็นไปได้ บางส่วนของเงินฝากอยู่ภายในเรียกว่าพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกันกับประเทศไทย อย่างไรก็ตาม การพิพาทพรมแดนยังกับประเทศไทยได้จนไม่สามารถพัฒนาในพื้นที่ ทำเหมืองแร่ยังเป็นการดึงดูดนักลงทุนสนใจบาง และรัฐบาลได้ touted โอกาสในการทำเหมืองแร่อะลูมิเนียม ทองคำ เหล็ก และอัญมณี อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วกับต่างประเทศที่เข้ามาเกิน 2 ล้านต่อปี 2550 และถึงประมาณ 4.5 ล้านคนในปี 2557 กัมพูชา ยังคง ยังคงเป็นหนึ่งของประเทศยากจนที่สุดในเอเชีย และพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาวยังคง ความยุ่งยาก ห้าม โดยทุจริตวี่ โอกาสศึกษาจำกัด ความไม่เท่าเทียมกันของรายได้สูง งานดี 2555 ประมาณ 2.66 ล้านคนอาศัยอยู่บนน้อยกว่า $1.20 ต่อวัน และ 37% ของเด็กกัมพูชาอายุ 5 ประสบจากการขาดสารอาหารเรื้อรัง มากกว่า 50% ของประชากรมีอายุน้อยกว่า 25 ปี ประชากรขาดการศึกษาและทักษะการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบทจน ซึ่งยัง ขาดโครงสร้างพื้นฐาน รัฐบาลกัมพูชาได้ทำงานกับทวิภาคี และพหุภาคีผู้บริจาค ธนาคารพัฒนาเอเชีย ธนาคารโลก และ IMF เพื่อความต้องกดหลายประเทศ กว่า 30% ของงบประมาณรัฐบาลที่มาจากผู้บริจาคความช่วยเหลือ ความสำคัญทางเศรษฐกิจท้าทายสำหรับกัมพูชากว่าทศวรรษถัดไปจะ fashioning สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ภาคเอกชนสามารถสร้างงานที่เพียงพอเพื่อจัดการกับความไม่สมดุลของประชากรของกัมพูชา ต่อ 2013 แห่งชาติเลือกตั้ง รัฐบาลประกาศการปฏิรูปเศรษฐกิจ และธุรกิจที่หลากหลาย รัฐบาลจะยังก้าวไปข้างหน้ากับกฎหมายใหม่เพื่อตอบสนองเวลา 2015 สำหรับประชาคมเศรษฐกิจสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กัมพูชามีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จีดีพีของกัมพูชาขยายตัวในอัตราเฉลี่ยรายปีของกว่า 8% ระหว่างปี 2000 และปี 2010 และมากกว่า 7% ตั้งแต่ปี 2011 การท่องเที่ยว, เสื้อผ้า, การก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์และภาคการเกษตรคิดเป็นจำนวนมากของการเจริญเติบโต ประมาณ 600,000 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่ถูกว่าจ้างในการตัดเย็บเสื้อผ้าและรองเท้าภาค เพิ่มเติม 500,000 กัมพูชามีการจ้างงานในภาคการท่องเที่ยวและอีก 50,000 คนในการก่อสร้าง ในปี 2005 เงินฝากน้ำมันโหว่ถูกพบอยู่ใต้น่านน้ำของกัมพูชาคิดเป็นกระแสรายได้ที่มีศักยภาพสำหรับรัฐบาลถ้าสกัดกลายเป็นไปได้ในเชิงพาณิชย์ บางส่วนของเงินฝากที่มีอยู่ในพื้นที่อ้างทับซ้อนกันที่เรียกว่ากับประเทศไทย แต่ยังไม่ได้แก้ไขข้อพิพาทชายแดนกับประเทศไทยได้เพื่อให้ห่างไกลป้องกันไม่ให้เกิดการพัฒนาในพื้นที่เหล่านั้น การทำเหมืองแร่นอกจากนี้ยังเป็นที่ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนและรัฐบาลได้โน้มน้าวโอกาสในการทำเหมืองแร่อะลูมิเนียมทองเหล็กและอัญมณี อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังคงเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยการเข้ามาจากต่างประเทศเกิน 2 ล้านบาทต่อปีมาตั้งแต่ปี 2007 และเข้าถึงรอบ 4.5 ล้านผู้เข้าชมในปี 2014 กัมพูชา แต่ยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในเอเชียและการพัฒนาทางเศรษฐกิจในระยะยาวยังคงเป็นความท้าทายที่น่ากลัว ยับยั้งโดยทุจริตถิ่นโอกาสทางการศึกษาที่ จำกัด ไม่เท่าเทียมกันทางรายได้สูงและโอกาสในการทำงานที่ไม่ดี ในฐานะที่เป็นของปี 2012 ประมาณ 2,660,000 คนที่อาศัยอยู่บนน้อยกว่า $ 1.20 ต่อวันและ 37% ของเด็กกัมพูชาที่มีอายุต่ำกว่า 5 ทนทุกข์ทรมานจากการขาดสารอาหารเรื้อรัง มากกว่า 50% ของประชากรที่อยู่น้อยกว่า 25 ปี ประชากรที่ขาดการศึกษาและทักษะในการผลิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบทที่ยากจนซึ่งยังขาดโครงสร้างพื้นฐาน รัฐบาลกัมพูชาได้ทำงานร่วมกับผู้บริจาคทวิภาคีและพหุภาคีรวมทั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศไปยังที่อยู่ของประเทศความต้องการกดเป็นอันมาก กว่า 30% ของงบประมาณของรัฐบาลที่มาจากความช่วยเหลือของผู้บริจาค ความท้าทายทางเศรษฐกิจที่สำคัญสำหรับกัมพูชาในช่วงทศวรรษหน้าจะสมัยสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ภาคเอกชนสามารถสร้างงานพอที่จะจัดการกับความไม่สมดุลของประชากรของประเทศกัมพูชา หลังจากที่การเลือกตั้งระดับชาติปี 2013 รัฐบาลประกาศความหลากหลายของการปฏิรูปทางเศรษฐกิจและธุรกิจ รัฐบาลจะยังก้าวไปข้างหน้าด้วยการออกกฎหมายใหม่เพื่อตอบสนอง 2015 กำหนดเส้นตายสำหรับสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ประชาคมเศรษฐกิจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กัมพูชามีประสบการณ์การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกว่าทศวรรษที่ผ่านมา กัมพูชา GDP เติบโตในอัตราเฉลี่ยต่อปีมากกว่า 8 % ระหว่าง 2000 และ 2010 และกว่า 7 % ตั้งแต่ปี 2554 การท่องเที่ยว , เสื้อผ้า , ก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ และภาคการเกษตรร้อยละของการเจริญเติบโต รอบ 600000 คน ซึ่งส่วนมากเป็นผู้หญิง มีการจ้างงานในภาคเสื้อผ้าและรองเท้าเพิ่มเติม 500000 กัมพูชามีการจ้างงานในภาคการท่องเที่ยว และอีก 50 , 000 คน ในการก่อสร้าง ในปี 2005 เงินฝากน้ำมัน exploitable พบใต้น่านน้ำกัมพูชาเป็นกระแสรายได้ที่อาจเกิดขึ้นกับรัฐบาล ถ้าแยกพาณิชย์ ก็เป็นไปได้ บางส่วนของเงินฝากอยู่ภายในเรียกว่า ทับซ้อนพื้นที่ อ้างกับประเทศไทยอย่างไรก็ตาม การแก้ไขข้อพิพาทชายแดนกับประเทศไทยได้ขัดขวางการพัฒนาในพื้นที่เหล่านั้น เหมืองแร่ยังดึงดูดให้นักลงทุนสนใจและรัฐบาลได้ touted โอกาสแร่ , เหมืองทอง , เหล็ก และอัญมณี อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีการเติบโตอย่างรวดเร็วกับต่างประเทศเข้ามาเกิน 2 ล้านบาทต่อปี ตั้งแต่ปี 2007 และถึงประมาณ 4.5 ล้านผู้เข้าชมในปี 2014กัมพูชา , อย่างไรก็ตาม , ยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในเอเชีย และการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาวยังคงเป็นความท้าทายที่น่ากลัว ยับยั้งความเสียหายเฉพาะถิ่น , โอกาสทางการศึกษา จำกัด รายได้สูง ความไม่เท่าเทียมกัน และเป้าหมายงานที่ไม่ดี ในฐานะของ 2012 ประมาณ 2.66 ล้านคนอาศัยอยู่บนน้อยกว่า $ 1.20 ต่อวันและ 37% ของกัมพูชาเด็กอายุ 5 ประสบภาวะเรื้อรัง มากกว่า 50% ของประชากรไม่น้อยกว่า 25 ปี ประชากรในการศึกษา และทักษะการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบทยากจนซึ่งยังขาดสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน รัฐบาลกัมพูชา ได้ทำงานร่วมกับทวิภาคีและพหุภาคี ผู้บริจาครวมทั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย ธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ กับประเทศที่อยู่หลายกดความต้องการ มากกว่า 30 % ของงบประมาณ มาจากความช่วยเหลือของผู้บริจาค ความท้าทายหลักทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในช่วงทศวรรษต่อไปจะเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ภาคเอกชนสามารถสร้างงานพอที่จะจัดการของกัมพูชา ประชากรไม่สมดุล .ต่อไปนี้ 2013 เลือกตั้งระดับชาติ รัฐบาลประกาศความหลากหลายของการปฏิรูปเศรษฐกิจและธุรกิจ รัฐบาลยังเดินหน้าต่อไปกับกฎหมายใหม่เพื่อตอบสนอง 2015 กำหนดเส้นตายสำหรับสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน ) ประชาคมเศรษฐกิจ