AbstractPURPOSE:Obesity increases r

Abstract
PURPOSE:
Obesity increases risk for all-cause and breast cancer mortality and comorbidities in women who have been diagnosed and treated for breast cancer. The Exercise and Nutrition to Enhance Recovery and Good Health for You (ENERGY) study is the largest weight loss intervention trial among survivors of breast cancer to date.
METHODS:
In this multicenter trial, 692 overweight/obese women who were, on average, 2 years since primary treatment for early-stage breast cancer were randomly assigned to either a group-based behavioral intervention, supplemented with telephone counseling and tailored newsletters, to support weight loss or a less intensive control intervention and observed for 2 years. Weight and blood pressure were measured at 6, 12, 18, and 24 months. Longitudinal mixed models were used to analyze change over time.
RESULTS:
At 12 months, mean weight loss was 6.0% of initial weight in the intervention group and 1.5% in the control group (P < .001). At 24 months, mean weight loss in the intervention and control groups was 3.7% and 1.3%, respectively (P < .001). Favorable effects of the intervention on physical activity and blood pressure were observed. The weight loss intervention was more effective among women older than 55 years than among younger women.
CONCLUSION:
A behavioral weight loss intervention can lead to clinically meaningful weight loss in overweight/obese survivors of breast cancer. These findings support the need to conduct additional studies to test methods that support sustained weight loss and to examine the potential benefit of intentional weight loss on breast cancer recurrence and survival.
© 2015 by American Society of Clinical Oncology.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อวัตถุประสงค์:โรคอ้วนเพิ่มความเสี่ยงทั้งหมดสาเหตุการตายของโรคมะเร็งเต้านม และ comorbidities ในสตรีที่ได้รับการวินิจฉัย และรับการรักษามะเร็งเต้านม ออกกำลังกายและโภชนาการเพื่อสุขภาพที่ดีสำหรับคุณ (พลังงาน) การศึกษาและการกู้คืนเพิ่มเป็นที่ใหญ่ที่สุดน้ำหนักขาดทุนแทรกแซงทดลองใช้ในหมู่ผู้รอดชีวิตมะเร็งเต้านมวันที่วิธีการ:ในนี้ multicenter ทดลอง 692 น้ำหนักเกิน/อ้วนผู้หญิงถูก เฉลี่ย 2 ปีเนื่องจากการรักษาหลักสำหรับมะเร็งเต้านมระยะแรก ๆ ถูกสุ่มให้หรือเป็นกลุ่มตามพฤติกรรมแทรกแซง เสริมด้วยโทรศัพท์จดหมายข่าวเฉพาะ และให้คำปรึกษา การรองรับน้ำหนัก มากน้อยหรือขาดทุนควบคุมแทรกแซง และสังเกตปีที่ 2 น้ำหนักและความดันโลหิตที่วัดที่ 6, 12, 18 และ 24 เดือน รุ่นผสมระยะยาวถูกใช้เพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงตามเวลาผลลัพธ์:ในเดือน 12 หมายถึง น้ำหนัก 6.0% ของน้ำหนักเริ่มต้นในกลุ่มแทรกแซงและ 1.5% ในกลุ่มควบคุม (P < .001). ที่ 24 เดือน หมายถึง การสูญเสียน้ำหนักในกลุ่มควบคุมและแทรกแซงเป็นการ 3.7% และ 1.3% ตามลำดับ (P < .001). นายสุภัคดีผลของการแทรกแซงกิจกรรมทางกายภาพและความดันโลหิต การแทรกแซงการสูญเสียน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากกว่าผู้หญิงอายุมากกว่า 55 ปีมากกว่าผู้หญิงอายุน้อยกว่าสรุป:การแทรกแซงการสูญเสียน้ำหนักพฤติกรรมสามารถนำไปสู่การสูญเสียน้ำหนักมีความหมายทางคลินิกในผู้ที่น้ำหนักเกิน/อ้วนมะเร็งเต้านม ผลการวิจัยนี้สนับสนุนจำเป็นต้องทำการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อทดสอบวิธีการที่สนับสนุน sustained น้ำหนัก และ การตรวจสอบประโยชน์ศักยภาพของมิน้ำหนักในการเกิดมะเร็งเต้านมและการอยู่รอด© 2015 โดยสมาคมมะเร็งวิทยาคลินิกอเมริกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อวัตถุประสงค์: โรคอ้วนเพิ่มความเสี่ยงสำหรับทุกสาเหตุการตายและมะเร็งเต้านมและการป่วยในผู้หญิงที่ได้รับการวินิจฉัยและรับการรักษามะเร็งเต้านม การออกกำลังกายและโภชนาการเพื่อเพิ่มการกู้คืนและสุขภาพที่ดีสำหรับคุณ (ENERGY) การศึกษาคือน้ำหนักทดลองการแทรกแซงการสูญเสียที่ใหญ่ที่สุดในหมู่ผู้รอดชีวิตจากมะเร็งเต้านมถึงวันที่. นักวิจัยในการทดลอง multicenter นี้ 692 น้ำหนักเกิน / ผู้หญิงอ้วนที่ได้รับโดยเฉลี่ย 2 ปีนับตั้งแต่การรักษาหลักสำหรับโรคมะเร็งเต้านมในระยะแรกถูกสุ่มให้ทั้งสองกลุ่มตามพฤติกรรมเสริมด้วยการให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์และจดหมายข่าวที่เหมาะเพื่อสนับสนุนการลดน้ำหนักหรือการแทรกแซงการควบคุมอย่างเข้มข้นน้อยลงและสังเกตเป็นเวลา 2 ปี น้ำหนักและความดันโลหิตวัดที่ 6, 12, 18, ​​และ 24 เดือน หลากหลายรูปแบบระยะยาวถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา. ผลใน 12 เดือนหมายถึงการสูญเสียน้ำหนักเป็น 6.0% ของน้ำหนักเริ่มต้นในกลุ่มแทรกแซงและ 1.5% ในกลุ่มควบคุม (p <0.001) ณ วันที่ 24 เดือนหมายถึงการสูญเสียน้ำหนักในการแทรกแซงและกลุ่มควบคุมเป็น 3.7% และ 1.3% ตามลำดับ (p <0.001) ผลกระทบที่ดีของการแทรกแซงในการออกกำลังกายและความดันโลหิตถูกตั้งข้อสังเกต การแทรกแซงการสูญเสียน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในหมู่ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 55 ปีกว่าในหมู่ผู้หญิงอายุน้อยกว่า. สรุป: แทรกแซงพฤติกรรมการลดน้ำหนักสามารถนำไปสู่การสูญเสียน้ำหนักที่มีความหมายในทางคลินิกที่มีน้ำหนักเกิน / ผู้รอดชีวิตโรคอ้วนโรคมะเร็งเต้านม การค้นพบนี้รองรับความต้องการที่จะทำการศึกษาเพิ่มเติมในการทดสอบวิธีการที่สนับสนุนการลดน้ำหนักอย่างต่อเนื่องและเพื่อตรวจสอบผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นของการลดน้ำหนักโดยเจตนาในการเกิดซ้ำของมะเร็งเต้านมและความอยู่รอด. © 2015 โดยสังคมอเมริกันคลินิกโรคมะเร็ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์นามธรรม
:
โรคอ้วนเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านม และโรคร่วมสำคัญของผู้หญิงที่ได้รับการวินิจฉัยและรับการรักษาสำหรับโรคมะเร็งเต้านม การออกกำลังกายและโภชนาการเพื่อเพิ่มการกู้คืนและสุขภาพที่ดีสำหรับคุณ ( พลังงาน ) การศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในการสูญเสียน้ำหนักโดยการทดลองในผู้รอดชีวิตจากมะเร็งเต้านมถึงวันที่ วิธีการ :

ในสหศาล692 คนอ้วน / ผู้หญิงอ้วนที่มีอายุเฉลี่ย 2 ปี เนื่องจากการรักษามะเร็งเต้านมระยะแรก การสุ่มเป็นกลุ่มพฤติกรรมการแทรกแซงทั้งกลุ่มตามเสริมด้วยการให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์ และเสข่าว สนับสนุนการสูญเสียน้ำหนักหรือการแทรกแซงควบคุมเข้มข้นน้อยกว่า และสังเกตเป็นเวลา 2 ปี น้ำหนักและความดันวัดที่ 6 , 12 , 18และ 24 เดือน รุ่นผสมและวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผลลัพธ์ :

ที่ 12 เดือนหมายถึงการสูญเสียน้ำหนัก 6.0 % ของน้ำหนักเริ่มต้นในกลุ่ม 1.5 % ในกลุ่มควบคุม ( p < . 001 ) 24 เดือน หมายถึงการสูญเสียน้ำหนักในการแทรกแซงและกลุ่มควบคุมคือ 3.7 % และ 1.3% ตามลำดับ ( P < . 001 )ลักษณะที่ดีของการแทรกแซงในการออกกำลังกายและความดันโลหิตลดลง น้ำหนักการสูญเสียการแทรกแซงมีประสิทธิภาพมากในหมู่ผู้หญิงอายุมากกว่า 55 ปี มากกว่าในผู้หญิงอายุน้อยกว่า สรุป :

เป็นพฤติกรรมการแทรกแซงทางการแพทย์สามารถนำไปสู่การสูญเสียน้ำหนักการสูญเสียน้ำหนักน้ำหนักเกิน / อ้วน มีความหมายในผู้รอดชีวิตจากมะเร็งเต้านมการค้นพบนี้สนับสนุนความต้องการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อทดสอบวิธีการที่สนับสนุนการสูญเสียน้ำหนักที่ยั่งยืนและเพื่อศึกษาประโยชน์ของการสูญเสียน้ำหนักเป็นความตั้งใจในการเกิดโรคมะเร็งเต้านมและการอยู่รอด
สงวนลิขสิทธิ์ 2015 จากสังคมมะเร็งวิทยาทางคลินิกอเมริกัน