ปราสาทฮิเมะจิ (ญี่ปุ่น: 姫路城 Himeji-

ปราสาทฮิเมะจิ (ญี่ปุ่น: 姫路城 Himeji-jo, Himeji Castle ?) เป็นปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมะจิ จังหวัดเฮียวโงะ เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ฮันชิง พ.ศ. 2538 ปราสาทฮิเมะจิได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2536 ถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น โดยอีก 2 แห่งคือ ปราสาทมะสึโมะโตะ และปราสาทคุมะโมะโตะ และยังเป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกในชื่อว่า "ปราสาทนกกระสาขาว" หรือ ฮะคุระโจะ[1] ซึ่งมีที่มาจากพื้นผิวปราสาทภายนอกซึ่งมีสีขาวสว่าง ในปัจจุบันปราสาทฮิเมะจิได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นและมรดกโลก
เมื่อปี 1346 อะกะมะสึ ซะดะโนะริ ได้วางแผนที่จะสร้างปราสาทขึ้นที่เชิงเขาฮิเมะจิที่ซึ่งอากามัตสึ โนริมุระ ได้สร้างวัดโชเมียวขึ้น หลังจากอากามัตสึเสียชีวิตในสงครามคาคิทสึ ตระกูลยามานะได้เข้าครอบครองปราสาท แต่หลังจากสงครามโอนิน ตระกูลอากามัตสึก็ยึดปราสาทกลับมาได้อีกครั้ง

ปี 1580 โทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะชิ ได้เข้ามาเป็นผู้ปกครองปราสาท และมีการสร้างหออาคารหลักสูง 3 ชั้น ดำเนินการโดยคุโระดะ โยะชิตะกะ

หลังจากสงครามเซกิงาฮาราในปี ค.ศ. 1601 โทะกุงะวะ อิเอะยะสุได้ยกปราสาทฮิเมะจิให้แก่อิเคะดะ เทะรุมะซะุ อิเคดะได้ดำเนินการต่อเติมปราสาทเป็นเวลา 8 ปี จนเป็นรูปลักษณ์อย่างที่เห็นในปัจจุบัน ส่วนต่อเติมส่วนสุดท้าย คือ วงเวียนด้านตะวันตก เสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 1618

เมื่อสิ้นสุดยุคเอโดะ ปราสาทฮิเมะจิเป็นหนึ่งในสมบัติชิ้นสุดท้ายของไดเมียว โทะซะมะ ขณะนั้นปราสาทถูกปกครองโดยทายาทของซะกะอิ ทะดะซุมิ จนกระทั่งเมื่อเข้าสู่ยุคเมจิ ปี ค.ศ. 1868 รัฐบาลใหม่ของญี่ปุ่นได้ส่งกองกำลังภายใต้การบังคับบัญชาของทายาทของอิเคดะ เทะรุมะซะ เข้าบุกปราสาท และขับไล่ผู้ปกครองออกไป

ปราสาทฮิเมะจิถูกทิ้งระเบิดในปี ค.ศ. 1945 เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง แม้ว่าพื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่จะถูกเผาทำลาย แต่ปราสาทยังคงตั้งอยู่ได้โดยแทบไม่เสียหาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปราสาทฮิเมะจิ (ญี่ปุ่น: 姫路城ฮิเมจิ-โจ ปราสาทฮิเมจิ?) เป็นปราสาทญี่ปุ่นตั้งอยู่ในเมืองฮิเมะจิจังหวัดเฮียวโงะเป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ฮันชิงพ.ศ. 2538 ปราสาทฮิเมะจิได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคมปีพ.ศ. 2536 ถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่นโดยอีก 2 แห่งคือปราสาทมะสึโมะโตะและปราสาทคุมะโมะโตะและยังเป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในญี่ปุ่นชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกในชื่อว่า "ปราสาทนกกระสาขาว" หรือฮะคุระโจะ [1] ซึ่งมีที่มาจากพื้นผิวปราสาทภายนอกซึ่งมีสีขาวสว่างในปัจจุบันปราสาทฮิเมะจิได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นและมรดกโลก1346 ภาคเมื่อปีอะกะมะสึซะดะโนะริได้วางแผนที่จะสร้างปราสาทขึ้นที่เชิงเขาฮิเมะจิที่ซึ่งอากามัตสึโนริมุระได้สร้างวัดโชเมียวขึ้นหลังจากอากามัตสึเสียชีวิตในสงครามคาคิทสึตระกูลยามานะได้เข้าครอบครองปราสาทแต่หลังจากสงครามโอนินตระกูลอากามัตสึก็ยึดปราสาทกลับมาได้อีกครั้งปี 1580 โทะโยะโตะมิฮิเดะโยะชิได้เข้ามาเป็นผู้ปกครองปราสาทและมีการสร้างหออาคารหลักสูง 3 ชั้นดำเนินการโดยคุโระดะโยะชิตะกะหลังจากสงครามเซกิงาฮาราในปีค.ศ. 1601 โทะกุงะวะอิเอะยะสุได้ยกปราสาทฮิเมะจิให้แก่อิเคะดะเทะรุมะซะุอิเคดะได้ดำเนินการต่อเติมปราสาทเป็นเวลา 8 ปีจนเป็นรูปลักษณ์อย่างที่เห็นในปัจจุบันส่วนต่อเติมส่วนสุดท้ายคือวงเวียนด้านตะวันตกเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 1618เมื่อสิ้นสุดยุคเอโดะปราสาทฮิเมะจิเป็นหนึ่งในสมบัติชิ้นสุดท้ายของไดเมียวโทะซะมะขณะนั้นปราสาทถูกปกครองโดยทายาทของซะกะอิทะดะซุมิจนกระทั่งเมื่อเข้าสู่ยุคเมจิปีค.ศ. 1868 รัฐบาลใหม่ของญี่ปุ่นได้ส่งกองกำลังภายใต้การบังคับบัญชาของทายาทของอิเคดะเทะรุมะซะเข้าบุกปราสาทและขับไล่ผู้ปกครองออกไปปราสาทฮิเมะจิถูกทิ้งระเบิดในปีค.ศ. 1945 เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองแม้ว่าพื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่จะถูกเผาทำลายแต่ปราสาทยังคงตั้งอยู่ได้โดยแทบไม่เสียหาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปราสาทฮิเมะจิ (ญี่ปุ่น:姫路城Himeji-jo ปราสาทฮิเมจิ) เป็นปราสาทญี่ปุ่นตั้งอยู่ในเมืองฮิเมะจิจังหวัดเฮียวโงะ พ.ศ. 2538 พ.ศ. 2536 ถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่นโดยอีก 2 แห่งคือปราสาทมะสึโมะโตะและปราสาทคุมะโมะโตะ ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกในชื่อว่า "ปราสาทนกกระสาขาว" หรือฮะคุระโจะ [1]
1346 อะกะมะสึซะดะโนะริ โนริมุระได้สร้างวัดโชเมียวขึ้น ตระกูลยามานะได้เข้าครอบครองปราสาท แต่หลังจากสงครามโอนิน 1580 โทะโยะโตะมิฮิเดะโยะชิได้เข้ามาเป็นผู้ปกครองปราสาทและมีการสร้างหออาคารหลักสูง 3 ชั้นดำเนินการโดยคุโระดะ ค.ศ. 1601 โทะกุงะวะ เทะรุมะซะุ 8 ปี ส่วนต่อเติมส่วนสุดท้ายคือวงเวียนด้านตะวันตกเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 1618 เมื่อสิ้นสุดยุคเอโดะ โทะซะมะ ทะดะซุมิจนกระทั่งเมื่อเข้าสู่ยุคเมจิปี ค.ศ. 1868 เทะรุมะซะเข้าบุกปราสาท ค.ศ. 1945 เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปราสาทฮิเมะจิ ( ญี่ปุ่น : 姫路城ฮิเมจิโจ ปราสาท ฮิเมจิ ?) เป็นปราสาทญี่ปุ่นตั้งอยู่ในเมืองฮิเมะจิจังหวัดเฮียวโงะเป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ฮันชิงพ . ศ .2538 ปราสาทฮิเมะจิได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคมปีพ . ศ .2536 ถือว่าเป็น 1 the 3 ปราสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่นโดยอีก 2 แห่งคือปราสาทมะสึโมะโตะและปราสาทคุมะโมะโตะและยังเป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในญี่ปุ่นชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกในชื่อว่า " ปราสาทนกกระสาขาว "ฮะคุระโจะ [ 1 ] ซึ่งมีที่มาจากพื้นผิวปราสาทภายนอกซึ่งมีสีขาวสว่างในปัจจุบันปราสาทฮิเมะจิได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นและมรดกโลก
เมื่อปี 1354 อะกะมะสึซะดะโนะริได้วางแผนที่จะสร้างปราสาทขึ้นที่เชิงเขาฮิเมะจิที่ซึ่งอากามัตสึโนริมุระได้สร้างวัดโชเมียวขึ้นหลังจากอากามัตสึเสียชีวิตในสงครามคาคิทสึตระกูลยามานะได้เข้าครอบครองปราสาทตระกูลอากามัตสึก็ยึดปราสาทกลับมาได้อีกครั้ง

. 977 โทะโยะโตะมิฮิเดะโยะชิได้เข้ามาเป็นผู้ปกครองปราสาทและมีการสร้างหออาคารหลักสูง 3 ชั้นดำเนินการโดยคุโระดะโยะชิตะกะ

หลังจากสงครามเซกิงาฮาราในปีค . ศ .1601 โทะกุงะวะอิเอะยะสุได้ยกปราสาทฮิเมะจิให้แก่อิเคะดะเทะรุมะซะุอิเคดะได้ดำเนินการต่อเติมปราสาทเป็นเวลาจนเป็นรูปลักษณ์อย่างที่เห็นในปัจจุบันส่วนต่อเติมส่วนสุดท้ายความวงเวียนด้านตะวันตก 8 .1

เมื่อสิ้นสุดยุคเอโดะปราสาทฮิเมะจิเป็นหนึ่งในสมบัติชิ้นสุดท้ายของไดเมียวโทะซะมะขณะนั้นปราสาทถูกปกครองโดยทายาทของซะกะอิทะดะซุมิจนกระทั่งเมื่อเข้าสู่ยุคเมจิ . ค . ศ .