The system did not survive the man,

The system did not survive the man, or at least, not completely. Even before a new leader had emerged from among them, the men in Stalin's circle sought to limit his excesses—the extensive use of coercion and terror that threatened even those at the top, including themselves; extravagant and wasteful projects; concentration on military production; and neglect of consumer goods and human needs. Cultural controls eased. In 1954, Ilya Ehrenburg's novel The Thaw gave its name to the era. It featured harsh criticism of the ruling elite, depicted as personifying the Soviet system. Tens of thousands of prisoners were released from the camps, as were the accused in the "Doctors' Plot." Some ethnic groups deported before and during the war, such as the Chechen, Ingush, and Kalmyk peoples, regained their legal rights and subsequently were permitted to return to their territory. Deportees from the western portions of the USSR received amnesties, too, although some had engaged in armed resistance to Soviet power. Within three years of Stalin's death, perhaps a million prisoners had returned from the camps. The press made no mention of it.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระบบไม่รอดคน หรือน้อย ไม่สมบูรณ์ ก่อนที่ผู้นำคนใหม่ที่ได้โผล่ออกมาจากพวกเขา คนในวงกลมของสตาลินพยายามที่จะจำกัด excesses ของเขา — การใช้ข่มขู่และการก่อการร้ายที่คุกคามแม้เหล่านั้นที่ด้านบน รวมทั้งตัวเอง โครงการฟุ่มเฟือย และสิ้นเปลือง ความเข้มข้นในการผลิตทหาร และละเลยของสินค้าอุปโภคบริโภคและความต้องการของมนุษย์ การควบคุมทางวัฒนธรรมผ่อนคลายลง ในปี 1954 นวนิยายท่อง Ehrenburg ละลายการให้ชื่อยุค มันแนะนำวิจารณ์อย่างรุนแรงของชนชั้นปกครอง เป็น personifying ระบบโซเวียต นับหมื่นของนักโทษเผยแพร่จากค่าย เช่น ผู้ถูกกล่าวหาใน "พล็อตของแพทย์" บางชนเผ่าที่เนรเทศก่อน และ ระหว่าง สงคราม เช่นเชชเนีย อินกุช และภาษาชนชาติ คืนสิทธิทางกฎหมาย และต่อมาได้รับการอนุญาตเพื่อกลับไปยังดินแดนของพวกเขา ลอสซอว์จากส่วนตะวันตกของสหภาพโซเวียตได้รับ amnesties เกินไป แม้ว่าบางส่วนมีส่วนร่วมในการต้านทานกองกำลังโซเวียต ภายใน 3 ปีของการตายของสตาลิน บางทีนักโทษล้านได้กลับจากค่าย พูดถึงของมันกดได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระบบจะไม่รอดคนหรืออย่างน้อยไม่สมบูรณ์ แม้กระทั่งก่อนที่ผู้นำคนใหม่ได้โผล่ออกมาจากในหมู่พวกเขาคนที่อยู่ในแวดวงที่สตาลินพยายามที่จะ จำกัด การตะกละที่ครอบคลุมการใช้บังคับขู่เข็ญและความหวาดกลัวที่ขู่ว่าแม้ผู้ที่ด้านบนรวมทั้งตัวเองของเขา ฟุ่มเฟือยและสิ้นเปลืองโครงการ ความเข้มข้นในการผลิตทางทหาร และการละเลยของสินค้าอุปโภคบริโภคและความต้องการของมนุษย์ ควบคุมวัฒนธรรมปลดเปลื้อง ในปี 1954 Ilya Ehrenburg นวนิยายใจอ่อนทำให้ชื่อของยุค มันเป็นจุดเด่นวิจารณ์ที่รุนแรงของชนชั้นปกครองที่ปรากฎเป็น personifying ระบบโซเวียต นับหมื่นของนักโทษที่ถูกปล่อยออกมาจากค่ายเช่นเดียวกับที่ผู้ถูกกล่าวหาใน "พล็อตแพทย์ '." บางกลุ่มชาติพันธุ์ที่ถูกเนรเทศออกก่อนและระหว่างการสงครามเช่นเชเชน Ingush และชนชาติ Kalmyk, คืนสิทธิตามกฎหมายของพวกเขาและต่อมาได้รับอนุญาตให้กลับไปยังดินแดนของพวกเขา หน้าที่จากส่วนตะวันตกของสหภาพโซเวียตได้รับการนิรโทษกรรมมากเกินไปแม้ว่าบางคนได้มีส่วนร่วมในการต่อต้านกองกำลังติดอาวุธในการใช้พลังงานของสหภาพโซเวียต ภายในสามปีของการตายของสตาลินอาจจะเป็นล้านนักโทษเพิ่งกลับมาจากค่าย กดทำให้ไม่มีการเอ่ยถึงมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ระบบจะไม่รอด ผู้ชาย หรือ อย่างน้อย ไม่สมบูรณ์ ก่อนที่หัวหน้าใหม่โผล่จากในหมู่พวกเขา ผู้ชายในแวดวงของสตาลินพยายาม จำกัด ของเขามาตรฐานการใช้ที่กว้างขวางของการข่มขู่และความหวาดกลัวที่คุกคามแม้ผู้ที่อยู่ด้านบน รวมทั้งตัวเอง ; โครงการฟุ่มเฟือยและฟุ่มเฟือย ; ความเข้มข้นในการผลิตทางทหาร และละเลยของสินค้าที่ผู้บริโภคและความต้องการของมนุษย์ การควบคุมทางวัฒนธรรมนั้น . ใน 1954 , Ilya ehrenburg นวนิยายละลายให้ชื่อเป็นยุค มันมีคุณลักษณะการวิจารณ์ที่รุนแรงของชนชั้นปกครองที่ปรากฎเป็นแหล่ , ระบบโซเวียต นับหมื่นของนักโทษที่ถูกปล่อยตัวจากค่าย ขณะผู้ต้องหาใน " ของแพทย์แผน " บางกลุ่มชาติพันธุ์ที่ถูกเนรเทศในช่วงก่อนและระหว่างสงครามเชเชนนกุช , เช่น , และ Kalmyk คนได้รับสิทธิตามกฎหมายของพวกเขาและต่อมาได้รับอนุญาตให้กลับไปยังดินแดนของตน ในหน้าที่การงานจากส่วนตะวันตกของสหภาพโซเวียตได้รับ amnesties เกินไป , แม้ว่าบาง ได้ร่วมในการรบกับอำนาจของสหภาพโซเวียต . ภายในสามปีของสตาลินตาย บางทีล้านนักโทษกลับมาจากค่าย กดไม่ได้กล่าวถึงมัน