Polymer industries generate signifi

Polymer industries generate significant amounts of effluent which has to be treated before being discharged into water stream. So far, very little attention has been paid towards polymer effluent treatment by physio-chemical process. In the present study, chemical coagulation–flocculation process was used to separate solids from industrial polymer effluent in order to make the effluent dischargeable with suitable characteristics. Aluminium sulphate [Al2(SO4)3] and anionic polyacrylamide (Magnafloc155) were used as coagulant and flocculant respectively. Sulphuric acid (H2SO4) and lime solution [Ca(OH)2] were used to adjust the pH values during the treatment process. A series of jar tests were conducted with different values of pH and dosing amounts of coagulant and flocculant. After each test, the supernatant layer of treated effluent was analysed for chemical oxygen demand (COD), suspended solids (SS), colour and turbidity. The process efficiency varied between 10 and 98% in COD removal, between 23 and 91% in suspended solids removal and between 37% and 99% reduction in turbidity. The optimal working pH value for coagulation was found to be 6 and that for flocculation was 8. The optimal doses of coagulant and flocculant were 7.5 mL/L of effluent. These jar testing results have been further proved by a successful pilot scale trial at the polymer plant with 1000 L effluent in an intermediate bulk container (IBC) using the same optimal values of the jar tests, which indicates that the chemical coagulation and flocculation process is a feasible solution for the treatment of effluent generated at polymer industry.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อุตสาหกรรมพอลิเมอร์สร้างจำนวนน้ำที่ต้องรักษาก่อนที่จะถูกปล่อยออกในน้ำ ที่สำคัญ เพื่อห่างไกล ความสนใจน้อยมากมีการชำระเงินต่อการบำบัดน้ำทิ้งของพอลิเมอร์โดยกระบวนการเคมี physio ในการศึกษาปัจจุบัน กระบวนการแข็งตัวของเลือด-flocculation เคมีถูกใช้เพื่อแยกของแข็งออกจากน้ำทิ้งอุตสาหกรรมพอลิเมอร์เพื่อให้น้ำ dischargeable มีลักษณะที่เหมาะสม อะลูมิเนียมซัลเฟต [Al2 (SO4) 3] polyacrylamide ย้อม (Magnafloc155) ถูกใช้เป็น coagulant และ flocculant ตามลำดับ กรดซัลฟุริก (กำมะถัน) และโซลูชันมะนาว [Ca (OH) 2] ถูกใช้เพื่อปรับค่า pH ระหว่างการรักษา ได้ดำเนินการชุดการทดสอบขวด มีค่าแตกต่างของ pH และในจำนวนของ coagulant และ flocculant หลังจากการทดสอบแต่ละ ชั้น supernatant ของน้ำทิ้งที่บำบัดได้ analysed ต้องการออกซิเจนทางเคมี (COD), ของแข็งระงับ (SS), สี และความขุ่น ประสิทธิภาพกระบวนการแตกต่างกัน ระหว่าง 10 และ 98% ในการกำจัด COD, 23 และ 91% ในการกำจัดของแข็งระงับ และ 37% และ 99% การลดความขุ่นของน้ำ ตรวจพบค่า pH ทำดีที่สุดสำหรับการแข็งตัวของเลือดเป็น 6 และสำหรับ flocculation คำ 8 ปริมาณสูงสุดของ coagulant และ flocculant 7.5 mL/L ของน้ำได้ พิสูจน์ผลลัพธ์การทดสอบขวดเหล่านี้ โดยการทดลองระดับนำร่องที่ประสบความสำเร็จที่โรงงานพอลิเมอร์กับน้ำ 1000 L ในการเป็นกลุ่มกลางคอนเทนเนอร์ (IBC) ใช้ค่าสูงสุดของการทดสอบขวด ซึ่งบ่งชี้ว่า กระบวนการการแข็งตัวของเลือดและ flocculation เคมีแก้ไขปัญหาเป็นไปได้สำหรับการบำบัดน้ำทิ้งที่สร้างในอุตสาหกรรมพอลิเมอร์ ต่อไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อุตสาหกรรมพอลิเมอสร้างจำนวนเงินที่สำคัญของน้ำทิ้งที่มีได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลก่อนที่จะถูกน้ำเข้าไปในกระแส เพื่อให้ห่างไกลความสนใจน้อยมากได้รับการชำระเงินที่มีต่อการบำบัดน้ำเสียโดยกระบวนการพอลิเมอออกกำลังเคมี ในการศึกษากระบวนการแข็งตัว-ตะกอนสารเคมีที่ถูกใช้ในการแยกของแข็งออกจากน้ำทิ้งลิเมอร์อุตสาหกรรมในการที่จะทำให้น้ำทิ้ง dischargeable ที่มีลักษณะที่เหมาะสม อลูมิเนียมซัลเฟต [Al2 (SO4) 3] และ polyacrylamide ประจุลบ (Magnafloc155) ถูกนำมาใช้เป็นตกตะกอนและตกตะกอนตามลำดับ กรดกำมะถัน (H2SO4) และวิธีการแก้ปัญหามะนาว [Ca (OH) 2] ถูกนำมาใช้ในการปรับค่าพีเอชในระหว่างขั้นตอนการรักษา ชุดของการทดสอบขวดได้ดำเนินการที่มีค่าพีเอชที่แตกต่างกันของยาและจำนวนเงินของการตกตะกอนและตกตะกอน หลังจากการทดสอบแต่ละชั้นใสของน้ำเสียได้รับการรักษาได้รับการวิเคราะห์ความต้องการออกซิเจนทางเคมี (COD) สารแขวนลอย (SS) สีและความขุ่น ประสิทธิภาพกระบวนการที่แตกต่างกันระหว่าง 10 และ 98% ในการกำจัด COD, ระหว่างวันที่ 23 และ 91% ในการระงับการกำจัดของแข็งและระหว่าง 37% และการลดลง 99% ในความขุ่น ค่าพีเอชที่เหมาะสมสำหรับการทำงานการแข็งตัวพบว่า 6 และที่เป็นตะกอน 8. ปริมาณที่เหมาะสมของการตกตะกอนและตกตะกอนเป็น 7.5 มิลลิลิตร / ลิตรของน้ำทิ้ง ผลการทดสอบขวดเหล่านี้ได้รับการพิสูจน์ต่อไปโดยการทดลองระดับนำร่องที่ประสบความสำเร็จที่โรงงานลิเมอร์ที่มีน้ำเสีย 1,000 ลิตรในภาชนะบรรจุเป็นกลุ่มกลาง (IBC) โดยใช้ค่าที่เหมาะสมเดียวกันของการทดสอบขวดซึ่งบ่งชี้ว่าการแข็งตัวของสารเคมีและกระบวนการตะกอนเป็น วิธีการแก้ปัญหาที่เป็นไปได้สำหรับการรักษาของน้ำเสียที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมโพลิเมอร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อุตสาหกรรมพอลิเมอร์สร้างยอดเงินที่สำคัญของน้ำทิ้งที่ต้องถูกบำบัดก่อนปล่อยลงสู่น้ำที่ลำธาร ดังนั้นไกล มีเพียงเล็กน้อยที่สนใจต่อพอลิเมอร์จากการรักษาโดยกระบวนการทางเคมีกายภาพ . ในการศึกษาครั้งนี้การตกตะกอนทางเคมีและกระบวนการรวมตะกอนถูกใช้เพื่อแยกของแข็งออกจากน้ำทิ้งอุตสาหกรรมโพลิเมอร์ เพื่อทำให้ dischargeable น้ำที่มีลักษณะที่เหมาะสม al2 สารส้มขุ่น ( ปา [ 3 ] และ polyacrylamide ประจุลบ ) ( magnafloc155 ) ถูกใช้เป็นสารตกตะกอน และกูแลนท์ ตามลำดับกรด กำมะถัน ( กรดซัลฟิวริก ) และมะนาวโซลูชั่น [ Ca ( OH ) 2 ] ถูกใช้เพื่อปรับค่า pH ในกระบวนการรักษา ชุดทดสอบ jar จำนวน ด้วยค่าที่แตกต่างกันของ pH และปริมาณสารเคมี และกูแลนท์ หลังจากการทดสอบแต่ละชั้นสูงของน้ำถือว่าเป็นวิเคราะห์ความต้องการออกซิเจนทางเคมี ( COD ) , ของแข็งแขวนลอย ( SS ) , สีและความขุ่นกระบวนการประสิทธิภาพแตกต่างกันระหว่าง 10 และ 98% ในการกำจัดซีโอดีระหว่าง 23 และ 91% ในการบำบัดของแข็งแขวนลอย และระหว่าง 37% และลด 99% และความขุ่น ค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับการทำงานคือ 6 และเพื่อรวมตะกอนอายุ 8 ขวบ ปริมาณที่เหมาะสมของการตกตะกอนกูแลนท์เป็น 7.5 ml / l และในน้ำทิ้งขวดเหล่านี้ผลการทดสอบได้รับการพิสูจน์ โดยนำร่องที่ประสบความสำเร็จจากการทดลองที่พอลิเมอร์ด้วยพืชลิตรน้ำในภาชนะขนาดใหญ่กลาง ( IBC ) การใช้ที่เหมาะสมของค่าเดียวกันขวดทดสอบ ซึ่งพบว่า การสร้างและรวมตะกอนทางเคมีกระบวนการเป็นคำตอบที่เป็นไปได้สำหรับการรักษาน้ำที่สร้างขึ้นในอุตสาหกรรมพอลิเมอร์